- Details
- Category: บล.
- Published: Sunday, 17 July 2016 14:11
- Hits: 1611
KKP สรุปผลการดำเนินง
คำอธิบายและการวิเคราะห์งบการเงินสาหรับงวดไตรมาส 2 ปี 2559 (ก่อนตรวจสอบ)
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
ภาพรวมผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2559 เปรียบเทียบกับงวดไตรมาส 2 ปี 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,297 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2558 สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกปี 2559 เปรียบเทียบกับงวดครึ่งปีแรกปี 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 2,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 70.1 จากงวดเดียวกันของปี 2558
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกาไรถึงสิ้นปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 17.81 โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับร้อยละ 15.09 แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 2/2559 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเท่ากับร้อยละ19.24 และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับร้อยละ 16.52
ธุรกิจธนาคารพาณิชย์
สินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 2/2559 มีการหดตัวร้อยละ 0.4 จากสิ้นไตรมาส 1/2559 โดยการหดตัวชะลอลงเมื่อเทียบกับการหดตัวที่ร้อยละ 1.2 ในไตรมาส 1/2559 ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปี 2559 สินเชื่อโดยรวมของธนาคารหดตัวที่ร้อยละ 1.6 จากสิ้นปี 2558 โดยสินเชื่อเช่าซื้อหดตัวร้อยละ 2.0 สินเชื่อธุรกิจหดตัวร้อยละ 7.9 ในขณะที่สินเชื่อบรรษัทขยายตัวร้อยละ 13.0 จากสิ้นปี 2558
ในด้านคุณภาพของสินเชื่อ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ร้อยละ 6.1 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.8 ณ สิ้นปี 2558 โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพในส่วนของสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สำหรับคุณภาพของสินเชื่อในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อยังคงมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อ ปรับลดลงจากร้อยละ 2.4 ณ สิ้นปี 2558 เป็นร้อยละ 2.2 ในไตรมาส 1/2559 และปรับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ณ สิ้นไตรมาส 2/2259 สำหรับสถานการณ์ขายขาดทุนรถยึดของธนาคารยังคงมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสิ้นปี 2558 เป็นต้นมา
ในส่วนของเงินกู้ยืม ในไตรมาส 2/2559 ธนาคารออกหุ้นกู้รวมทั้งสิ้น 19,789 ล้านบาท ทางด้านธุรกิจบริหารหนี้ ธนาคารขายทรัพย์รอการขายได้ในไตรมาส 2/2559 จำนวน 360 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายทรัพย์รอการขาย 142 ล้านบาท
ธุรกิจตลาดทุน
สำหรับ ไตรมาส 2/2559 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (SET และ mai) ในตลาดทุนเท่ากับ 46,812 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 46,540 ล้านบาทในไตรมาส 1/2559 โดยสภาวะตลาดในไตรมาสที่ 2/2559 ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากความเชื่อมั่นของตลาดได้รับผลกระทบจากความกังวลในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐ การลงประชามติของสหราชอาณาจักรอังกฤษที่ลงคะแนนเห็นชอบกับการออกจากสหภาพยุโรป ทั้งตลาดหุ้นในประเทศไทยและตลาดโลกมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเมื่อความกังวลลดลง ตลาดทั่วโลกเริ่มปรับตัวเข้าสู่สภาวะปรกติ นอกจากนี้ในสภาวการณ์ที่ตลาดโลกเริ่มเปราะบาง ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหรัฐจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป เป็นผลผลักดันให้ตลาดในประเทศไทยรวมทั้งตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ (emerging market) เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติหันมาซื้อสุทธิ
บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (บล.ภัทร) และบริษัทหลักทรัพย์เคเคเทรด จำกัด (บล.เคเคเทรด) มีส่วนแบ่งตลาด (SET และ mai ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท) ที่ร้อยละ 5.03 และร้อยละ 0.70 ตามลำดับ หากพิจารณาส่วนแบ่งตลาดรวมลดลงจากร้อยละ 5.74 ในไตรมาส 1/2559 เป็นร้อยละ 5.73 ซึ่งเป็นอันดับที่ 2 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 36 แห่ง สำหรับธุรกิจการลงทุนของธุรกิจตลาดทุนเมื่อรวมผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย มีรายได้จำนวน 354 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานรวมของธนาคารและบริษัทย่อย
อัตราส่วนต่างๆ (ร้อยละ) ไตรมาส 2/2558 ครึ่งแรกปี 2558 ปี 2558 ไตรมาส 1/2559 ไตรมาส 2/2559 ครึ่งแรกปี 2559
อัตราการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ -3 -4.8 -3.6 -1.2 -0.4 -1.6
สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม 6.9 6.9 5.8 5.7 6.1 6.1
(ไม่รวมรายการระหว่างธนาคาร)
อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ 72.6 72.6 91.9 97.2 95.7 95.7
อัตราส่วนสำรองต่อสำรองตามเกณฑ์ 143.4 143.4 160.1 166.7 169.8 169.8