- Details
- Category: บล.
- Published: Saturday, 28 March 2015 00:28
- Hits: 2315
บล.ทิสโก้ ประเมิน หุ้นไทยรีบาวน์ระยะสั้นในสัปดาห์หน้า เหตุร่วงหนักกว่าภูมิภาค - แถมมีลุ้น Window Dressing หลังดัชนีฯทรุดหลุด 1500 จุด
บล.ทิสโก้ เปิดกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์หน้า มองหุ้นมีโอกาสรีบาวด์ในระยะสั้น หลัง SET Index ร่วงหนักกว่าภูมิภาค - เม็ดเงินทริกเกอร์ ฟันด์จ่อลุยหุ้น 3.3-5.0 พันลบ. - ราคาน้ำมันฟื้น แถมมีลุ้น Window Dressing หลังดัชนีฯทรุดหลุด 1500 จุด เผยหุ้นเด่น Outperform ช่วงก่อนสงกรานต์ MALEE, SST, TFD แต่กลยุทธ์หลัก ยังแนะนำถือเงินสดมากกว่าหุ้น โดยแนะหาจังหวะทยอยสะสมอย่างจริงจังเมื่อ SET Index ต่ำกว่าระดับ 1480 จุด
บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า เรามองสัปดาห์หน้า (30 มี.ค. – 3 เม.ย.) เป็นสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเกิดการรีบาวด์ทางเทคนิคสูง ด้วยปัจจัยสนับสนุนดังต่อไปนี้
1. หุ้นไทยที่ร่วงหนักกว่าหุ้นภูมิภาค น่าจะซึมซับข่าวร้ายพอสมควรแล้วในระยะสั้น - ความวิตกกังวลต่างๆ ที่กดดันราคาหุ้น อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ล่าช้า แนวโน้มการหั่นประมาณกำไรปี 2015F ลงต่อเนื่อง การเสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซที่ยืดเยื้อ และโอกาสเกิดการปรับฐานของตลาดสหรัฐฯ จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีนี้ และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ ที่อาจกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ เป็นต้น น่าจะซึมซับในราคาหุ้นไทย ณ ระดับปัจจุบันพอสมควรแล้วในระยะสั้น โดยนับตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. ถึงวันที่ 26 มี.ค. (MTD) SET Index ลดลงอย่างรวดเร็ว -5.7% จากระดับ 1590 จุดในช่วงสิ้นเดือน ก.พ. มาแถวระดับ 1500 จุดในปัจจุบัน เทียบกับหุ้นในต่างประเทศที่ -1.6% สำหรับ MSCI Developed Market Index และ -0.5% สำหรับ MSCI FE ex. Japan Index นอกจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลในอดีต SET Index สัปดาห์นี้ร่วงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันแล้ว โอกาสที่ SET Index จะร่วงต่อในสัปดาห์นี้มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1.9%
2. เม็ดเงินทริกเกอร์ฟันด์หลายกองจะทยอยไหลเข้าตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องจนถึงปลายสัปดาห์หน้า โดยจากการรวบรวมของเรา มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กว่า 5 แห่งอยู่ระหว่างการเสนอขายทริกเกอร์ฟันด์ รวมมีขนาดมูลค่ากว่า 8.3 พันล้านบาท อิงจากการเสนอขายทริกเกอร์ฟันด์สำเร็จในสัดส่วนราว 40-60% ที่เกิดขึ้นล่าสุดในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ คาดจะมีเม็ดเงินไหลเข้าจริงราว 3.3-5.0 พันล้านบาท
3. ผลกระทบ Window Dressing จากการศึกษาข้อมูลการซื้อขายรายไตรมาสนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา หากช่วงนี้ SET Index ยังยืนแถวระดับ 1500 จุดได้ จะมีโอกาสราว 71% ที่จะเกิดผลกระทบ Window Dressing ในไตรมาส 1 นี้ ซึ่งวัดจากราคาปิดก่อนวันที่ 25 ของเดือนที่สิ้นไตรมาส เทียบกับราคาปิด ณ สิ้นไตรมาส ที่มักจะมีความเคลื่อนไหวสอดคล้องกับผลตอบแทนของแต่ละไตรมาส
4. ราคาน้ำมันขึ้นช่วยหนุนหุ้นพลังงาน-โภคภัณฑ์ – วิกฤติเยเมน ซึ่งมีพื้นที่ติดกับซาอุดิอาระเบีย สร้างความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในแถบตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มขยับขึ้นมาอีกครั้ง เรามองจะช่วยหนุนราคาหุ้นพลังงาน-โภคภัณฑ์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมราว 30% ของ SET เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการดีดกลับระยะสั้น
5. โอกาสการยกเลิกใช้กฎอัยการศึก หลังจากที่นายกฯ ประยุทธ์ มีโอกาสพบเลขาธิการสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิกใช้กฎอัยการศึก และหาฎหมายอื่นมาดูแลความมั่นคงแทน ซึ่งท่าทีล่าสุดของนายกฯ หลังกลับจากต่างประเทศ เล็งพิจารณาการยกเลิกใช้กฎอัยการศึก โดยอาจใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาใช้แทน
บทวิเคราะห์ระบุว่า เรามอง 4 ประเด็นหุ้นที่น่าสนใจต่อการเข้าเทรดดิ้งระยะสั้นเพื่อหวังการรีบาวด์ทางเทคนิคในสัปดาห์หน้า (30 มี.ค. – 3 เม.ย.) คือ
(1) หุ้นเข้าข่ายการทำ Windows Dressing – แนะนำ BJC, ECF, EGCO, PS
(2) หุ้นที่ราคาร่วงลงเร็วโดยปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก เปิดโอกาสการเทรดดิ้งระยะสั้น – แนะนำ SIM, SAMART, ITD, LPN
(3) หุ้น 3 สูง (สภาพคล่อง, Beta และ upside) น่าจะเป็นเป้าหมายเข้าลงทุนของเม็ดเงินทริกเกอร์ฟันด์ – แนะนำ CK, PTTEP, STEC, TPIPL, TRUE
(4) หุ้นพื้นฐานที่มัก Outperform ในช่วงก่อนสงกรานต์ แนะนำ MALEE, SST, TFD
อย่างไรก็ตาม ภาพการลงทุนโดยรวมในช่วงไตรมาส 2/15 เรายังคงมอง SET Index มีโอกาสหลุด 1500 จุดสูง จากแนวโน้มประมาณการเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังถูกหั่นลงอยู่ ส่งผลให้การประเมินมูลค่าหุ้นไทยในระยะถัดไปยังคงตึงตัวอยู่ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนหลัก เรายังแนะนำถือเงินสดในสัดส่วนที่มากกว่าการถือครองหุ้น โดยจะเริ่มหาจังหวะทยอยสะสมอย่างจริงจังเมื่อ SET Index ต่ำกว่าระดับ 1480 ลงมาก่อน
ล่าสุดเวลาประมาณ 10.18 น. ดัชนีฯอยู่ที่ 1,490.03 จุด ลดลง 6.38 จุด