- Details
- Category: บล.
- Published: Sunday, 19 April 2020 21:41
- Hits: 3380
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร'บล.ภัทร' ที่ 'A' แนวโน้ม 'Stable'
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'A/Stable' อันดับเครดิตสะท้อนสถานะการเป็นบริษัทลูกที่เป็นธุรกิจหลักสำคัญของกลุ่มเกียรตินาคินภัทร สถานะทางการตลาดในธุรกิจหลักทรัพย์ที่แข็งแกร่งและการกระจายตัวที่ดีของแหล่งรายได้ เงินทุนและความสามารถในการทำกำไรที่เพียงพอ ผลกระทบจากความเสี่ยงด้านเครดิตที่จำกัด แหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาหลักทรัพย์จากธุรกิจการลงทุนด้วยบัญชีของบริษัท ซึ่งส่งผลต่อปัจจัยความเสี่ยง
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
การเป็นบริษัทลูกที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร
ทริสเรทติ้ง พิจารณาว่าบริษัทเป็นสมาชิกหลักของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เนื่องจากบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญต่อกลุ่ม โดยบริษัทได้สร้างกำไรให้แก่กลุ่มในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญที่ 15% ในปี 2562 อีกทั้งในฐานะที่เป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมด
โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและด้านการเงินจากธนาคารเกียรตินาคิน และสามารถขยายฐานลูกค้าโดยใช้ฐานลูกค้าของธนาคารได้ โดยเฉพาะฐานลูกค้านักลงทุนรายใหญ่ นอกจากนี้ ธนาคารเกียรตินาคินยังได้ให้วงเงินสินเชื่อจำนวนมากแก่บริษัท ซึ่งถือเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานของบริษัท
สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง
บริษัทยังคงมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในหลายธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพและมีชื่อเสียงในธุรกิจวาณิชธนกิจ ในช่วง 6เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 5.7% อีกทั้งบริษัทยังมีส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจที่สูงที่สุดในคู่แข่งที่จัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของบริษัทก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยก่อให้เกิดรายได้ค่าธรรมเนียมแก่บริษัทอย่างสม่ำเสมอ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 สินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัทอยู่ที่ 575 พันล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 21% จากปี 2561 และรายได้การเป็นตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น 14% มาอยู่ที่ 552 ล้านบาทในปี 2562
โครงสร้างรายได้ที่กระจายตัว
บริษัทมีโครงสร้างรายได้ที่กระจายตัวดีซึ่งเกิดจากความสามารถในการสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งในแต่ละธุรกิจ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์คิดเป็น 45% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการคิดเป็น 33% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 54% และ 14% ตามลำดับ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาความหลากหลายในธุรกิจที่แข็งแกร่งเนื่องจากบริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านงานวิจัยและความครอบคลุมของฝ่ายการขายซึ่งช่วยรักษาฐานรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท อีกทั้ง ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการขยายผลิตภัณฑ์ที่เสนอขายยังช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมอีกด้วย
เงินทุนที่เพียงพอและความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง
ทริสเรทติ้ง คาดว่าเงินทุนของบริษัทจะยังคงเพียงพอเพื่อรองรับการขาดทุนที่เหนือความคาดหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านเครดิต รวมถึงความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ และความเสี่ยงด้านการดำเนินงานของบริษัท ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 12% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงอยู่ที่ 12.2% ในปี 2562 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปอยู่ที่ 28% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ระดับ 7%
ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าอัตราส่วนกาไรก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยงของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 3% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เทียบกับอัตราส่วนดังกล่าวเฉลี่ย 5 ปี (2561-2565) ที่ 2.8% และ 3.2% ในปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้จากการพัฒนาธุรกิจจากความได้เปรียบทางการแข่งขัน เช่น งานวิจัย ธุรกิจวาณิชธนกิจ และธุรกิจบริหารความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องและสร้างประโยชน์จากความร่วมมือกันระหว่างบริษัทย่อยในกลุ่มเกียรตินาคินภัทร อีกทั้ง ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า บริษัทจะยังคงรักษาค่าใช้จ่ายดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำได้ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิอยู่ที่ 53.0% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 72.2%
การได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านเครดิตและความเสี่ยงด้านราคาของหลักทรัพย์เครดิตที่จำกัด
ทริสเรทติ้ง มองว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงทางด้านเครดิตในระดับที่จำกัดเนื่องจากบริษัทไม่ได้ให้บริการเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ความเสี่ยงทางด้านเครดิตของบริษัทจำกัดอยู่ในความเสี่ยงจากลูกหนี้จากการให้บริการเป็นตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้น ในมุมมองของทริสเรทติ้งความเสี่ยงดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์จำกัด
บริษัทมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์จากเงินลงทุนของบริษัทในระดับที่บริหารจัดการได้เนื่องจากกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทจำกัดอยู่ในกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (กลยุทธ์อาร์บิทราจ) และไม่ผันผวนตามการเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาระบบการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมได้อย่างต่อเนื่องซึ่งจะช่วยป้องกันการขาดทุนจากเงินลงทุนของบริษัท
การได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านเครดิตและความเสี่ยงด้านราคาของหลักทรัพย์เครดิตที่จำกัด
ทริสเรทติ้ง พิจารณาว่าบริษัทมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอซึ่งวัดจากการประมาณการอัตราส่วนแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพที่ระดับประมาณ 140%-150% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับความต้องการในการใช้เงินทุนด้วยอัตราส่วนแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพที่ 152.6% ณ สิ้นปี 2562
อีกทั้ง ทริสเรทติ้งยังพิจารณาว่าบริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอในอีก 12 เดือนข้างหน้า ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่งรวมทั้งสิ้น 2.5 พันล้านบาท นอกเหนือจากวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเกียรตินาคิน โดยวงเงินสินเชื่อรวมเพียงพอสำหรับสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทและเพียงพอสำหรับรองรับภาวะการขาดสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นได้
ทริสเรทติ้ง คาดว่า อัตราส่วนความครอบคลุมของสภาพคล่องของบริษัทจะอยู่ในระดับเพียงพอที่ประมาณ 1.2 เท่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนความครอบคลุมของสภาพคล่องเปรียบเทียบสินทรัพย์สภาพคล่อง (เงินสด, เงินลงทุนในหลักทรัพย์) กับความต้องการในการใช้สภาพคล่อง (ภาระหนี้ระยะสั้น) อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.0 เท่า ณ สิ้นปี 2562 โดยอัตราส่วนที่ถือว่าอยู่ในระดับเพียงพอคือที่ระดับอย่างน้อย 1.0 เท่าตามเกณฑ์ของทริสเรทติ้ง
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสาหรับบริษัทในระหว่างปี 2563-2565 มีดังนี้
- • ส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์จะอยู่ที่ระดับประมาณ 10%
- • อัตราค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 0.05%
- • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดาเนินงานต่อรายได้สุทธิจะอยู่ที่ระดับประมาณ 50%-55%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะรักษาสถานะการเป็นบริษัทลูกที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเกียรตินาคินภัทรและได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแม่อย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้หากสถานะด้านเครดิตของธนาคารเกียรตินาคินเปลี่ยนแปลงไป หรือระดับที่บริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเกียรตินาคินภัทรเปลี่ยนแปลงไป หรือสถานะในการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทต่อกลุ่มเกียรตินาคินภัทรเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเทียบกับบริษัทย่อยอื่น ๆ ของกลุ่ม
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- Securities Company Rating Methodology, 9 April 2020
- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558
บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (PHATRA)
อันดับเครดิตองค์กร: A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web