- Details
- Category: บล.
- Published: Thursday, 25 January 2018 12:33
- Hits: 7183
บล.หยวนต้า ตั้งเป้าขึ้น TOP 3 มีมาร์เก็ตแชร์ 7% ในปี 62 เล็งเข้า SET ปี 63
บล.หยวนต้า ตั้งเป้าขึ้น TOP 3 มีมาร์เกตแชร์ 7% ในปี 62 ก่อนนำเข้าจดทะเบียนใน SET ปี 63 โดยรายได้จาก Brokerage ยังเป็นรายได้หลักของบริษัท
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดการตลาด (Market Share) ปีนี้ที่ระดับ 5% จาก 2.8% ในปีที่แล้ว ติดอันดับ 1 ใน 5 (TOP 5) ภายในสิ้นปีนี้ และขยับเป้าหมายขึ้นสู่ TOP 3 และมีส่วนแบ่งตลาด 7% ในปี 62 ก่อนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 63
“รายได้จาก Brokerage ยังเป็นรายได้หลักของบริษัท ซึ่งปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตถึง 200% ของปีที่แล้ว และบริษัทก็มีแผนที่จะขอเข้าจดทะเบียนใน SET ในปี 63 โดยปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีแรกที่บริษัทเริ่มมีผลกำไรแล้ว แต่จะเข้าตลาดฯ จะต้องมีกำไร 3 ปี ดังนั้น จึงต้องรอทำผลงานก่อน” นางบุญพร กล่าว
นางบุญพร กล่าวว่า ปี 61 บริษัทจะเปลี่ยนโฉมเน้นการสร้าง Asset ความมั่งคั่งยั่งยืนให้กับลูกค้า (Wealth) โดยในส่วนของธุรกิจค้าหลักทรัพย์ (Brokerage Business) จะเน้นรายได้หลักที่มาจากนักลงทุนรายย่อย แต่ในไตรมาส 4/60 บริษัทก็เริ่มมีรายได้จากสถาบันในประเทศได้ส่งออเดอร์เข้ามาบ้างแล้ว ส่วนต่างประเทศก็มีการเตรียมขยายรับออเดอร์จากโบรกเกอร์ต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญตลาดฮ่องกง และตลาดในยุโรป ซึ่งจะมาช่วยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคตได้
ในส่วนของการปล่อยมาร์จิน และการทำ Block Trade ปีที่ผ่านมา บริษัทปล่อยไป 10,000 ล้านบาท ในปี 61 บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของลูกค้า และตัวหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,175% สำหรับสินค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับตราสารทุน และ Block Trade Single Stock Futures ได้รับความนิยมจากลูกค้าหยวนต้าฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หยวนต้าฯ มียอดการซื้อขายของสินค้าดังกล่าวจากลูกค้าสูงสุดติดอันดับ TOP 5 ในไตรมาส 4/60
ส่วนบัญชีลูกค้า ในปี 61 มองเป้าหมายจะเติบโต 15% จากปัจจุบันที่มี 75,500 บัญชี โดยคงลูกค้าที่ Active ไว้ที่ 55% เช่นเดียวกับปี 60 ด้านสาขาของบริษัทมีอยู่ 35 สาขา ไม่รวมสำนักงานใหญ่ ในปี 61 คาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 สาขา ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมองเป้าหมายสำหรับผู้แนะนำการลงทุน (IC) ไว้ที่ 533 คน จากปีที่แล้ว บริษัทมีผู้แนะนำการงทุนอยู่ 447 คน ส่วนพนักงานของบริษัทคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 788 คน จากปี 60 มีพนักงานอยู่ 670 คน
สำหรับ ธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) บริษัทจะเริ่มทำงานเต็มที่ได้ในเดือน มี.ค. ซึ่งการทำดีลเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการปรับโครงสร้างให้กับลูกค้า ดังนั้น ปีนี้ดีล IPO อาจจะยากอยู่ แต่ก็คงจะมีดีลที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น (Co-Underwriter) เข้ามา และก็ยังสามารถทำ M&A ได้เลยในปีนี้ ดังนั้น จึงเชื่อว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้ จะทำให้งบการเงินดูดีมากกว่าปีที่แล้ว
นางบุญพร กล่าวอีกว่า บริษัทยังจะทำหน้าที่เป็น Selling Agent ของกองทุน โดยจะสามารถซื้อขายกองทุนได้ ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนกองทุนกับทางบริษัทได้ ด้วยเทคโนโลยีของบริษัททำให้ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตนเอง และลูกค้ายังสามารถไปลงทุนในหลายประเทศ ทั้งไต้หวัน, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, พม่า, ฟิลิปปินส์ ซึ่งบริษัทให้บริการในลักษณะ Off-shore Investment service ได้ด้วย