- Details
- Category: ธปท.
- Published: Tuesday, 11 August 2015 21:47
- Hits: 5243
ธปท.มองจีนลดค่าเงินหยวน หนุน ศก.จีนฟื้น เป็นผลดีต่อการค้าขายในภูมิภาคแนะผู้ประกอบการเกาะติดตลาดเงินโลก
ธปท.มองจีนลดค่าเงินหยวน หนุน ศก.จีนฟื้น เป็นผลดีต่อการค้าขายในภูมิภาค และเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางการเงินของจีน ด้วยการปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แนะผู้ประกอบการเกาะติดสถานการณ์ตลาดการเงินโลก-ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อลดทอนผลกระทบด้านลบ ส่วนเงินบาทอ่อนค่าลง 0.35%
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.58 ) ธนาคารกลางจีนประกาศอัตรากลางของค่าเงินหยวนประจำวัน (Daily Fixing) ที่ระดับ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์ สรอ. ซึ่งอ่อนค่าลงจากวันก่อนที่ 6.1162 หยวนต่อดอลลาร์ สรอ. ประมาณ 1.9% เป็นการประกาศอัตรากลางที่อ่อนลงจากผลของการเปลี่ยนวิธีการกำหนดค่ากลางใหม่ให้สอดคล้องกับกลไกตลาดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางการเงินของจีนที่จะค่อยๆ ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
หลังการประกาศดังกล่าว เงินหยวน (CNY spot rate) อ่อนค่าลง โดยเช้านี้เงินหยวนอ่อนค่าลง 1.7% จากอัตราปิดวานนี้ ส่งผลให้เงินสกุลภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าตามไปด้วย โดยในช่วงเช้าเงิน KRW และเงิน SGD อ่อนค่าลงประมาณ 1.0% และ 0.7% ตามลำดับ สำหรับ เงินบาทอ่อนค่าลงประมาณ 0.35% เนื่องจากตลาดมองว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียเหล่านี้มีความเชื่อมโยงทางการค้ากับจีนค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ประเทศคู่ค้าสำคัญกับจีนอื่นๆ เช่นออสเตรเลีย ค่าเงิน AUD ก็อ่อนค่าลง 0.4% ด้วยเช่นกัน
สำหรับ ผลกระทบของค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง แม้จะมีผลกระทบต่อ sentiment ของตลาดในระยะสั้น แต่คงต้องประเมินผลในระยะยาวด้วยว่า ค่าเงินหยวนที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นน่าจะเป็นผลดีต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน อีกทั้ง การอ่อนค่าของเงินหยวนน่าจะมีผลบวกที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจจีนได้มากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการค้าภายในภูมิภาคด้วย ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างไทยและจีนมีสัดส่วนสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 14.8% ของมูลค่าการค้ารวม และสัดส่วนการใช้เงินหยวนเพื่อการชำระค่าสินค้าและบริการประมาณเกือบ 1% ของมูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน
อย่างไรก็ดี ตลาดการเงินโลกที่อาจเผชิญกับความผันผวนที่สูงขึ้นได้ในช่วงนี้ ผู้ประกอบการจึงควรติดตามสถานการณ์และใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อลดทอนผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้ โดย ธปท. จะติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินและผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย