- Details
- Category: ธปท.
- Published: Monday, 31 October 2016 22:15
- Hits: 7598
ธปท.ยอมรับศก.ไตรมาส 3/59 ดีกว่าคาด หลังส่งออกโตต่อเนื่อง รับติดตามทัวร์ศูนย์เหรียญใกล้ชิด หวั่นกระทบท่องเที่ยว ฉุดจีดีพีปีนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย มองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2559 ดีกว่าคาด หลังการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 2 เดือน แต่โดยรวมอาจเติบโตใกล้เคียงหรือต่ำกว่าไตรมาส 2/59 เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นปัจจัยที่ ธปท.ติดตามอย่างใกล้ชิดว่าอาจกระทบต่อเศรษฐกิจปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2559 ขยายตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการใช้จ่ายภาครัฐที่ยังขยายตัวดีและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ประกอบกับมูลค่าการส่งออกปรับดีขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในประเทศ
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 3/59 ดีกว่าที่ธปท.คาดไว้ เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัว 2 เดือนติดต่อกัน โดยเป็นการขยายตัวในหลายสินค้า สาเหตุจากอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้นในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และผลของฐานที่ต่ำในบางกลุ่มสินค้า เช่น เครื่องจักร และมันสำปะหลัง ประกอบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มที่ราคาเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบหดตัวในอัตราที่ชะลอลง อย่างไรก็ตามแนวโน้มไตรมาส 4/59 คาดว่าการส่งออกจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์ยังคงอยู่เช่นปัจจุบัน
"ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 3 ถือว่าเติบโตใกล้เคียงหรืออาจแผ่วลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/59 เนื่องจากไตรมาส 2 ตัวเลขออกมาดีเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามปัญหาที่ต้องติดตามใกล้ชิด คือ ผลกระทบจากปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยในเดือนก.ย. แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเติบโต 18.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ตอนนั้นเป็นผลจากฐานที่ต่ำเนื่องจากมีเหตุการณ์ระเบิด แต่นักท่องเที่ยวจีนก็ไม่ได้รับผลกระทบ แต่จากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ เป็นปัจจัยที่ ธปท. ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้ โดยในปีนี้ ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 33.6 ล้านคน" ดร.รุ่ง กล่าว
ธปท. รายงานว่าในเดือน กันยายน การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง เป็นมูลค่า 19,303 ล้านดอลลาร์ หรือเติบโตร้อยละ 3.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งหากไม่รวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ 3.9 โดยเป็นการขยายตัวในหลายหมวดสินค้า ส่วนหนึ่งมาจากหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับผลดีจากการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ รวมทั้งหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้ผลิตขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในหลายตลาดโดยเฉพาะ CLMV ยุโรปและสหรัฐฯ
สำหรับ มูลค่าการนำเข้าสินค้า อยู่ที่ 15,582 ล้านดอลลร์ เติบโต ร้อยละ 1.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งหากไม่รวมการนำเข้าทองคำ มูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 0.3 จากการขยายตัวในหลายหมวดสินค้า โดยหมวดสินค้าทุนขยายตัวตามการนำเข้าหม้อแปลงและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สอดคล้องกับการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง และการนำเข้าเครื่องจักรในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่การส่งออกมีแนวโน้มปรับดีขึ้น ทั้งนี้ส่งผลให้ดุลการค้าเดือนกันยายน เกินดุล 3,721 ล้านดอลลาร์จาก สิงหาคม ที่เกินดุล 2,736 ล้านดอลลาร์ ดุลบัญชีเดินสะพัด เกินดุล ,929 ล้านดอลลาร์ จากเดือนสิงหาคมที่เกินดุล 3,805 ล้านดอลลาร์
การลงทุนภาคเอกชนโดยรวมทรงตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่มีทิศทางปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อนตามการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมสะท้อนจากการนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ การลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทนยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับผลดีจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างโดยรวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนเพราะแม้ภาครัฐบาลมีการลงทุนต่อเนื่อง แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวหลังจากหมดมาตรการภาครัฐ
การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงบ้างเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ตามการใช้จ่ายในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สอดคล้องกับปัจจัยสนับสนุนการบริโภคโดยรวมที่ยังไม่เข้มแข็งนัก สะท้อนจากรายได้นอกภาคเกษตรกรรมที่ทรงตัว ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงบ้างจากเดือนก่อนที่ได้รับผลดีจากผลประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญและตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สองที่ดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวสูงถึงร้อยละ 18.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากฐานที่ต่ำจากเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ในเดือนสิงหาคม 2558 อย่างไรก็ตาม เมื่อขจัดผลของฤดูกาลแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงร้อยละ 2.1 จากเดือนก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นผลจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนตามราคาน้ำมันในประเทศ มาอยูที่ 0.38% จากเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 0.29% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ 0.75% จากเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 0.79%
สำหรับ เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3/2559 ขยายตัวจากการใช้จ่ายของภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยภายในประเทศ และรายได้เกษตรกรที่ทยอยปรับดีขึ้นหลังผลของภัยแล้งคลี่คลาย นอกจากนี้ ภาคการส่งออกเริ่มมีทิศทางปรับดีขึ้น ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้แม้มีเหตุระเบิดและการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนจากการนำเข้าสินค้าทุนที่ยังคงต่ำกว่าในปีที่แล้ว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย