- Details
- Category: ธปท.
- Published: Saturday, 28 May 2016 17:04
- Hits: 4412
ผู้ว่าธปท. เล็งทบทวนเป้าหมายจีดีพี-ส่งออกปีนี้ ในการประชุมเดือน มิ.ย. ระบุจะพิจารณาข้อมูล ศก.รอบด้าน
ผู้ว่าการ ธปท.เล็งทบทวนเป้าหมายจีดีพี-ส่งออกปีนี้ ในการประชุมเดือน มิ.ย. ระบุจะพิจารณาข้อมูล ศก.รอบด้าน ห่วงตลาดเงิน-ตลาดทุนผันผวน หลังทิศทาง ดบ.สหรัฐไม่แน่นอน แต่มองค่าเงินบาทยังสอดคล้องกับเงินภูมิภาค ระบุส่งออก เม.ย.ติดลบไม่เหนือความคาดหมาย มองทั้งปีติดลบ 2% มั่นใจสภาพคล่องในระบบมีสูง รองรับเงินไหลออกและการฟื้นตัวของศก.ได้
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.ยอมรับว่า ในปีนี้ไทยยังต้องเผชิญกับความผันผวนที่จะมาจากตลาดเงินและตลาดทุนโลก เนื่องจากความแตกต่างของการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาเกิดความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนเกิดขึ้น นอกจากนี้ เรื่องของค่าเงิน ยังเป็นปัจจัยที่สำคัญ ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนสูง แม้ว่าตลาดจะมีการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้
“ในช่วงนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจจะมีความผันผวนเกิดขึ้น ทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน ทั้งจากการดำเนินนโยบายของประเทศอุตสาหกรรมหลัก เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้เฟดก็ยังชี้แจงว่าการปรับนโยบายใดนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจเป็นหลัก”นายวิรไท กล่าว
นายวิรไท กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนนั้น ผู้ประกอบการจะต้องบริหารความเสี่ยง และปิดความเสี่ยงจากค่าเงินที่จะมีความผันผวนและเคลื่อนไหวใน 2 ทิศทาง จากการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทในช่วงนี้ยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสกุลอื่นๆในภูมิภาค
ในส่วนของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยืนยันว่า ไม่ต้องกังวล เนื่องจากไทยมีการพึ่งพาเงินกู้ยืมจากต่างประเทศในระดับต่ำ ซึ่งแตกต่างจากหลายประเทศที่เกิดใหม่ ที่อาจจะอ่อนไหวค่อนข้างมากจากการเปลี่ยนแปลงของตลดาเงินและตลาดทุนโลก เพราะมีการพึ่งพาการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศค่อนข้างสูง ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรในไทยยังมีไม่มากนัก
“สภาพคล่องในประเทศก็สูง ไม่ต้องห่วงว่าถ้ามีเงินไหลออก จะทำให้ภาพคล่องการเงินในประเทศมีปัญหา เพราะเรื่องดังกล่าว เป็นสิ่งที่ธปท. ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่า ระดับของสภาพคล่องในระบบการเงินของเรามีเพียงพอที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย”นายวิรไท กล่าว
ด้านตัวเลขการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ในเดือนเมษายนที่ติดลบ 8% นั้น มองว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เนื่องจากเป็นสิ่งที่หน่วยงานเศรษฐกิจ รวมถึงธปท. คาดการณ์ว่าการส่งออกต้องเผชิญอุปสรรคหลายด้าน แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้ ธปท.ยังประเมินว่าการส่งออกจะติดลบที่ 2% ส่วนจะมีการปรับประมาณการหรือไม่นั้น จะต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจทั้งระบบอีกครั้ง
"ใประมาณการ ธปท.คิดว่า อาจจะอยู่ที่ติดลบ 2% เพราะฉะนั้นตัวเลขที่ออกมาไม่ได้สร้างความแปลกประหลาด ขณะเดียวกันเราต้องคำนึงว่า ไตรมาสแรกต่อเนื่องมาถึงเมษายน มีปัจจัยที่เป็นชั่วคราว เนื่องจากในเเดือนเมษายน มีวันหยุดยาวค่อนข้างมา ดังนั้น ออเดอร์มีการทำก่อนที่จะหยุดยาว อันที่สองมีการเปลี่ยนแปลง เรื่องของน้ำมัน ทั้งในเรื่องของราคา และการปิดโรงกลั่นที่สำคัญ ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์มีในเรื่องของการปรับโครงสร้างการผลิต ดังนั้นสิ่งที่อยากให้คำนึงคือ เรื่องโครงสร้างการผลิต และโครงสร้างการส่งออกของไทย ในระยะยาว มากกว่าที่จะให้น้ำหนักในการเรื่องตัวเลขเดือนเดียว"นายวิรไท กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย