WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOAดอน นาครทรรพแบงก์ชาติจับตาเอ็นพีแอลพุ่ง หลังพบไตรมาส3ปรับเพิ่มทุกตัว เน้นพิเศษกลุ่มคนรายได้ 5 หมื่น

     แบงก์ชาติเผยเอ็นพีแอลไตรมาส 3 พุ่งมาแตะที่ 2.78% ชี้เพิ่มทุกตัว ฉุดเงินสำรองแบงก์พาณิชย์ลดลงมาอยู่ที่ 154% จากก่อนหน้าอยู่ที่ 165% พร้อมจับตาพิเศษบัตรเครดิตกลุ่มคนมีตังค์เกิน 5 หมื่นบาท จ่อเป็นหนี้เสียเพิ่ม

     นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 ปี 2558 พบว่าคุณภาพของสินเชื่อด้อยลงทุกประเภท ส่งผลให้เอ็นพีแอลทั้งระบบปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.78% จากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 2.38% มียอดคงค้าง 3.6 แสนล้านบาท ส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (เอสเอ็ม) ปรับลดลงมียอดคงค้าง ประมาณ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากบางส่วนกลายไปเป็นเอ็นพีแอลแล้ว

    นายดอนกล่าวว่า เอ็นพีแอลสินเชื่ออุปโภคบริโภคในไตรมาส 3 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.76% จากไตรมาสก่อนที่ 2.65% ผลมาจากเอ็นพีแอลของบัตรเครดิตเป็นหลักคืออยู่ที่ 4.5% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 4.2% จากการวิเคราะห์ พบว่ากลุ่มที่มีรายได้สูงหรือรายได้มากกว่า 5 หมื่นบาทต่อเดือน เริ่มมีหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่แน่ใจสาเหตุ ซึ่งจะต้องวิเคราะห์และติดตามว่ามาจากลูกหนี้จงใจผิดนัดชำระหรือธนาคารมีความหละหลวมในการปล่อยสินเชื่อหรือไม่ ทั้งนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อส่วนบุคคลและรถยนต์ก็ด้อยคุณภาพลง ด้านสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ เอ็นพีแอลอยู่ที่ 1.98% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 1.19% ส่วนสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เอ็นพีแอลอยู่ที่ 3.61% จาก 3.44% โดย ธปท.จะติดตามดูกลุ่มนี้ใกล้ชิด เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวค่อนข้างมาก โดยได้ให้ ธพ.ได้เข้าไปดูและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ของลูกค้าเพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นเอ็นพีแอล

    "เอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นยังทำให้เงินสำรองของ ธพ.ลดลงมาอยู่ที่ 154% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 165% ลดลงต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2557 แต่ถือว่าเงินสำรองยังอยู่ในระดับสูง และสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงยังอยู่ในระดับสูงกว่า 17% ถือว่ายังแข็งแกร่ง ซึ่งการตั้งสำรองเพื่อรองรับเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อกำไรสุทธิของ ธพ.ลดลง แต่กำไรจากการดำเนินงานยังขยายตัวได้ดี" นายดอนกล่าว และว่า ส่วนแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยไตรมาส 3 สินเชื่อขยายตัวได้ 5.3% ซึ่งหากไตรมาสที่ 4 ธพ.สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากกว่า 3 แสนล้านบาท จะทำให้สินเชื่อทั้งปีขยายตัวได้ประมาณ 5%

      นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารยังมีความเข้มงวดในการอนุมัติบัตรเครดิตใหม่ โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายบัตรใหม่ 8 แสนใบ แต่คงจะทำได้จริงแค่ 7 แสนใบ ซึ่งอัตราการอนุมัติบัตรใหม่ลดลงมาอยู่ที่ 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 60% เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงกระทบต่อการผ่อนชำระหนี้ ทำให้ลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดโดยเฉพาะลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน

มติชนออนไลน์ : วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!