- Details
- Category: บล.
- Published: Thursday, 06 July 2017 11:59
- Hits: 6127
บล.โกลเบล็ก แนะเก็งกำไรหุ้นผลงานไตรมาส 2 เด่น
กรุงเทพฯ-บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยรับปัจจัยบวกจากตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น และแบงก์ชาติมองแนวโน้มศก.ไทยครึ่งหลังปี 60 สดใสกว่าครึ่งปีแรกจากการลงทุนภาคเอกชนที่ฟื้นตัวตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,600 จุด แนะนำหุ้นที่ผลงานไตรมาส 2/60 เติบโตเด่นชู CK -BEM -BANPU -LH -HARN -LIT -BIZ -MGT ด้านแนวโน้มราคาทองคำ ลุ้นรีบาวด์ระยะสั้นแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ยูโรโซน และจีนในเดือนพ.ค.ปรับเพิ่มขึ้นและค่าดัชนีสูงกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงขยายตัว ประกอบกับราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้น หลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 756 แท่น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2560 โตดีกว่าครึ่งปีแรกจากลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิ.ย. 60 ลดลงร้อยละ 0.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติผันผวนต้นเดือนก.ค.พลิกเป็น Net buy เล็กน้อย แต่ในปีนี้ FED จะเริ่มปรับลดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ รวมถึงผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณการพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้มีความเข้มงวดขึ้น
ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมิ.ย.ลดลงจาก 52.3 มาอยู่ที่ระดับ 50.7 ตามยอดขาย-ผลประกอบการ หลังใช้จ่ายในประเทศยังฟื้นตัวไม่เข้มแข็ง และเดือนส.ค.แบงก์ชาติเตรียมออกมาตรการคุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนกดดันรายได้กลุ่มแบงก์
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา สัปดาห์นี้เป็นช่วง Preview งบไตรมาส 2/2560 ของกลุ่มธนาคาร รวมถึง 5 ก.ค. ประชุมกนง. และรายงานนโยบายการเงินในวันที่ 14 ก.ค. เช้าวันที่ 6 ก.ค.คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 มิ.ย. วันที่ 6 ก.ค. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP ตัวเลขดุลการค้าเดือนพ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย. และในวันที่ 7 ก.ค. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงซื้อดักงบไตรมาส 2/2560 ที่เริ่ม Preview และจะประกาศตั้งแต่กลางเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ยังไม่มีสัญญาณไหลเข้าที่ชัดเจนจะกดดันให้ภาวะตลาดมีความผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,600 จุด ดังนั้นแนะนำซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 2/60 จะเติบโต ได้แก่ CK, BEM, BANPU, LH, HARN, LIT, BIZ และ MGT
สำหรับ แนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ เป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่เป็นเป้าหมายระยะสั้นของการปรับลงตามแนวโน้มปัจจุบัน คาดการณ์โอกาสที่ราคาจะแกว่งคาบเกี่ยวแนวระดับดังกล่าวมีลดลง หากชาติมหาอำนาจมีการตอบโต้กันอย่างตรงไปตรงมาในประเด็นที่เกาหลีเหนือเพิ่งประกาศความสำเร็จหลังยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป และการที่สหรัฐฯเคลื่อนเรือรบเข้าสู่เขตทะเลจีนใต้นับเป็นประเด็นความเสี่ยงในระดับภูมิภาค ซึ่งอาจคาดหวังเห็นการรีบาวน์ของราคาทองคำในช่วงสั้น แต่ถ้าเป็นแค่การตอบโต้กันทางวาจาและมีแนวโน้มจะมุ่งเน้นไปที่การเจรจา จะไม่ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ คำเตือนของ Fed เกี่ยวกับความร้อนแรงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ไม่ได้ลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดลง ส่งผลให้เงินทุนยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง จึงประเมินราคาทองคำมีเป้าหมายลงทดสอบระดับ 1,200 ดอลลาร์ และแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรดักรอบรีบาวน์เพียงบางส่วนของพอร์ต แต่ไม่แนะนำให้ซื้อสะสมสำหรับพอร์ตลงทุนระยะกลางถึงยาว