- Details
- Category: ธปท.
- Published: Monday, 25 August 2014 00:08
- Hits: 3372
ธปท.วาดฝันนายกคนใหม่ เดินหน้าดึงเชื่อมั่นนักลงทุนคัมแบ็ก-ถก กนง.26 ก.ย.
บ้านเมือง : ธปท.วาดฝัน 'บิ๊กตู่'นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เดินหน้าเรียกเชื่อมั่นนักลงทุนคัมแบ็ก ระบุแนะรัฐบาลใหม่จัดลำดับความสำคัญนโยบาย-โครงการให้ดี มั่นใจเศรษฐกิจไทยจากนี้ต่อไปโตได้ตามศักยภาพ ขณะที่ กนง. ยันดอกเบี้ยอาร์พี 2% อยู่ในระดับเหมาะสม เตรียมนำปัจจัยเศรษฐกิจประเมินในการประชุม กนง. 26 ก.ย.นี้
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภายหลังคณะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ของประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ธปท. เชื่อมั่นว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นไปตามโรดแมปที่นักลงทุนที่มีการคาดการเอาไว้แล้วล่วงหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งจัดลำดับความสำคัญของนโยบายและโครงการที่จะทำ ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายเพราะรัฐบาลจะต้องทำนโยบายระยะสั้นควบคู่กับนโยบายระยะกลางและระยะยาว รวมทั้งต้องเร่งชี้แจงนักลงทุนชาวต่างชาติ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไป นักลงทุนต่างๆ คงมีความคาดหวัง และอยากเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการปฏิรูปอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่ง ธปท. คาดว่าตั้งแต่ ก.ค.57- มิ.ย.58 จะเริ่มเห็นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ตามศักยภาพ
"ช่วงนี้เรามีการพบนักลงทุน โดยพยายามให้เขาเข้าใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจเราไม่ได้ถูกกระทบ และคงต้องติดตามเนื้อหาการพัฒนาการว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในช่วงครึ่งแรกที่ผ่านมามันออกมาไม่ดี แต่หลังจากนี้คือนับตั้งแต่เดือน ก.ค.57-มิ.ย.58 เชื่อว่าเศรษฐกิจจะโตตามศักยภาพอย่างแน่นอน" นายจิรเทพ กล่าว
นายจิรเทพ กล่าวต่อว่า หลังจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/57 เติบโตที่ระดับ 0.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากไตรมาส 1/57 ที่ติดลบประมาณ 0.5% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกติดลบประมาณ 0.1% นั้น ธปท. ยืนยันว่าจะนำปัจจัยดังกล่าว รวมถึงปัจจัยด้านอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ใน วันที่ 26 ก.ย.นี้
"ธปท.คงนำทุกปัจจัยทั้งในช่วงที่ผ่านมา และสถานการณ์ล่าสุดเข้าที่ประชุมทั้งหมด ในการพิจารณาจีดีพีในเดือน ก.ย.นี้ ถ้าถามว่าห่วงเรื่องไหนเป็นพิเศษ ต้องยืนยันว่าเราต้องประเมินทุกเรื่อง คงต้องดูทั้งหมดอย่างแน่นอน"นายจิรเทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธปท. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้ตามศักยภาพ โดยติดตามแรงส่งการลงทุนภาครัฐ หลังงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ได้มีการจัดงบขาดดุลกว่าประมาณ 2% ของ GDP ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทย จะเดินหน้าไปได้ในทิศทางที่ดีขึ้น และจะมีปัจจัยสนับสนุนความมั่นใจของประชาชน และนักลงทุนเพิ่มเติม
นายจิรเทพ กล่าวต่อว่า กนง.ยืนยันว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2% ในปัจจุบัน เป็นระดับที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายการเงินจะผ่อนคลายต่อเนื่องหรือไม่นั้น ทาง กนง. จะพิจารณาปัจจัยรอบด้าน ซึ่งหากมีการผ่อนคลายมากเกินไป จะมีผลกระทบต่อการก่อหนี้ให้สูงขึ้น และทำให้การออมลดลง โดยยืนยันว่า ต้นทุนดอกเบี้ยเป็นต้นทุนต่อภาคธุรกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ภาคครัวเรือน คาดว่าจะยังคงทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย หลังจากมีการกู้เงินมาก ก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนั้น ทาง ธปท.เตรียมที่จะหารือร่วมกับทางกระทรวงการคลัง ในการดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ใน 2 เรื่องประกอบด้วย รูปแบบการดำเนินธุรกิจและการกำกับดูแล เพื่อป้องกันปัญหาการทำธุรกิจแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์
โดยขณะนี้คงยังไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่ากำหนดเดิมที่คาดไว้ในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 58 หรือไม่ แม้ขณะนี้ตลาดจะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐ เริ่มปรับตัวดีขึ้น และคาดการณ์ไปว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่ากำหนด เนื่องจากยังมีประเด็นที่จะต้องจับตาในเรื่องของตลาดแรงงาน รวมทั้งต้องถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้ด้วย
"ตอนนี้ตลาดรอฟัง speech ของประธานเฟด เพราะยังมีประเด็นเกี่ยวกับตลาดแรงงาน...คงยังไม่สามารถฟันธงได้ในถ้อยแถลงรอบนี้ว่าเฟดคิดอย่างไร ต้องดูแรงกดดันเรื่องค่าจ้าง,การจ้างงานที่จะเป็น full time หรือ part time และที่ว่างงานอยู่แล้วจะกลับมาสู่ตลาดแรงงานหรือไม่"