- Details
- Category: บล.
- Published: Monday, 02 November 2015 23:51
- Hits: 5250
บล.เคจีไอ ตั้งเป้าครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1 ตราสารอนุพันธ์ ปี 59 หลังเปิดตัว โครงการ 'KGI รู้ลึก เทรดจริง กับ DW13'สร้างนักลงทุนรุ่นใหม่
บล.เคจีไอฯ เปิดตัวโครงการ'KGI รู้ลึก เทรดจริง กับ DW13'นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่แจกหนัก ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 บาท โดยเปิดให้นักลงทุนทุกโบรกเกอร์สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ วัตถุประสงค์ของการจัดโครงการดังกล่าว เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจ สร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ด้านอนุพันธ์ และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน เปิดรับสมัครรอบแรกตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.- 4 ธ.ค. 2558 นี้“เจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายตราสารอนุพันธ์ บล.เคจีไอ เผยล่าสุดปีนี้ KGI ครองมาร์เก็ตแชร์ บล. ที่มีการเสนอขาย DW สูงสุดอยู่ที่ 21% ชี้ ปี 2559 ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนมาก จากปัจจัยลบนอกประเทศ เชื่อว่ามูลค่าซื้อขาย DW จะเติบโตได้อีก คาดจะซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 2,500 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 40% คาดปี 2559 KGI ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ตราสารอนุพันธ์ หลังนักลงทุนเชื่อมั่นข้อมูล DW13 และเตรียมออกตราสารเพิ่มอีกอีก 250 ตัว อ้างอิงหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ในSET 100
นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ “KGI รู้ลึก เทรดจริง กับ DW13” โดยเปิดให้นักลงทุนทุกโบรกเกอร์สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการจัดโครงการดังกล่าว สืบเนื่องจากใน ปัจจุบัน DW ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ๆ แต่การอบรมให้ความรู้แก่นักลงทุนที่ผ่าน ๆ มายังไม่คลอบคลุมกลุ่มนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นมานี้ ซึ่งเป็นที่มาของโครงการ “รู้ลึก เทรดจริง กับ DW13” เพื่อเปิดการอบรมให้กับนักลงทุนในวงกว้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้า KGI และสนับสนุนให้มีประสบการณ์ซื้อขาย DW จริง ด้วยเงินลงทุนจำนวนไม่มาก เพื่อสร้างวินัยในการเก็งกำไรซื้อขาย DW และเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะตลาดในปีหน้า
สำหรับ ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ'KGI รู้ลึก เทรดจริง กับ DW13'ก่อนเริ่มเทรดต้องสมัครเข้าอบรมกับ KGI โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจัดการแข่งขันถึง 3 ครั้ง เพื่อสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ด้านอนุพันธ์ ครั้งแรกจะเปิดสมัครตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.- 4 ธ.ค. 2558 นี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะมีบัญชีโบรกเกอร์ไหนๆก็เข้าร่วมได้ และต้องมีเงินลงทุนเข้าร่วมรายการ 10,000 - 200,000 บาท โครงการดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่แจกหนัก ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 บาท
“นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่เปิดให้นักลงทุนทุกโบรกฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เทรด DW มาก่อน วัตถุประสงค์ของ KGI มุ่งหวังให้นักลงทุนมีความรู้ และวินัยในการซื้อขาย DW ไม่ได้เน้นแต่กำไรเพียงอย่างเดียว และถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากในภาวะตลาดหุ้นผันผวน” นายเจนวิทย์ กล่าว
นายเจนวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าจะยังมีความผันผวนอยู่ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ อนุพันธ์ (DW) สำหรับให้นักลงทุนซื้อขายเก็งกำไร โดยในปีนี้ DW13 ที่ KGI ออกตั้งแต่ต้นปีมีทั้งหมด 206 ตัว โดยมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 200 ตัวตลอดปี 2558 โดยมี 119 ตัว ที่ยังซื้อขายอยู่ในกระดาน แบ่งเป็น Call 91 ตัวและ Put 28 ตัว โดยบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการออก SET50 DW ซึ่งเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ด้วย เพราะช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากแนวโน้มตลาดช่วงผันผวนได้ง่าย โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตัว หุ้น ก็ถือเป็นโอกาสในการลงทุนดังกล่าว
สำหรับ แนวโน้มการออก DW ในปัจจุบันของ KGI ยังคงเน้นออก DW ให้ครอบคลุมหุ้น 70 ตัวบนในดัชนี SET100 และยังเน้นการเป็นผู้นำในการออก DW ที่มีอัตราทดสูงที่สุดในตลาด โดยอัตราทดอยู่ประมาณ 3-5 เท่า สำหรับ DW ที่อ้างอิงกับหุ้นรายตัว และเน้นอัตราทดประมาณ 10 เท่า สำหรับ DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ปัจจุบันหุ้นอ้างอิงที่ KGI ออกมีทั้งหมด 58 ตัว เป็นหุ้นที่มี Market Cap สูงสุด และมีสภาพคล่องเพียงพอ ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน DW ที่อ้างอิงกับหุ้นเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง สภาพคล่อง ขณะที่ ปี2559 KGI ตั้งเป้าออก DW จำนวน 250 ตัว อ้างอิง SET 100 ครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ถึงขนาดกลาง และตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดอนุพันธ์ตามมูลค่าซื้อขาย อันดับ 1
"ปี 2558 เรามีการออก DW มากขึ้น ซึ่งการที่เราตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้มาก ทำให้มาร์เก็ตแชร์ทั้งปีของ KGI อยู่ที่ 21% แต่เฉพาะในเดือนตุลาคมเพียงเดือนเดียว มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30% ซึ่งประมาณ 10% ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นการกระจายตัว DW ที่อ้างอิงทั้งกับหุ้นรายตัวและดัชนี SET50" นายเจนวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา มูลค่าซื้อขาย DW ต่อวันมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ในช่วงครึ่งหลังปี 2558 DW มูลค่าซื้อขายเติบโตเป็นอย่างมากเกือบเท่าตัว อยู่ประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อวัน สาเหตุมาจาก DW สามารถช่วยให้นักลงทุนใช้ทำกำไรขาลงได้ หรือนำมาใช้บริหารความเสี่ยงของหุ้นที่ถืออยู่ได้ ซึ่งมองว่าในปี 2559 เป็นปีที่ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนมาก ซึ่งสาเหตุหลักเป็นผลจากปัจจัยนอกประเทศ ทำให้เชื่อว่ามูลค่าซื้อขาย DW จะเติบโตขึ้นอีก โดยหวังว่าจะซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 2,500 ล้านบาทต่อวัน หรือเติบโตประมาณ 40% จากปี 2558
ติดต่อสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่ : IR PLUS
คุณสารภี สายะเวส (จูน) โทร. 02-0226200 ต่อ 610, 081-420-0753 อีเมล์ : [email protected]
คุณพรทิวา พูนคำ (ข้าว) โทร. 02-0226200 ต่อ 615, 084-640-4501 อีเมล์ : [email protected]