ผู้ว่าธปท.ยอมรับค่าเงินบาทยังผันผวนสูง-คาดเดายาก จับตานโยบายทรัมป์ พร้อมแนะผู้ประกอบการทำประกันความเสี่ยงสม่ำเสมอ ธปท.งัดมาตรการคุมเงินบาทผันผวนคลังหนุนเร่งลงทุน

      ผู้ว่าการ ธปท. ยอมรับค่าเงินบาท และค่าเงินทั่วโลกยังผันผวนสูง-คาดเดายาก หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง พร้อมจับตานโยบายผู้นำสหรัฐ พร้อมแนะผู้ประกอบการทำประกันความเสี่ยงสม่ำเสมอ พร้อมยืนยันไม่ได้ดูแลค่าเงินบาทให้ได้เปรียบการค้า แต่เงินบาทยังเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง และมีมาตรการดูแลหากพบความผิดปกติ ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม จากความขัดแย้งการเมืองและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ

     นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ยอมรับว่า ค่าเงินทั่วโลกรวมถึงค่าเงินบาทยังมีความผันผวนสูง และคาดเดาได้ยาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่กดดันตลาดเงินทั่วโลก ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบมากนัก

     “เราโชคดี ที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ค่าเงินบาทไม่ได้ผันผวนสูงเท่ากับประเทศอื่น ส่งผลให้ผู้ประกอบการวางใจไม่ทำประกันความเสี่ยง เห็นได้จากผู้ประกอบการกว่า 60% ไม่มีการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเลย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก เนื่องจากอาจติดเรื่องวงเงิน ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ก็ไม่ทำประกันความเสี่ยง เพราะหวังเก็งกำไรจากค่าเงินในบางจังหวะ แต่ช่วงที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการแห่มาทำความเสี่ยง เมื่อค่าเงินผันผวนเร็ว หรือไม่ได้ไปในทิศทางที่คาดเดา ”นายวิรไท กล่าว

      นายวิรไท กล่าวถึงมาตรการลดประมูลพันธบัตรระยะสั้นลงนั้น เนื่องจากเห็นว่า ในช่วงเวลามีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศนำเงินเข้ามาพักในตลาดทุนไทยในช่วงสั้นๆ จนมีผลกระทบต่อค่าเงินบาท แต่การปรับลดการประมูลพันธบัตรดังกล่าวนั้น เป็นเพียงมาตรการหนึ่ง และถือเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศรับทราบ

     “ประเทศไทยเหมือนเป็นประเทศปลอดภัย นักลงทุนจึงแห่นำเงินเข้ามาพักเป็นช่วงสั้นๆ ซึ่งบางครั้งเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ เพราะกระทบต่อตลาดเงินและค่าเงินของเรา เราจึงเริ่มออกมาตรการออกมา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศรับทราบว่าเราไม่ชอบ แต่ยืนยันว่า มาตรการของ ธปท.มีหลายมาตรการทั้งเบาและหนัก โดยขณะนี้ยังพบว่า ไทยยังเป็นเงินทุนไหลเข้าสุทธิ ซึ่งเราก็ดูแลในเรื่องของนักลงทุนที่นำเงินเข้ามาพักในตลาดช่วงสั้นๆด้วย”นายวิรไท กล่าว

      นอกจากนี้ ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ได้ดูแลค่าเงินเพื่อให้ได้เปรียบทางการค้า และการส่งออกของไทยนั้นเพิ่งเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวได้ในช่งงต้นปีที่ผ่านมา หลังไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สรหัฐจับตาว่ามีการเกินดุลการค้าสูง ทั้งนี้การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในปัจจุบัน ยังเป็นไป 2 ทิศทาง และไม่ได้แข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นๆ มากนัก

      นายวิรไท กล่าวถึงแผนของเงินทุนเคลื่อนย้าย เพื่อส่งเสริมให้ผู้ลงทุนรายย่อยออกไปลงทุนได้โดยตรง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อออกกฎหมายควบคุมแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถดำเนินการเรื่องเงินตราต่างประเทศไทย เพื่อทำให้นักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น โดยคาดว่าจะออกใช้ได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

        สำหรับ เศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ความเสี่ยงในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายการค้าระหว่างประเทศของกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ธปท.จะปรับประมาณการจีดีพีของไทยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3.4%

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ธปท.งัดมาตรการคุมเงินบาทผันผวนคลังหนุนเร่งลงทุน

      ไทยโพสต์ : บางขุนพรหม * ธปท.แจงบาทผันผวนไม่รุนแรงเทียบภูมิภาค พร้อมงัดมาตรการลดช่องทางทุนนอกเข้ามาพัก คลังหนุนลง ทุนโครงสร้างพื้นฐานกระตุ้นจีดีพีประเทศขยับปีละ 0.5%

     นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ว่ามีบางประเทศแสดงความเป็นห่วงเรื่องความผันผวนของค่าเงินในภูมิภาค โดยมองว่าสาเหตุหลักมาจากสถาน การณ์การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ทำให้ทุกสกุลเงินในอาเซียนต่างปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นการแข็งค่าของสกุลเงินในอาเซียนจึงเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกภูมิภาคเป็นหลัก ไม่ใช่จากปัจจัยภายในของแต่ละประเทศในอาเซียนเอง และในส่วนของไทยเองยังถือว่าโชคดีที่เงินบาทไม่ได้ผันผวนรุนแรงเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงินในภูมิภาค

     ทั้งนี้ จากการปรับลดวง เงินการออกพันธบัตรระยะสั้นลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาเงินทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาพักในระยะสั้น และมีการเก็งกำไรค่าเงินจนส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยพบว่าการใช้มาตรการดังกล่าวถือว่าแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง เพราะทำให้เงินทุนที่เข้ามาไหลไปในส่วนของพันธบัตรระยะยาวมากขึ้นแทน ซึ่งหากเป็นในลักษณะนี้ ธปท.จะไม่มีความกังวลเท่า กับที่เงินทุนไหลเข้ามามากในช่วงสั้นๆ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินมีความผันผวน

     นายวิรไทกล่าวอีกว่า ธปท.พร้อมที่จะเข้าไปดูแลค่าเงิน โดยยังมีอีกหลายมาตรการที่เตรียมไว้ใช้ หากพบว่าเงินทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามานั้นได้สร้างผลกระทบต่อตลาดเงิน และอัตราแลก เปลี่ยนของไทย แต่การใช้มาตร การเหล่านี้คงจะไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้

    ด้าน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง วง เงิน 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการลงทุนในระยะเวลา 8 ปี หากดำเนินการได้ตามแผนที่วาง ไว้จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่มปีละ 0.5% ส่งผลให้ เศรษฐกิจขยายตัวได้เต็มศักย ภาพปีละมากกว่า 4% และทำให้ ประเทศไทยหลุดจากกับดักประ เทศรายได้ขนาดกลางได้เร็วขึ้น

     ทั้งนี้ จากการประมาณการ ของกระทรวงการคลัง พบว่า หาก ปล่อยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ระดับใกล้ 3.5-4% ในระดับปัจจุ บัน จะต้องใช้เวลาอีกถึง 15 ปี ประ เทศไทยถึงจะหลุดจากกับดักประ เทศรายได้ขนาดกลางได้ ทำให้ที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งปฏิรูปโครง สร้างทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ประ เทศไทยหลุดจากประเทศรายได้ปานกลางได้เร็วขึ้น.