- Details
- Category: บล.
- Published: Wednesday, 06 August 2014 22:14
- Hits: 3387
CGS เปิดโครงการ Click2Win เกมหุ้น-อนุพันธุ์ออนไลน์ปี 7 รับสมัครแล้ววันนี้!เพิ่มกิจกรรมพิเศษแข่งเป็นทีม ร่วมล่าฝันกับ'เด็กแนว'
บล.คันทรี่กรุ๊ป (CGS) เปิดโครงการ Click2Win@CGS เกมจำลองการลงทุนหุ้น-อนุพันธ์ออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'ปี 7 Team Outing'เปิดรับสมัครแล้ววันนี้!!! ทั่วประเทศผ่านอินเตอร์เน็ตและ 43 สาขาทั่วประเทศ พิเศษสุดปีนี้ จัดกิจกรรม'ทีมแข่งขัน'แลกเปลี่ยนประสบการณ์-เก็บเกี่ยวความรู้เป็นทีม พร้อมเฟ้นหาสุดยอดของทีม เพื่อร่วมล่าฝันไปกับ “เด็กแนว” คาดช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน-ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ขยายฐานนักลงทุนหน้าใหม่
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) CGS เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดให้มีโครงการ Online Trading Click2Win หรือเกมจำลองการลงทุนหุ้นและอนุพันธ์ออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำอยู่แล้ว และมีความสนใจในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ได้มีโอกาสเรียนรู้ รวมทั้งทดลองการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยระบบที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จำลองขึ้นมาโดยใช้ข้อมูลตลาดที่เป็นปัจจุบัน หรือ Real-time ให้เหมือนกับการลงทุนจริง
นอกจากนี้ ผู้ร่วมโครงการที่สามารถสร้างผลกำไรจากพอร์ตการลงทุนจำลองนี้ได้สูงสุดก็จะได้รับรางวัลจากทางโครงการฯ อีกด้วย โดยโครงการดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่เปิดโครงการฯ ในปี พ.ศ. 2550 หรือ Click2Win2007 ต่อเนื่องมาจนถึงปี พ.ศ. 2557 หรือ Click2Win2014 นี้ซึ่งนับเป็นปีที่ 7
“ในช่วง 7 ปี ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยทุกๆปี จะมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่ได้ผ่านการเรียนรู้ จากการจัดอบรมให้ความรู้ของบริษัท และได้ workshop ทดลองส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตัวเอง รวมทั้งผู้ชนะเลิศจากโครงการได้เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์กับบริษัท ซึ่งนอกจากจะเป็นการขยายฐานผู้ลงทุนแล้ว ยังทำให้ได้ผู้ลงทุนที่มีคุณภาพอีกด้วย” นายชนะชัยกล่าว
นายชนะชัย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา Click2Win2013 ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่ชนะเลิศได้รับเงินรางวัลจากบริษัท มีความสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนด้วยเงินทุนตั้งต้น 5 ล้านบาท ในระยะเวลา 2 เดือนของการแข่งขัน สามารถทำกำไรได้ 3.79 ล้านบาท คิดเป็น 75.86 % ของเงินลงทุน และตลาด TFEX ผู้ชนะทำกำไรสูงสุดถึง 80.52% หรือ 4.02 ล้านบาท เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสัมฤทธิ์ผลของผู้ร่วมโครงการฯ ในการเรียนรู้ และบริหารพอร์ตการลงทุน ได้เป็นอย่างดี แม้ในปี พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมาสภาวะตลาดจะมีความผันผวนสูงก็ตาม
สำหรับ ในปี พ.ศ. 2557 หรือ Click2Win2014 ซึ่งเป็นปีที่ 7 ของโครงการ บริษัทได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเรียนรู้ของผู้ร่วมโครงการและเพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ในการบริหารการลงทุนขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง จึงได้จัดกิจกรรมในรูปแบบ “ทีมแข่งขัน” เพื่อให้มีการแบ่งปันความรู้ระหว่างเพื่อนในทีม และเรียนรู้ความสามัคคีเพราะผู้ที่มีโอกาสชนะต้องมีความเป็นทีมเวิร์ค และเพื่อเป็นการต่อยอดความรู้ให้เข้มข้นขึ้นไปอีก บริษัทได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษ คือ Team Outing ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกจะได้ร่วมท่องเที่ยว พร้อมเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์อย่างเต็มที่ จาก “เด็กแนว” คุณรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป และหลังจากเปิดโครงการ บริษัทจะเดินสายโรดโชว์ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล โดยขณะนี้ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยแล้ว 7 แห่ง ทั้งยังเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานอายุไม่เกิน 30 ปี จากทั่วประเทศ โดยมีช่องทางรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต และผ่านทาง 43 สาขาของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ทั่วประเทศ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวอีกว่า บริษัทคาดหวังว่าเกมจำลองลงทุนออนไลน์ Click2Win จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่มีค่า ตลอดจนทัศนคติที่ดีต่อการลงทุนในตลาดทุน ซึ่งจะทำให้การบริหารการลงทุนส่วนบุคคลประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบตลาดทุน และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมของประเทศ โดยในปีนี้บริษัทใช้ชื่อโครงการClick2Win@CGS ในคอนเซ็ปต์ “ปี 7 Team Outing”
