WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MBKET ชี้หุ้นเดือน มิ.ย.เป็นขาขึ้น รับข่าวโรดแมพ คสช.-คาด SET มีโอกาสแตะ 1,500 จุด ในครึ่งปีหลัง

    MBKET ชี้หุ้นเดือน มิ.ย.เป็นขาขึ้น รับข่าวโรดแมพ คสช.-คาดSETมีโอกาสแตะ 1,500 จุด ในครึ่งปีหลัง คาดกำไร บจ.โต 10% หวังผลประกอบการครึ่งปีหลังฟื้นตัว พร้อมมองต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้นไทยหลัง คสช.จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ

    นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) เปิดเผยว่า คาดตลาดหุ้นไทยในเดือน มิ.ย.จะเป็นขาขึ้นตอบรับเชิงบวกต่อการเปิดแผนโรดแมพของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างมาก พร้อมประเมินว่าดัชนีมีโอกาสขยับขึ้นไปที่ 1,500 จุดในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 การจ่ายเงินจำนำข้าวให้กับชาวนาซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ โดยจะนำไปสู่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีขึ้น และจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น   

    "ตอนนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาแล้ว โดยภายใน 1 เดือนนี้หุ้นน่าจะเป็นขาขึ้นแล้วจะไปหยุดในช่วงที่มีการตั้งสภานิติบัญญัติ การจัดตั้งรัฐบาลของคสช.ซึ่งตลาดอาจจะสะท้อนกับข่าวต่อตัวแทนที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาทั้งในแง่ลบและแง่บวกซึ่งก็ต้องดูว่าเป็นใครในแต่ละตำแหน่ง ส่วนในเดือนนี้ดัชนีที่เหมาะสมคงอยู่ที่ 1,440 จุด เพราะเป็นช่วงดัชนีเดียวกันกับตอนที่ก่อนเกิดปัญหาการเมือง แต่หากขยับมากไปกว่านั้นก็อาจจะต้องระวัง เพราะยังไม่สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง ต้องไปดูที่ครึ่งปีหลังตอนที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจริงๆ ดัชนี 1,500 จุดมีโอกาส ที่สำคัญแผนการต่างที่คสช.ออกมาต้องทำให้ได้จริงตามที่ประกาศไว้ เพราะแม้จะเป็นแนวคิดที่ดีแต่ก็อาจจะเป็นความเสี่ยงด้วย หากทำข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้"นายสุกิจ กล่าว   

    สำหรับ กลยุทธ์การลงทุน ให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การบริโภคในประเทศ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ กลุ่มสื่อ โดยให้เน้นเลือกหุ้นธนาคารหรือวัสดุก่อสร้างเป็นสำคัญ เนื่องจากราคายังไม่แพงเกินไปนัก อาทิ KTB SCC เป็นต้น เพราะหากประเทศเดินหน้าได้จริงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐจะส่งผลบวกต่อหุ้นดังกล่าวได้  

    ทั้งนี้ คาดกำไรการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนไทย (EPS) ปีนี้จะอยู่ที่ 10% โดยคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศช่วงครึ่งปีหลังเป็นสำคัญที่จะผลักดันให้ผลประกอบการบจ.เติบโต ส่วนในปีหน้าประเมินไว้ที่ 12% 

    "เราก็หวังว่า แผนการต่างๆที่คสช.ออกมาจะสัมฤทธิ์ผลและช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมได้ ซึ่งเรายังคงคาดกำไรบจ.ปีนี้ที่ 10% แต่อย่างไรก็ดีหากจะมีการปรับเปลี่ยนประมาณการต่างๆ ต้องรอดูในไตรมาส 3 ก่อนว่าจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนอย่างไร"นายสุกิจ กล่าว

    นายสุกิจ เปิดเผยว่า คาดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาล สภานิติบัญญัติ จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เสียก่อน โดยขณะนี้นักลงทุนต่างชาติอยู่ในระดับของการรอดูสถานการณ์ถึงความชัดเจนต่างๆที่จะเกิดขึ้น   

    "ช่วงนี้แม้ต่างชาติจะยังขายอยู่แต่ก็เป็นระดับที่ไม่มากแล้ว คงรอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งสภานิติบัญญัติ คณะรัฐบาล หรือตัวนายกฯแจากทาง คสช.ให้เสร็จเสียก่อน รวมไปถึงการยกเลิกกฎอัยการศึก เมื่อนั้นเราก็จะได้เห็นเม็ดเงินลงทุนจะเข้าตลาดหุ้นบ้านเราอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมารับข่าวในช่วงนี้ก็อาจจะเป็นอุปสรรคของนักลงทุนต่างชาติได้ เพราะอาจจะมองว่าราคาแพงเกินไปอาจจะมีการรอให้ปรับฐานก่อนแล้วค่อยเข้ามา ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไป"แนายสุกิจ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!