- Details
- Category: ธปท.
- Published: Thursday, 20 August 2015 07:10
- Hits: 3314
กนง. เผย คาดการณ์จีดีพีปี 58 ปรับลงเล็กน้อยจากครั้งก่อน-ปัจจัยด้านลบมีมากขึ้น
กนง.เผยแพร่รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ตัดสินใจคงดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี หลังมองภาวะการเงินโดยรวมยังคงอยู่ในระดับผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามประมาณการจีดีพีปี 58 ปรับลดลงเล็กน้อยจากการประชุมครั้งก่อน เพราะในระยะข้างหน้าปัจจัยด้านลบมีมากขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดต่าสุดและจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (ฉบับย่อ) ครั้งที่ 5/2558 วันที่ 5 สิงหาคม 2558 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยเห็นว่าภาวะการเงินโดยรวมยังคงอยู่ในระดับผ่อนคลาย สะท้อนจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอยู่ในทิศทางที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และต้นทุนการระดมทุนของภาคธุรกิจผ่านตลาดการเงินที่ปรับลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมา
ในระยะต่อไป คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จึงจะติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจการเงินของไทยอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 ฟื้นตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน แต่ในระยะข้างหน้าปัจจัยด้านลบมีมากขึ้น ทาให้ในภาพรวมประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ของทั้งปี 2558 ปรับลดลงเล็กน้อยจากการประชุมครั้งก่อน แรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจยังคงมาจากภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว
ด้าน เศรษฐกิจโลก คณะกรรมการมองว่า ฟื้นตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจจีนและเอเชียเป็นสาคัญ และในระยะข้างหน้าความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้นสามารถส่งผลถึงเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคการส่งออก โดยเศรษฐกิจจีนชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้การส่งออกสินค้าของเศรษฐกิจเอเชียอื่นๆ (ไม่รวมญี่ปุ่น) ชะลอลงต่อเนื่องและส่งผลกระทบเพิ่มเติมไปยังการใช้จ่ายภายในประเทศที่ค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้ว
เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีสัญญาณการฟื้นตัวที่เข้มแข็งขึ้นโดยเฉพาะในตลาดแรงงาน ทาให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) อาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในสิ้นปีนี้, เศรษฐกิจกลุ่มยูโรทยอยฟื้นตัว โดยความเสี่ยงจากการผิดนัดชาระหนี้ของรัฐบาลกรีซปรับลดลงในระยะสั้นและไม่ได้มีนัยสาคัญต่อเศรษฐกิจไทย, เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวต่อเนื่องโดยได้รับแรงสนับสนุนจากผลการปรับขึ้นค่าจ้างประจาปี
ด้านความผันผวนของเงินบาทปรับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะตลาดการเงินโลกมีความ ผันผวนเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ช่วงเวลาที่ FOMC จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและความเสี่ยงของการผิดนัดชาระหนี้ของรัฐบาลกรีซในช่วงก่อนที่ผลการเจรจาเพื่อกาหนดมาตรการช่วยเหลือจะมีความชัดเจน มากขึ้น ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างเร็วในบางช่วงจากปัจจัยในประเทศ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องตามราคาพลังงานเป็นหลัก แต่ได้ผ่านจุดต่าสุดและจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีจากผลของฐานราคาน้ามันสูงที่จะทยอยหมดไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย