- Details
- Category: บล.
- Published: Tuesday, 28 April 2015 22:45
- Hits: 2592
ทริสเรทติ้ง เพิ่มอันดับเครดิตองค์กร ‘บล. ธนชาต’ เป็น ‘A+’ จาก’A’ด้วยแนวโน้ม ‘Stable’
ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ'A+' จาก 'A'ด้วยแนวโน้ม Stable หรือ ‘คงที่’ โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงการที่ทริสเรทติ้งให้น้ำหนักความสำคัญที่เพิ่มขึ้นต่อการสนับสนุนที่บริษัทอาจได้รับจากบริษัทแม่ในฐานะเป็นบริษัทที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มธนชาต ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีแนวทางการบริหารงานที่ระมัดระวัง ตลอดจนความสามารถในการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และสภาพคล่องและฐานทุนที่เพียงพอ
นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากเครือข่ายและความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศซึ่งจะช่วยเสริมสถานะทางการตลาดของบริษัทอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากความผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์และแรงกดดันต่ออัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายหลังการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบที่ผ่านมา
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารธนชาตและยังคงเป็นบริษัทที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มธนชาตต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาระบบจัดการความเสี่ยงเอาไว้ให้มีเพียงพอเพื่อใช้ควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ อีกทั้งบริษัทจะสามารถเรียกคืนส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในส่วนของนักลงทุนต่างประเทศให้กลับมาได้ในอนาคตอันใกล้
อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับลดลงได้หากการแข่งขันในธุรกิจหลักทรัพย์ที่ทวีความรุนแรงหรือ ความผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์เป็นสาเหตุให้บริษัทมีผลประกอบการต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดได้หากอันดับเครดิตของกลุ่มธนชาตอ่อนแอลง ส่วนโอกาสที่อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทจะถูกปรับขึ้นนั้นมีจำกัดเมื่อคำนึงถึงสถานะเครดิตในปัจจุบันของธนาคารธนชาต
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เอาไว้ได้ที่ระดับ 4%-5% โดยในปี 2557 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 4.5% ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 6 จากโบรกเกอร์จำนวน 33 ราย ในปี 2556 บริษัทได้ลงนามในสัญญาการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Daiwa Securities Group Inc. (Daiwa) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมมือกันดำเนินธุรกิจเผยแพร่บทวิเคราะห์ (Co-branded Research) แก่กลุ่มลูกค้าสถาบันจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าในตลาดแถบเอเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งน่าจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างฐานนักลงทุนต่างชาติได้อีกครั้งหลังจากต้องสูญเสียปริมาณการซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติไปภายหลังการสิ้นสุดการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะเวลา 5 ปีกับพันธมิตรต่างชาติรายหนึ่งในปี 2553
ในฐานะเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้น 100% โดยธนาคารธนชาต บริษัทได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธนชาตทั้งในด้านการทำธุรกิจและในด้านการเงิน บริษัทใช้ประโยชน์จากสาขาของธนาคารธนชาตในการขยายฐานลูกค้ารายย่อยมาโดยตลอด โดยกว่า 30% ของบัญชีเปิดใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นลูกค้าที่ผ่านการแนะนำโดยธนาคารธนชาต บริษัทยังใช้ผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินและบริการของธนาคารธนชาตในการต่อยอดการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร นอกเหนือจากความช่วยเหลือในการขยายธุรกิจแล้ว ธนาคารธนชาตยังให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่บริษัทผ่านการให้วงเงินสินเชื่อด้วย การเกื้อหนุนเหล่านี้ช่วยทำให้บริษัทมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินเต็มรูปแบบ
บริษัทมีเงินลงทุนที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนประมาณ 2-3 บริษัท โดย ณ เดือนธันวาคม 2557 มูลค่าตลาดของเงินลงทุนเหล่านั้นอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท แม้ว่าเงินลงทุนนี้จะสร้างผลตอบแทนแก่บริษัทในรูปของรายได้จากเงินปันผล แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์อยู่บ้าง นอกเหนือไปจากนี้แล้วก็ถือว่าบริษัทมีความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ไม่มากนักเนื่องจากบริษัทมีนโยบายการลงทุนเพื่อผลตอบแทนแบบ Arbitrage กับการซื้อขายเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ เท่านั้น โดยไม่มีการเก็งกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์รายวัน ในส่วนของความเสี่ยงด้านเครดิตจากการให้สินเชื่อนั้น บริษัทมียอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ณ สิ้นปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 พันล้านบาท เทียบกับ 3.1 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 โดยยอดสินเชื่อของบริษัทในระดับดังกล่าวคิดเป็น 6.4% ของสินเชื่อรวมของทั้งอุตสาหกรรมและคิดเป็น 112% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงสามารถควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตในส่วนนี้ได้ต่อไปโดยใช้เกณฑ์การเรียกหลักประกันเพิ่มและการบังคับขายที่เคร่งครัด รวมทั้งคงนโยบายการกำหนดเกณฑ์ของหลักประกันและการให้วงเงินที่เข้มงวด
ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่ดีและเทียบเคียงได้กับคู่แข่ง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก็อยู่ในระดับไม่สูง โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิ 57% ในปี 2557 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม อัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 3.3 พันล้านบาทและมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปอยู่ที่ 65% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 7% ที่ทางการกำหนด
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (TNS)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html