- Details
- Category: บล.
- Published: Saturday, 22 April 2017 22:24
- Hits: 9768
บล.เอเชีย เวลท์ ชี้ความเสี่ยงด้านความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศยังกดดันตลาด แนะนำซื้อ TCAP ลุ้นกำไรไตรมาสแรกสดใส ปันผลสม่ำเสมอ
บล.เอเชีย เวลท์ คาดสัปดาห์นี้ ปริมาณซื้อขายหุ้นในประเทศจะเบาบางเนื่องด้วยจะเข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ระยะหลังขยายตัวดี เช่นเดียวกับของไทย แต่ปัจจัยความเสี่ยงด้านความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มสูงจะกดดันตลาด จึงแนะนำลงทุนในหุ้น Defensive สัปดาห์นี้ Trading Idea แนะนำซื้อ TCAP ราคาเป้าหมาย 55.00 บาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดจากที่สัปดาห์นี้มีวันทำการเพียง 3 วัน และจะเข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
ปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ คือ ความเสี่ยงด้านความขัดแย้งด้านการเมืองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียหลังฝ่ายกบฎต่อต้านรัฐบาลซีเรียจำนวนมากเสียชีวิตด้วยอาวุธเคมี และกองเรือรบสหรัฐที่มีอำนาจโจมตีสูงได้เคลื่อนเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นความตั้งใจของสหรัฐฯ ที่จะกดดันเกาหลีเหนือที่ได้ยิงทดลองขีปนาวุธไปก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศในเอเชียแปซิฟิค เป็นผลให้ตลาดการเงินระหว่างประเทศมีการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งหุ้น ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ได้รับแรงกดดันเช่นกัน
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ล่าสุดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) ออกมาต่ำกว่าคาด แต่อัตราการว่างงานยังลดต่ำไปอีกอยู่ที่ 4.5% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 ปี ถือเป็นการชดเชยกันไป แต่ยังบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งอยู่
แต่ที่สำคัญประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ค นายวิลเลี่ยม ดัดลีย์ ออกมาเน้นย้ำว่าจะลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงไป และจะถอน QE ในที่สุด ซึ่งเท่ากับว่า นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลาย กำลังจะสิ้นสุดลง เพื่อรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการคลังของนายทรัมป์ ซึ่งตลาดกำลังรอคอยอยู่
ด้านปัจจัยในประเทศมีทั้งบวก และลบ ทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศที่กลับมาดี และธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่า เศรษฐกิจในประเทศค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างสม่ำเสมอ แต่รัฐบาลยังมีความกังวลว่านโยบายของทรัมป์ จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคการส่งออก จึงยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดอยู่
ทั้งนี้ เรามองกรอบ SET Index สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 1,577-1,587 จุด
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทำให้ในสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ เลือกหุ้นที่มีลักษณะDefensive ซึ่งเป็นหุ้นที่ทนทานต่อภาวะผันผวนของตลาด และมีเงินปันผลที่สูงและสม่ำเสมอ โดยในสัปดาห์นี้ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อหุ้น TCAP ของ บมจ.ทุนธนชาต โดยคาดว่า TCAP จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่เราคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/60 จะเติบโตถึง 22.5% YoY อยู่ที่ 1.66 พันล้านบาท หนุนโดยการตั้งสำรองฯ ที่ลดลงและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าเราคาดกำไรจะลดลง 2.3% QoQ แต่มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการของเราขึ้น เนื่องจากเราคงสมมติฐานสัดส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่ออย่างอนุรักษ์นิยมที่ระดับใกล้เคียงไตรมาส 4/59 ที่ 80bps
เราประมาณการสินเชื่อในไตรมาส 1/60 จะลดลง 1.5% QoQ และ 2.7% YoY อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าสินเชื่อของTCAP ปีนี้จะกลับมาเติบโต 5% หลังจากหดตัวมา 3 ปีติดต่อกัน เนื่องจาก สินเชื่อเช่าซื้อน่าจะเริ่มหดตัวน้อยลงและสามารถทรงตัวได้หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาห้ามโอนรถในโครงการรถยนต์คันแรก นอกจากนี้ สินเชื่อในกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่สินเชื่อองค์กรขนาดใหญ่ สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ คาดว่าจะเห็นการเติบโตเช่นกัน หนุนโดยเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในวงกว้างและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า TCAP มีสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง จากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารลดลงติดต่อกันมา 10 ไตรมาสแล้วอยู่ที่ 2.4% ในไตรมาส 4/59 ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่สูงถึง 146.8% นอกเหนือจากนั้น ธนาคารไม่น่าจะมีแรงกดดันอีกแล้วหลังจากที่ธนาคารโนวาสโกเทียตัดสินใจที่จะถือหุ้นธนาคารธนชาตต่อไป
"หุ้น TCAP น่าสนใจมากเนื่องจากปัจจุบันซื้อขายกันที่อัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีที่ถูกที่ 0.9 เท่าและมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่เหมาะสมที่ 4.6% เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 10.9% ในปี 60 และ 5.9% โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 55.00 บาท" นายวรุตม์ กล่าว
ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ TCAP มีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายสัปดาห์ และรายเดือน รอเพียงการกลับมาเกิดสัญญาณซื้อรายวันครั้งใหม่หากสามารถปิดตลาดเหนือ 48.75 บาท ก็จะทำให้รูปแบบราคา ของ TCAP กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างเต็มตัว ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TCAP ที่สามารถ Break เป้าหมายแรกที่ 40.25 บาทไปได้แล้ว จึงมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 63.75 บาท โดยมีแนวต้านที่ 48.50, 48.75, และ 49.00 บาท และแนวรับที่ 48.00, 47.75, และ 47.50 บาท
นักลงทุนทั่วไป ติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด 02-680-5000
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร (มุก) โทร. 02-880-6008
อีเมล์ : [email protected]
ติดต่อฝ่ายวิจัย นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ (No.17923) โทร. 02-680-5041