- Details
- Category: ธปท.
- Published: Tuesday, 17 June 2014 22:22
- Hits: 4409
BBL คาด กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ในการประชุมวันพรุ่งนี้
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) BBL เปิดเผยว่า คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2% ต่อปีตามเดิมไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยมองว่าจากปัญหาสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มคลายแรงกดดัน และความเสี่ยงของเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ก็มีการปรับลดลงไป ซึ่งต่อจากนี้ไปเรื่องที่สำคัญคือ การดำเนินมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่องและจะสามารถผลักดันได้มากน้อยเพียงใด แต่ทั้งนี้มองว่าหากในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้นอาจจะส่งผลให้ในช่วงปลายปีนี้ กนง. อาจจะมีการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยก็เป็นได้ ซึ่งจะสอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังจากที่มาตรการ QE จบลง และมองว่าในปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
นอกจากนี้ การประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 2-3% โดยในไตรมาส 1 จีดีพีติดลบ 0.6% และในไตรมาส 2 ขยายตัวกลับมาเติบโตได้ 0-1% และในไตรมาส 3 คาดว่าจะอยู่ที่ 3-4% และในไตรมาส 4 คาดว่าจะอยู่ที่ 5-6% ซึ่งจะมาจากการฟื้นตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบกับปัจจัยต่างๆ ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การส่งออกในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 4% ก็ยังไม่น่ากังวล เพราะมีแรงขับเคลื่อนในประเทศเป็นแรงสำคัญแทน
ส่วนกรณีปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ได้เดินกลับประเทศตนเอง เนื่องจากมีการตื่นตระหนกกับข่าวลือต่างๆ ว่าจะมีการกวาดล้างแรงงานต่างด้าว ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงปัญหาระยะสั้นและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีการชี้แจงแล้ววานนี้ว่าเป็นเพียงข่าวลือ และได้พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมา ซึ่งมองว่าระยะข้างหน้าสภาวะต่างๆ จะกลับสู่ปกติ เพราะต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมในประเทศไทยยังต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้ มองว่าการส่งเสริมการค้าในกลุ่ม CLMV คือประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม มีความสำคัญ เพราะหากนับรวมประชากรกลุ่มประเทศเหล่านี้จะมีมากกว่า 250 ล้านคน ซึ่งจะเท่ากับประชากรประเทศอินโดนีเซีย และการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้มีการเติบโตถึง 12% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่เติบโต 0.6-0.7% ดังนั้นเชื่อว่าประเทศต่าง ๆใน CLMV จะเชื่อมโยงกันได้ ก็จะเพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น และสิ่งสำคัญมองว่าที่ผ่านมาสินค้าไทยถือเป็นที่ต้องการเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มประเทศเหล่านี้ หากประเทศไทยเพิ่มน้ำหนักส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้ ก็จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย