WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

6180 DMT Thanin

บมจ.ทางยกระดับดอนเมืองจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล พร้อมนำความเชี่ยวชาญเสริมแกร่งธุรกิจ เดินแผนชิงงานโครงการรัฐ มั่นใจ ก้าวข้ามปลายปีนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลาย หนุนกิจกรรม ศก. กลับมา

         บมจ.ทางยกระดับดอนเมืองหรือ DMT เปิดแผนครึ่งปีหลัง นำความเชี่ยวชาญและฐานทุนต่อยอดสร้างโอกาสเข้าร่วมเสนองานภาครัฐตามนโยบายให้เอกชนร่วมลงทุน เดินหน้าศึกษาโครงการ M-Flow และโครงการร่วมพัฒนา Rest Area และ พัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งรอง (Feeder) โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง หลังรัฐกดปุ่มเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยโควิด-19 โดยมีรายได้จากค่าผ่านทาง 251.44 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 63.15 ล้านบาท ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 สิงหาคมนี้

          นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ผู้บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมโครงการทางยกระดับอุตราภิมุขหรือทางยกระดับดอนเมือง เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานครึ่งปีหลัง DMT จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน เข้าไปขยายงานและสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อร่วมโครงการภาครัฐ ตามนโยบายให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในการเป็นผู้รับสัมปทานดำเนินงานและบำรุงรักษาทางหลวงพิเศษและทางพิเศษ โดยคาดว่ารายละเอียดโครงการต่างๆ จะมีความชัดเจนในปลายปีนี้ เช่นเดียวกับโครงการระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้นหรือ M-Flow ของกรมทางหลวง โดยได้ศึกษาแนวทางการร่วมดำเนินงานในโครงการ M-Flow เพื่อนำองค์ความรู้ด้านงานระบบ งานบริหารจัดการ การตรวจสอบการละเมิดและการติดตามทวงถามค่าผ่านทาง เพื่อเข้าไปร่วมรับงานดังกล่าว หลังจาก DMT มีแผนติดตั้ง M-Flow Demo Lane Test ที่บริเวณด่านดินแดงเพื่อทดสอบระบบ

 

4274 DMT

 

          นอกจากนี้ DMT มีแผนจะขยายโอกาสทางธุรกิจในส่วนโครงการอื่นๆ ที่สนใจโครงการพัฒนาจุดพักรถริมทางหลวงหรือ Rest Area ที่กรมทางหลวงได้เชิญเอกชนผู้สนใจเข้าประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น (Market Sounding) สำหรับโครงการบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กรุงเทพ-บ้านฉาง ซึ่งกรมทางหลวงมีแผนที่จะประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนแบบ PPP จำนวน 2 แห่ง ที่ศรีราชาและบางละมุง ช่วงไตรมาสที่ 4/2564 แผนเปิดบริการในปี 2566 และอีก 2 โครงการ คือ โครงการจุดพักรถริมทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา และ หมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่จะมีการเปิดประมูลในปี 2565 เปิดให้บริการ 2567 โดยกรมทางหลวงมีเป้าหมายต้องการพัฒนาจุดพักรถที่มีความทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบถ้วนสำหรับผู้เดินทางที่มาใช้บริการมอเตอร์เวย์ให้เป็นจุดพักรถเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง ให้เกิดความสะดวก และปลอดภัย ซึ่ง DMT สามารถนำประสบการณ์การร่วมลงทุนในกิจการของรัฐเข้ายื่นเสนอเป็นผู้รับสัมปทานร่วมกับพันธมิตร โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย Smart, Modern, Innovative ผนวกกับประสบการณ์การให้บริการทางด่วนกว่า 30 ปี ที่มีการบริหารจัดการต้นทุนดำเนินงานและบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมและยังคงให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การให้บริการผู้ใช้ทางและการสร้างสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าซึ่ง DMT จะนำประสบการณ์ส่วนนี้ ที่มีความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ใช้ทาง ผ่านระบบ Customer Relationship Management หรือ CRM มาตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังสนใจเข้าร่วมพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งรอง (Feeder) โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง หลังจากเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าว DMT ได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยศึกษาการใช้ระบบ Smart Feeder มาให้บริการ ซึ่งในระหว่างสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ขณะนี้ DMT มีสภาพคล่องทางการเงินที่เข็มแข็ง เพื่อสนับสนุนการทำงานขับเคลื่อนของ DMT สำหรับให้บริการประชาชน และ สนับสนุนงานคมนาคมของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และ ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ และเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