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : IR network
คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) Mobile 080-999-8028 e-mail: [email protected]
คุณอชิรญา ระเบียบนาวีนุรักษ์ (จอย) Mobile 081-685-1118 e-mail: [email protected]
CGS คาดปรับโครงสร้างเป็น Holding แล้วเสร็จ ต.ค. นี้ แย้มสนใจลงทุนธุรกิจพลังงาน-สื่อสาร ขณะที่หั่นเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้เหลือ 3%
CGS คาดปรับโครงสร้างเป็น Holding แล้วเสร็จ ต.ค. นี้ แย้มสนใจลงทุนธุรกิจพลังงาน-สื่อสาร ขณะที่หั่นเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้เหลือ 3% จากเดิมคาด 3.5% หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันแตะ 20% ใน 3 ปี จากปัจจุบันไม่ถึง 1%
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ขณะนี้ขั้นตอนการปรับโครงสร้างกิจการเป็นบริษัท Holding ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีการเพิกถอน บล.คันทรี่ กรุ๊ป ออกจากการเป็นบริษัทการจดทะเบียนและนำบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนแทนภายในเดือน ต.ค นี้ หลังจากผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการปรับโครงสร้างดังกล่าวแล้วโดยจะมีการแลกหุ้นด้วยอัตราส่วน 1:1 ระหว่าง 2 บริษัท
ทั้งนี้ หลังจากการปรับเปลี่ยนเป็นธุรกิจ Holding แล้วจะมีการปรับสัดส่วนธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลงเหลือ 60-70% ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ โดยในเบื้องต้นได้มองธุรกิจพลังงานและสื่อสารสำหรับเข้าลงทุนเพราะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต
"หลังปรับโครงสร้างเป็น Holding ความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทก็จะลดลงไม่กระจุกตัวอยู่ในธุรกิจโบรกเกอร์ซึ่งจะมีปัญหาทุกครั้งหากวอลลุ่มของตลาดลดลงแต่พอเป็น Holding เราสามารถกระจายไปยังธุรกิจอื่นๆ ได้ซึ่งก็มีหลายอันที่เราสนใจ อาทิ พลังงานหรือสื่อสาร " นายชนะชัย กล่าว
นายชนะชัย กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ปรับลดเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปีนี้เหลือ 3% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 3.5% โดยปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 2.8 - 3% เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทฯ และมีเจ้าหน้าที่ติดต่อผู้ลงทุนย้ายออกไปเกือบ 200 ราย
ปีนี้มาร์เก็ตแชร์คงทำได้ที่ราว 3% เพราะเรามีการปรับโครงสร้างค่อนข้างเยอะทีมงานหายไปเป็นจำนวนมากก็ถือว่าเป็นปีของการปรับปรุงโดยตอนนี้เราก็จะไปเน้นด้าน Money Market ของลูกค้าสถาบันมากขึ้นและกำลังมองหาช่องทางที่จะเจาะเข้าสู่รายย่อยร่วมไปถึงการพัฒนาด้าน SBL ซึ่งเร็วๆนี้จะมีการทำระบบออนไลน์ขึ้นมาซึ่งเรามีพันธมิตรรายใหญ่เช่น กบข. ,MFC ซึ่งมีหุ้นมากพอที่จะนำมาให้ยืมขณะที่ระบบการซื้อขายหุ้นปกติก็จะมีการพัฒนาด้านคุณภาพและการให้บริการแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นปีหน้าเชื่อว่าหลายๆอย่างน่าจะดีขึ้น" นายชนะชัย กล่าว
พร้อมกันนี้ ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนสถาบันเป็น 20% ภายใน 3 ปี (2558-2560) จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับไม่ถึง 1% โดยจะมีบริการนำลูกค้าสถาบันในประเทศไปลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็จะเป็นโอกาสในการหานักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย โดยบริษัทฯ ได้จัดเตรียมทีมงานที่มีศักยภาพรวมถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อตอบสนองการบริการต่อลูกค้า
ด้านของภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ CGS ยังคงเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้ที่ 1,550-1,600 จุด พร้อมคาดว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหลักทรัพย์ไทยจะอยู่ที่ 35,000 - 40,000 ล้านบาทต่อวัน โดยหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามกำหนดการ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกลับมาในตลาดหุ้นไทยได้เร็วขึ้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย