ธปท.สั่งแบงก์พาณิชย์ ห้ามขายสินเชื่อพ่วงประกัน

    ธนาคารแห่งประเทศไทย กำชับธนาคารพาณิชย์ ห้ามบังคับขายสินเชื่อพ่วงประกัน ใช้ข้อความสื่อสารที่เข้าใจง่าย หากมีการซื้อขาย ลูกค้าต้องสามารถเลือกบริษัทประกันได้เอง

    นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวภายหลังร่วมหารือกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ถึงกรณีที่ได้รับการร้องเรียนการขายสินเชื่อพ่วงประกันของธนาคารพาณิชย์ว่า ได้กำชับธนาคารพาณิชย์ ห้ามบังคับขายสินเชื่อพ่วงประกัน โดยธนาคารพาณิชย์ต้องใช้ข้อความที่เข้าใจง่ายในการเสนอสินเชื่อและประกันกับลูกค้า และต้องดูแลลูกค้าหลังการซื้อประกัน ทั้งนี้ ลูกค้ามีสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเองในการเลือกบริษัทประกัน

      นอกจากนี้ ห้ามนำนำข้อมูลของลูกค้าที่ไม่ได้รับการยินยอมไปใช้ หรือให้บริษัทในเครือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านทางโทรศัพท์

อินโฟเควสท์

แบงก์ฐานะแกร่งแต่เอ็นพีแอลเพิ่ม

    ไทยโพสต์ * ธปท.ยันฐานะแบงก์ ยังแกร่ง แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่รับหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มเล็กน้อย

     นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ให้ธนาคารพาณิชย์ทำการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) เพื่อประเมินความสามารถของธนาคารพา ณิชย์ และความเพียงพอของฐานะการเงิน ซึ่งการทดสอบได้สมมติในกรณีเลวร้ายที่สุด คือ เศรษฐกิจแย่ ไม่ขยายตัว 1-2 ปี พบว่าธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในฐานะมั่นคง สามารถเป็นตัว กลางประคับประคองลูกค้าได้ และเงินกองทุนต่อสินทรัพย์สูงถึง 157% จากปกติที่ 100% สะท้อนว่าระบบธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่ง

     ส่วนสินเชื่อธนาคารพา ณิชย์ไตรมาส 1/2557 ขยายตัว 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขยายตัวลดลงจากสิ้นปี 2556 ที่เติบโต 11.34% โดยสินเชื่อรถยนต์เติบโตเพียง 2.5% จากที่ขยายตัวสูงสุด 38% สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัว 7% จาก 20% สินเชื่อรายย่อยเติบโต 10.7% จาก 12.09% และสินเชื่อเอสเอ็ม อีเติบโต 11.7% จาก 14.66% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนว่าแม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่สินเชื่อของธนาคารยังขยายตัวได้

     ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เริ่มขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2.3% ในไตรมาส 1/2557 จากสิ้นปี 2556 อยู่ที่ 2.15% ส่วนสินเชื่อผิดนัดชำระเกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.4% จากสิ้นปี 2556 อยู่ที่ 2.3% ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อาจทำให้ผู้บริโภคต้องยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปบ้าง แต่อาจจะไม่เป็นหนี้เอ็นพีแอล

    นางสาลินี กล่าวว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) อาจมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อ แม้ว่าบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะช่วยค้ำประกันเงินกู้ แต่มีการคิดค่าธรรมเนียมประกันสินเชื่อ 1.75% ของวงเงินสินเชื่อ ซึ่ง ธปท.กำลังหารือร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อให้ สสว.รับภาระค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้เอสเอ็มอี ซึ่งจะทำให้เอสเอ็มอีมีเงินทุนมากขึ้น.