          หลังจากที่เราเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้เรามีความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนพร้อมสร้างโอกาสการขยายธุรกิจใหม่ๆ โดยจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่มีมานานกว่า 30 ปี เข้าไปร่วมพัฒนาโครงการที่ภาครัฐเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน โดยเราศึกษาและวางแผนประมูลในโครงการที่มีศักยภาพรวมถึงได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายนายธานินทร์ กล่าว

          ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจและการเงิน DMT กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 DMTได้ชำระหนี้ตามสัญญาทางการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวจำนวน 1,683.78 ล้านบาท จากกระแสเงินสดจากการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ภาระหนี้ฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือเงินกู้ระยะสั้น ประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 300 ล้านบาท ทำให้มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (เท่า) ปรับลดลงจาก 0.40 เป็น 0.11 อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) ปรับเพิ่มขึ้นจาก 0.27 เป็น 0.84 เมื่อเปรียบเทียบ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 รวมทั้งมีวงเงินหมุนเวียนเพื่อสำรองไว้ใช้ในกิจการ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 DMT มีวงเงินสินเชื่อซึ่งยังมิได้เบิกใช้เป็นจำนวนเงินรวม 620 ล้านบาท (31 ธันวาคม 2563 : 350 ล้านบาท) ซึ่งเป็นวงเงินที่ได้รับเพิ่มเติมและลงนามในสัญญา ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 จำนวน 120 ล้านบาท และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกกว่า 300-350 ล้านบาท จากผลสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้ DMT มีระดับของหนี้สินหมุนเวียนลดลงอย่างมีนัยสำคัญอันส่งผลให้ DMT มีสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 เพื่อสามารถรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ในระยะยาวอย่างแน่นอน พร้อมขยายกิจการในการเข้าร่วมประมูลงาน ที่ภาครัฐเปิดประมูลเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุน (Public Private Partnership) ในช่วงปลายปี 2564-2565 หลายโครงการ

 

6180 DMT

 

          โดยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2564 (เมษายน-มิถุนายน) DMT ยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ทำให้ภาครัฐเพิ่มระดับความเข้มงวดหลังจากมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยประกาศมาตรการ Lockdown และเคอร์ฟิว เพื่อบริหารจัดการควบคุมผู้ติดเชื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีจำนวนมาก ส่งผลต่อปริมาณการจราจรในเส้นทางยกระดับส่วนสัมปทานเดิมไตรมาสนี้ลดลงเหลือ 27,897 คันต่อวัน หรือลดลง 36.29% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 ที่มี 43,758 คันต่อวัน และส่วนต่อขยายทางด้านทิศเหนือชะลอตัวลง 31.28% หรือลดลงเหลือ 20,245 คันต่อวัน เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มี 29,473 คัน เป็นผลให้รายได้จากค่าผ่านทางในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 251.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.15 ล้านบาท และจากการที่ DMT มีการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการด้านต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพภายใต้แผน BCP หรือ Business Continuity Plan เพื่อบริหารความเสี่ยงตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคในระลอกที่ 2 เมื่อตอนต้นปี โดยบริหารควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องสามารถลดต้นทุนได้ถึง 169 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28% เมื่อเทียบกับปี 2563 รวมถึงภาระหนี้สินตามสัญญาทางการเงินที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ DMT สามารถรับมือกับความเสี่ยงจากปัจจัยที่เกิดขึ้นได้เป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้กำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2564) มีกำไรสุทธิ 206.24 ล้านบาท

          ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 82,686,296 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ และจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 กันยายน 2564

          ทั้งนี้ DMT มองว่านโยบายภาครัฐในการเร่งจัดวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงเกินกว่าร้อยละ 70 ภายในปีนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และลดความรุนแรงของการติดเชื้อ จะส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้งภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ปริมาณการจราจรทยอยปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนภายหลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 เชื่อว่าจะนิยมใช้รถยนต์ส่วนบุคคลสูงขึ้น เนื่องจากเป็นรูปแบบการเดินทางที่ปลอดภัยมีลักษณะแบบ Door-to-Door รวมถึงปัจจัยการขยายตัวของชุมชนทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ จะเข้ามาช่วยสร้างโอกาสให้แก่ DMT เพิ่มขึ้น

 

A8359

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!