- Details
- Category: ธปท.
- Published: Friday, 22 August 2014 22:40
- Hits: 2866
ธปท.มองนับจากนี้อีก 1 ปี ศก.จะโตตามศักยภาพ เพราะได้นายกฯตามที่ตลาดคาด มาบริหารประเทศ
ธปท.ระบุหลังได้นายกฯ ตามที่ตลาดคาด จะหนุนความเชื่อมั่นดีขึ้น มอง ศก.จากนี้อีก 1 ปี (ก.ค.57-มิ.ย.58) จะโตตามศักยภาพ ชี้ขาดดุลงบประมาณการคลัง 2% เหมาะสมต่อการสนับสนุน ศก.พร้อมระบุดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% ยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของ ศก.มั่นใจไม่เพิ่มต้นทุนภาคธุรกิจ ก.ย.นี้ทบทวนจีดีพีทั้งปี ส่วนภาพรวมของตลาดการเงิน 2-3วันก่อนผันผวน เหตุตลาดเฝ้าติดตามผลประชุม ธ.กลางทั่วโลก-ถ้อยแถลงประธานเฟด
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากได้ว่าที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อมั่นว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นไปตามโรดแมปที่นักลงทุนที่มีการคาดการเอาไว้แล้วล่วงหน้า หลังจากนี้ไป นักลงทุนต่างๆ คงมีความคาดหวัง และอยากเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการปฏิรูปอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งคาดว่าตั้งแต่ ก.ค.57-มิ.ย.58 จะเริ่มเห็นเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ตามศักยภาพ
ช่วงนี้ เรามีการพบนักลงทุน โดยพยายามให้เขาเข้าใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจเราไม่ได้ถูกกระทบ และคงต้องติดตามเนื้อหาการพัฒนาการว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในช่วงครึ่งแรกที่ผ่านมามันออกมาไม่ดี แต่หลังจากนี้คือนับตั้งแต่เดือน ก.ค.57-มิ.ย.58 เชื่อว่าเศรษฐกิจจะโตตามศักยภาพอย่างแน่นอน”นายจิรเทพ กล่าว
สำหรับ ช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่าทิศทางเศรษฐกิจจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แต่สิ่งที่ ธปท.ห่วงคือแรงส่งด้านการคลังจะมีความชัดเจนมากแค่ไหน โดยมองว่าหากการขาดดุลงบประมาณด้านการคลังหากอยู่ในระดับที่ 2% ต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี น่าจะเป็นระดับที่เหมาะสมต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้
ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอมรับว่าโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังเรามองว่ามันจะกลับมาดูดีขึ้น โดยมีแรงส่งจากการลงทุนภาครัฐ และการใช้จ่ายภาคเอกชน ขณะที่ด้านการส่งออกคงค่อยๆ ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกได้ แต่สิ่งที่ต้องจับตาอีกเรื่องคือแรงส่งด้านการคลังจะมีความชัดเจนและเป็นแรงส่งต่อเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน”นายจิรเทพ กล่าว
นายจิรเทพ กล่าวต่อว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ยังเหมาะสมและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และไม่เป็นต้นทุนและอุปสรรคต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำจะไม่เป็นตัวเอื้อให้ประชาชนก่อหนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากระดับหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้ คาดว่า จะมาจากการที่มีการนำกำลังซื้อนาคตมาใช้ ส่งผลให้ระดับกนี้เพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันไม่น่าใช่ปัญหาที่น่าห่วงแล้ว
ส่วนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/57 เติบโตที่ระดับ 0.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากไตรมาส 1/57 ที่ติดลบ 0.5% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกติดลบ 0.1% นั้น ยืนยันว่าจะนำปัจจัยดังกล่าว รวมถึงปัจจัยด้านอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 26 ก.ย.นี้
เราคงนำทุกปัจจัยทั้งในช่วงที่ผ่านมา และสถานการณ์ล่าสุดเข้าที่ประชุมทั้งหมด ในการพิจารณาจีดีพีในเดือน ก.ย.นี้ ถ้าถามว่าห่วงเรื่องไหนเป็นพิเศษ ต้องยืนยันว่าเราต้องประเมินทุกเรื่อง คงต้องดูทั้งหมดอย่างแน่นอน”นายจิรเทพ กล่าว
อนึ่ง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประชุมครั้งถัดไปวันที่ 17 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 ของปีนี้ และในวันที่ 26 กันยายน 2557 จะแถลงรายงานนโยบายการเงิน
นายจิรเทพ กล่าวยอมรับว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตลาดการเงินค่อนข้างผันผวน โดยสิ่งที่ต้องจับตามองในขณะนี้ คือ การประชุมแจคสัน โฮว์ โดยนักลงต้องติดตามว่าในคืนวันนี้นางเจนเน็ต เยลเลน ประธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะมีถ้อยแถลงเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมายังมีประเด็นเกี่ยวกับการจ้างงาน รวมถึงติดตามตัวเลขอื่นๆด้วย ส่งผลให้ธปท.ต้องจับตา และระมัดระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้
แม้ว่า ตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวมันจะเริ่มดี แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่จับตา โดยเฉพาะการจ้างงานต่างๆ และตลาดที่อยู่อาศัยที่เกี่ยวกับความมั่งคั่งว่าการฟื้นตัวจะเติบโตได้เป็นอย่างไรบ้าง และที่สำคัญในเวลานี้คงไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในไตรมาส 2-3 ปีหน้าได้หรือไม่มันเป็นเรื่องที่ตอบได้ค่อนข้างยาก” นายจิรเทพ กล่าว
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รวมถึงความกังวลที่จะแพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยด้วยนั้น ยืนยันว่า จะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นยังไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องกังวล เนื่องจากมีความมั่นใจว่า นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คือ การสร้างความมั่นใจ การดูแล และป้องกัน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย