- Details
- Category: ธปท.
- Published: Wednesday, 03 May 2017 09:13
- Hits: 6619
ผู้ว่าธปท.คาดปีนี้ยอดใช้พร้อมเพย์พุ่ง หลัง Q1/60 มีธุรกรรมกว่า 4.3 ล้านรายการ มั่นใจ NPL แบงก์ปีนี้ลดลง หลังศก.ฟื้นตัว
ผู้ว่าธปท.คาดปีนี้ยอดใช้พร้อมเพย์พุ่งหลัง Q1/60 มีธุรกรรมกว่า 4.3 ล้านรายการ มูลค่า 3 หมื่นลบ. มั่นใจ NPL สถาบันการเงินปีนี้ มีแนวโน้มลดลง หลังศก.ฟื้นตัว พร้อมเตือนปชช.ห้ามเปิดบัญชีแทน หรือซื้อขายบัญชีแบงก์ หลังมีเพจรับซื้อบัญชี- บัตรเดบิตระบาด ชี้เป็นเรื่องผิดกม. สั่งแบงก์พาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการยกระดับความปลอดภัยในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ระหว่างสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมคมธนาคารไทยว่า ในปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ทั้งสิ้น 21 ล้านบัญชี และมีผู้ใช้เบอร์มือถือทั้งสิ้น 6 ล้านหมายเลข ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว เห็นได้จากในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีปริมาณธุรกรรมสูงถึง 4.3 ล้านรายการ มูลค่าเกือบ 30,000 ล้านบาท
"เราเชื่อว่า พร้อมเพย์จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการชำระเงิน ลดต้นทุน รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมาก โดยมองว่าหลังจากนี้ปริมาณธุรกรรมจะสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน ซึ่งในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีปริมาณธุรกรรมสูงถึง 100,000 รายการต่อวัน จากช่วงแรกที่เปิดให้บริการมีเพียง 20,000-30,000 รายการเท่านั้น"นายวิรไท กล่าว
สำหรับ ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น หลังจากนี้ สมาคมโทรคมนาคมและสมาคมธนาคารไทย จะประสานความร่วมมือและเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เช่น หากลูกค้ามีการเปลี่ยนเลขหมาย จะมีการส่งข้อมูลให้สถาบันการเงินรับทราบ เป็นต้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และเป็นการยืนยันตัวตนอีกช่องทางหนึ่งด้วย
นายวิรไท กล่าวถึงตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ของธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในระดับสูงขณะนี้ว่า เป็นไปตามที่ธปท.คาดการณ์ไว้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีอุตสาหกรรมบางประเภทที่ยังชะลอตัว แต่ทั้งนี้ในแต่ละสถาบันการเงินก็จะมีการบริหารจัดการ ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ หรือการตัดขายหนี้ออกบางส่วนซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โดยหลังจากนี้มองว่า แนวโน้มเอ็นพีแอลมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากไตรมาส 1/2560 เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวดี ซึ่งจะส่งผลให้ NPL ปรับลดลงด้วย
ส่วนการเปิดเพจรับซื้อขาย บัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม ขณะนี้มีข่าวดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งจูงใจโดยการให้ตอบแทนสูง จึงอยากให้ประชาชนมีความระมัดระวัง ว่าการชักชวนดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ประสงค์ดี หรือเข้าข่ายต้มตุ๋น และอาจเข้าเกณฑ์การฟอกเงินด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยความผิดนั้นจะโดนทั้งผู้ขายและผู้รับซื้อ
สำหรับ เบื้องต้นนั้น หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรสอบถามได้ที่ 1213 ซึ่งเป็นหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของธปท.เอง และได้กำชับให้สถาบันการเงินเฝ้าติดตาม ระมัดระวัง และตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆที่อาจเข้าข่ายด้วย ด้านธุรกรรมประเภท วันคอย บิทคอย ธปท.ยืนยันว่า ยังเฝ้าติดตามเป็นระยะๆต่อไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย