- Details
- Category: บล.
- Published: Sunday, 16 August 2020 20:00
- Hits: 8029
ทริสเรทติ้ง ลดอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 'บ.ภัทรลิสซิ่ง' เป็น 'BBB+' จาก 'A-' แนวโน้ม 'Stable'
ทริสเรทติ้ง ลดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ 'BBB+' จากระดับ 'A-' ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานทางการเงินที่ปรับตัวถดถอยลงของบริษัท ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตในครั้งนี้ยังคำนึงถึงสถานะทางการแข่งขันของบริษัทที่ค่อนข้างแข็งแรง ตลอดจนภาระหนี้ในระดับที่ยอมรับได้ และสภาพคล่องที่เพียงพอจากการบริหารจัดการโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่ดีอีกด้วย
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
สถานะทางการตลาดยังคงแข็งแกร่งแม้ธุรกิจหดตัว
การที่บริษัทมีบริการที่ครบวงจรและครอบคลุมในหลายพื้นที่นั้นช่วยให้บริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าหลักเอาไว้ได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาซึ่งเห็นได้จากการต่อสัญญาเช่าใหม่ของลูกค้านิติบุคคลรายเดิมที่มีอย่างต่อเนื่องซึ่งลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นสัดส่วนที่มีนัยสำคัญในพอร์ตลูกค้าทั้งหมดของบริษัท แม้ว่าสินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทจะหดตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่
ทริสเรทติ้ง ก็เชื่อว่าคุณค่าตราสินค้าที่ดีของบริษัทจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนสถานะทางการแข่งขันของบริษัทในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการเช่าดำเนินงานของประเทศไทยตามฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง โดย ณ เดือนมีนาคม 2563 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าคงค้างอยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับสินทรัพย์ในบริการเช่าเงินทุนแล้ว มูลค่าสินทรัพย์โดยรวมของบริษัทอยู่ที่ 1.14 หมื่นล้านบาท ลดลง 7.1% จากเดือนมีนาคม 2562 ทั้งนี้ สินทรัพย์ที่หดตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นผลเนื่องมาจากกลยุทธ์ของบริษัทที่หลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาและมุ่งเน้นการกระจายความหลากหลายไปที่สินทรัพย์ให้เช่าทั้งในกลุ่มยานพาหนะและกลุ่มที่ไม่ใช่ยานพาหนะซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าเป็นหลัก โดยในระยะปานกลางทริสเรทติ้งคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท
การมีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายยังช่วยสนับสนุนสถานะทางการแข่งขันของบริษัทอีกด้วย โดย ณ เดือนมีนาคม 2563 ยานพาหนะทางบก (รถยนต์โดยสาร รถบรรทุก รถตู้ และซุปเปอร์คาร์) มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 70% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัท ในขณะที่เรือ เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องจักร รถบรรทุก และรถพ่วงคิดเป็นสัดส่วนที่เหลือ ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทส่งผลให้สถานะทางการตลาดของบริษัทได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รัดกุมและการพิจารณาอนุมัติสัญญาเช่าที่ระมัดระวังซึ่งน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงจากลูกหนี้ที่จะผิดนัดชำระหนี้ได้ในระยะปานกลาง
แรงกดดันจากความสามารถในการทำกำไรที่ถดถอยลง
การลดอันดับเครดิตในครั้งนี้มีสาเหตุสำคัญมาจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่อ่อนแอลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งวัดความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้โดยพิจารณาจากอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายซึ่งปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.2 เท่าในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 จาก 1.6 เท่าในปี 2560-2561 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อรายได้ของบริษัทก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันโดยมาอยู่ที่ระดับ 8.6% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 จากระดับ 10%-11% ในปี 2559-2561 การแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรงนั้นจำกัดความสามารถในการขึ้นราคาค่าเช่าในสัญญาใหม่ของบริษัทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้น
โดยทริสเรทติ้ง คาดว่า อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 1.3-1.4 เท่าและอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อรายได้จะอยู่ที่ระดับประมาณ 9% ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาและนโยบายการประมาณการค่าซากสินทรัพย์ให้ต่ำลงของบริษัทเพื่อลดผลขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์หมดสัญญาจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเสื่อมราคาเพิ่มสูงขึ้นและสร้างแรงกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้นและกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีของบริษัทในระยะปานกลาง
ผลขาดทุนที่เกิดจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่า (ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์โดยสาร) ที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคารถมือสองในตลาดที่ลดต่ำลงนั้นได้สร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทได้มีความพยายามในการลดผลขาดทุนดังกล่าวโดยได้พยายามเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินทรัพย์หมดสัญญาให้แก่ลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้นซึ่งบริษัทมักจะได้ราคาจำหน่ายที่ดีกว่า โดยในปี 2562 สินทรัพย์จำนวน 42% ของสินทรัพย์ที่หมดสัญญานั้นบริษัทได้จำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายย่อยโดยตรง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2561
ภาระหนี้น่าจะยังคงอยู่ในระดับปานกลาง
ทริสเรทติ้ง คาดว่าภาระหนี้ของบริษัทซึ่งวัดโดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนจะยังคงอยู่ในระดับปานกลางที่ 75%-76% ในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้า โดย ณ เดือนมีนาคม 2563 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 75.4% ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการขยายสินทรัพย์ให้เช่าอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะลดความต้องการในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจลงได้ในระยะปานกลาง โดย
ทริสเรทติ้ง ประมานการว่าอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจะยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 3-4 เท่าในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้าซึ่งต่ำกว่าเงื่อนไขทางการเงินของหุ้นกู้ของบริษัทที่ 7 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 3.4 เท่า ณ เดือนมีนาคม 2563
ความสามารถในการจัดหาเงินทุนและสถานะสภาพคล่องเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิต
สภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัทมีปัจจัยสนับสนุนมาจากโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่สอดคล้องกัน โดยบริษัทมีการบริหารระยะเวลาการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าซึ่งส่วนใหญ่นาน 3-4 ปีด้วยการใช้เงินกู้ยืมระยะยาวเป็นแหล่งเงินทุนหลัก ณ เดือนมีนาคม 2563 เงินกู้ยืมระยะสั้นมีสัดส่วนคิดเป็น 37% ของเงินกู้ยืมรวมของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังมีความยืดหยุ่นทางการเงินจำนวนมากจากการที่บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากทั้งตลาดตราสารหนี้และตลาดทุน อีกทั้งยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่งด้วยเช่นกัน ณ เดือนมิถุนายน 2563 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจำนวนทั้งสิ้น 2 พันล้านบาทซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับรองรับสภาวะการขาดสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้น
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสำหรับการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2563-2565 มีดังนี้
- • สินทรัพย์ให้เช่ารวมจะเติบโตที่ระดับ 0%-5%
- • อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจเช่าดำเนินงานจะอยู่ที่ระดับประมาณ 17%
- • ต้นทุนทางการเงินจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2%-3%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะในการแข่งขัน ตลอดจนความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไรในธุรกิจหลักของบริษัทเอาไว้ได้เพื่อที่จะรักษาผลการดำเนินงานทางการเงินและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับปัจจุบัน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นโดยมีอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าระดับ 1.7 เท่าติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากความสามารถในการทำกำไรหรือการสร้างกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
PL209A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB+
PL212A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 BBB+
PL21NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 BBB+
PL232A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ
โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