WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBSวลาสน'โกลเบล็ก' ลุ้นดัชนีทะลุ 1,720 จุดขานรับตัวเลขเศรษฐกิจโต แนะนำสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเค-กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

      -บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศโต บวกฝรั่งซื้อต่อเนื่อง และแรงเก็งกำไรดักงบ Q3/60 ที่จะทยอยประกาศตั้งแต่กลางเดือนต.ค. มองดัชนีทะลุ 1,720 จุด แนะสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงและหุ้นที่คาดการณ์กำไร Q3/2560 เติบโต รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ผลดีจากเงินบาทอ่อนค่า  ด้านแนวโน้มราคาทองคำ มองว่ากำลังรีบาวน์สู่ระดับ 1,290 ดอลลาร์ แต่ทิศทางหลักยังเป็นการสวิงของขาลงที่มี 1,240–1,260 ดอลลาร์เป็นแนวพักตัวหลัก  จึงแนะนำเน้นเทรดฝั่ง short เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น 

       น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการซื้อเก็งกำไรดักผลประกอบการของบจ.ในช่วงไตรมาส 3/60 รวมถึงข่าวดีด้านเศรษฐกิจจากการที่ธปท. ปรับประมาณการจีดีพีขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.8% ส่วนก.คลังเตรียมปรับประมาณการจีดีพีขึ้นสู่ 3.8% ในเดือนต.ค.นี้เช่นกัน  ขณะที่สภาผู้ส่งออก ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกไทยปี 60 เป็นโตไม่ต่ำกว่า 6% จากเดิม 5% ส่วน Fund flow นักลงทุนต่างชาติในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเป็น Net Buy ราว 1 หมื่นล้านบาท

       ส่วนปัจจัยที่ส่งผลเชิงลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก การคาดธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือน ต.ค. เป็นต้นไป โดยลดวงเงินการถือครองตราสารหนี้ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนจากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ด้วยการปล่อยให้ตราสารหนี้ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการลงทุนใหม่  และราคาน้ำมันโลกปรับลงจากแนวโน้มกำลังผลิตของโอเปกสูงขึ้น หลังผลสำรวจของรอยเตอร์พบกำลังผลิตในเดือนกันยายนของโอเปก อยู่ที่ 32.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 50,000 บาร์เรลต่อวันและเหนือกว่าโควตาการผลิต

       นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาในวันที่ 6 ต.ค. ได้แก่การรายงานนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยและสหรัฐประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. วันที่ 9 ต.ค. จีนจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย. อีกทั้งในสัปดาห์นี้ที่จะมีรายงานการ Preview งบไตรมาส 3/2560 หุ้นกลุ่มธนาคารที่จะทยอยส่งภายใน 21 ต.ค.

       ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก  กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง  Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy อีกครั้ง รวมถึงแรงซื้อดักงบ Q3/17 ที่จะทยอยประกาศตั้งแต่ช่วงกลางเดือนต.ค.เป็นต้นไป  อย่างไรก็ตามภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีมีความผันผวน

       ดังนั้น ประเมินว่า SET จะซิกแซกขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,700-1,720 จุด ทั้งนี้ แนะนำ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง และคาดการณ์กำไร Q3/2560 เติบโต รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่าลง

       สำหรับ แนวทางการลงทุนในทองคำ  นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีความตึงเครียดและเหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นในหลายภูมิภาค  ส่งผลให้เกิดการเร่งสะสมอาวุธเพื่อป้องปรามภัยสงครามและการแบ่งแยกดินแดน  ขณะที่ตัวเก็งผู้เข้ารับตำแหน่งประธาน Fed คนต่อไปคาดว่าจะมุ่งเน้นการใช้นโยบายการเงินตึงตัว ซึ่งผิดกับแนวการใช้มาตรการในช่วงที่ผ่านมา  ทำให้ค่าเงินสกุลหลักมีแนวโน้มจะผันผวนมากขึ้น

         ดังนั้น นักลงทุนที่ซื้อขายทองคำในประเทศควรเก็งกำไรในรอบที่สั้นลงเพื่อลดผลกระทบจากค่าเงิน โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองต่อราคาทองคำโลกว่ากำลังเข้าสู่การรีบาวน์สู่ระดับ 1,290 ดอลลาร์ แต่ทิศทางหลักยังเป็นการสวิงของขาลงที่มี 1,240–1,260 ดอลลาร์ เป็นแนวพักตัวหลัก  จึงแนะนำเน้นเทรดฝั่ง short เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น

สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกันยายน 2560

                เดือนกันยายน 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,673.16 จุด เพิ่มขึ้น 8.4% จากสิ้นปี 2559 และเพิ่มขึ้น 3.5% จากสิ้นเดือนก่อน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นสูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค ขณะที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 504,362 สัญญา เพิ่มขึ้น 88.5% จากเดือนก่อน

ดร. ภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในกลุ่ม emerging market ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,673.16 จุดเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 24 ปี ในขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะใน SET50 Index Futures และ Single Stock Futures  แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นในการลงทุนซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ลงทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

·        ในเดือนกันยายน ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 6,593 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2560 ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 8,947 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับผู้ลงทุนต่างประเทศในตลาดตราสารหนี้ของไทยที่มีสถานะซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2560 เช่นกัน

·        ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนกันยายน ปิดที่ 1,673.16 จุด เพิ่มขึ้น 8.4% จากสิ้นปี 2559 โดยตั้งแต่ต้นปี มี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ และกลุ่มทรัพยากร ตามลำดับ

·        Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 16.75 ขณะที่ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.90 ซึ่งทั้ง Forward P/E และ Historical P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย

·        อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 2.95% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.65%

·        มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนกันยายน อยู่ที่ 16.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จากสิ้นปี 2559

·        มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai ในเดือนกันยายน รวมอยู่ที่ 62,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 อยู่ที่ 47,423 ล้านบาท ลดลง 8.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

·        ในเดือนกันยายน 2560 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 504,362 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 88.5% จากเดือนก่อน ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขาย SET50 Index Futures และ Single Stock Futures ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 อยู่ที่ 301,051 สัญญา เพิ่มขึ้น 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน                  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!