WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLS copyBLS หั่นเป้าดัชนีสิ้นปี 1,505 จุดจีดีพีต่ำ 3%-คันทรี่กรุ๊ปชี้หุ้นยังผันผวน

   ไทยโพสต์ * บล.บัวหลวงหั่นเป้าดัชนีสิ้นปีนี้เหลือ 1,505 จุด คาดจีดีพีโตแค่ 2.9% เหตุเศรษฐกิจชะลอ ฉุดผลประกอบการ บจ.วูบ ด้าน 'คันทรี่ กรุ๊ป'ชี้ หุ้นไทยยังผันผวน ผลพวงฟองสบู่หุ้นจีน ผสมโรง ศก.ไทยยังชะลอตัว ลงทุนรัฐไม่คืบ

     นายปรเมศ ทองบัว นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง (BLS) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปีนี้เหลือ 1,505 จุด จากเดิมที่คาดไว้ 1,570 จุด และอัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) เหลือ 93.3 บาทต่อหุ้น จาก 97.5 บาทต่อหุ้น รวมถึงการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เหลือ 2.9% จากเดิม 3.3%

     เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง อาจส่งผลกระทบ ต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แต่หากช่วงที่เหลือของปี มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และนักลงทุนมีความมั่นใจ อาจมีโอกาสการปรับเพิ่มประมาณการกำไรอีกครั้ง

   สำหรับ ไตรมาส 2 คาดว่ากำไรของ บจ.จะลดลง 1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว โดยหุ้นที่คาดว่าจะเติบโตสูงสุด คือ หุ้นกลุ่มประกันภัย เพราะการตั้งสำรองน้อยลง รองลงมา กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากกำไรการขายสินทรัพย์มากขึ้น และกลุ่มปิโตรเคมี เพราะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีปริมาณขายที่สูงขึ้น

    ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 คาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรที่เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งกลุ่มท่องเที่ยวจะกลับมามีทิศทางโดดเด่นชี้นำตลาด เพราะจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รองลงมาคือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, สื่อสาร, นิคมอุตสาหกรรม และค้าปลีก

    "ดัชนีในช่วงนี้มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ผลประกอบการไตรมาส 2 และปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าดึง ดูดกว่านี้ หรือการปรับคณะรัฐ มนตรีใหม่ที่จะเพิ่มความหวังและความมั่นใจให้แก่นักลงทุน" นายปรเมศกล่าว

     ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการสาย งานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) กล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุนในเดือน ส.ค. นี้ ว่า ปัจจัยลบในตลาดยังมีค่อน ข้างมาก จึงมองว่าดัชนีหุ้นไทยอาจผันผวน โดยปัจจัยต่างๆ เริ่มจากปัญหาฟองสบู่ตลาดหุ้นจีนที่ผ่านมาผันผวนหนักมาก ดัชนีราคาหุ้นเซี่ยงไฮ้ลด ลงอย่างรวดเร็ว และยังมีการ คาดการณ์ว่ามีความเสี่ยงที่อาจปรับตัวลงได้อีกอย่างน้อย 10-20% แม้จีนจะออกมาตรการสกัดการเก็งกำไรหุ้นแล้วก็ตาม

    สำหรับ ภาวะเศรษฐกิจไทยคือตัวกดดันมากที่สุด ซึ่งจะ ทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบตามเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว จนธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีการปรับประมาณการหลายครั้ง รวมถึงการหดตัวของเงินเฟ้อถึงระดับต่ำกว่าศูนย์ ยิ่งเป็นตัวกระทบต่อการขยายตัวของการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องโครงการลงทุนที่ล่า ช้าของภาครัฐ ทำให้กิจกรรม สำคัญทางเศรษฐกิจไม่ถูกกระตุ้นอย่างมีนัยสำคัญและปัญหาภัยแล้ง ทำให้กระทบต่อภาวะหนี้ของประชาชนมีสูงขึ้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!