- Details
- Category: ธปท.
- Published: Tuesday, 03 March 2015 00:23
- Hits: 2492
‘แบงก์ชาติ’รับเศรษฐกิจฟื้นช้า โยน‘กนง.’ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ
แนวหน้า : ธปท. เล็งทบทวนตัวเลข ศก.ปี’58 หลังเศรษฐกิจม.ค. 2558 ฟื้นตัวช้า ชี้เหตุภาคครัวเรือนชะลอการใช้จ่าย ขณะที่ภาคธุรกิจรอความชัดเจนลงทุนรัฐ ส่วนส่งออกยังติดลบ ร้อยละ 2.6
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะนำข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดเพื่อพิจารณาปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี โดยปัจจุบันคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 4.1 รวมทั้งพิจารณาตัวเลขการส่งออกทั้งปี 2558 แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นตัวเลขใด ซึ่งคงต้องรอติดตามการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มี.ค. 2558
สำหรับ ภาวะเศรษฐกิจในเดือนม.ค. 2558 เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน เพราะครัวเรือนยังระมัดระวังการใช้จ่าย และธุรกิจยังรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ
โดยแรงกระตุ้นจากการใช้จ่ายภาครัฐมีน้อยลงหลังจากที่เร่งเบิกจ่ายในเดือนก่อนๆ และการส่งออกสินค้าลดลงตามอุปสงค์จากจีนและอาเซียนที่ชะลอตัว รวมทั้งราคาสินค้าส่งออกหลายหมวดปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันโลกที่ต่ำลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากครัวเรือนยังระมัดระวังในการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อของครัวเรือนเกษตรกรถูกบั่นทอนจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ โดยเฉพาะราคายางพารา และรายได้ของครัวเรือนนอกภาคเกษตรยังทรงตัว ประกอบกับภาระหนี้อยู่ในระดับสูง โดยรวมแล้วราคาน้ำมันที่ลดลงยังไม่ส่งผลดีอย่างชัดเจนต่อการบริโภค
ขณะที่การส่งออกสินค้า เดือน ม.ค. 2558 มีมูลค่า 17,163 ล้านดอลลาร์ ติดลบ ร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากราคาสินค้าส่งออกที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ อุปสงค์จากกลุ่มประเทศเอเชีย โดยเฉพาะจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงกลุ่มประเทศยุโรปที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ตามสิทธิประโยชน์จากภาษี หรือ GSP ในทุกสินค้าที่ส่งออกไปทุกกลุ่มประเทศยุโรปที่เริ่มมีผลในเดือนนี้ ทั้งนี้มีเพียงการส่งออกไปตลาดสหรัฐ และ CLMV ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
ด้านการนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 15,771 ล้านดอลลาร์ ติดลบ ร้อยละ 14.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบที่หดตัวตามราคาในตลาดโลกที่ลดลง ขณะที่สินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ส่งผลดุลการค้า ม.ค. 2558 เกินดุล 1,392 ล้านดอลลาร์ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2,506 ล้านดอลลาร์
และในเดือน ม.ค.อัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัว ร้อยละ 0.41 ตามราคาพลังงานเป็นสำคัญ โดยราคาพลังงานหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนจากราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ปรับลดลงตามราคาในตลาดโลกและค่าไฟฟ้าผันแปร หรือเอฟที ในรอบเดือน ม.ค.-เม.ย. 2558 ที่ปรับลดลง 10 สตางค์ต่อหน่วย ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
สำหรับราคาอาหารสดชะลอลงตามราคาเนื้อสัตว์ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากธปท. เผยดุลบัญชีเดินสะพัด ม.ค. 2558 เกินดุล 2.50 พันล้านดอลล์
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในเดือน ม.ค.จะฟื้นตัวล่าช้า ธปท.จะใช้นโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่นั้น มองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง. จะใช้ข้อมูลทุกข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงินในครั้งต่อไป ซึ่งจะมีการแถลงตัวเลขในวันที่ 11 มี.ค.นี้
“ในเดือน ม.ค. 2558 มีเงินไหลออกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ 1,894 ล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุจากการเพิ่มเงินฝากในต่างประเทศ และชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นของสถาบันการเงินเพื่อปรับฐานะเงินตราต่างประเทศ สอดคล้องกับความต้องการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ส่งออกไทยที่ลดลง” างรุ่งกล่าว
ธปท.จ่อทบทวนเป้าส่งออก มึน!บริโภคเอกชนฟื้นช้า'ขายข้าว'ม.ค.ติดลบ 12%
ไทยโพสต์ : บางขุนพรหม * ธปท.จ่อทบทวนตัวเลขส่งออก-จีดีพี-เงินเฟ้อใหม่อีกรอบ หลังภาพรวมยังแผ่ว สะอึกบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวช้ากว่าคาด วัดใจ กนง.ถกนัดหน้า งัดนโยบายการเงินอุ้ม ศก. ลุ้นภาครัฐเร่งเดินเครื่องลงทุน ด้านสถิติส่งออกข้าว ม.ค.หดตัว 12%
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูล และทบทวนตัวเลขส่งออกปี 2558 ใหม่ หลังจากเดือน ม.ค.2558 การส่งออกมีมูลค่า 1.71 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ติด ลบ 2.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
เนื่องจากราคาสินค้าส่งออกที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ และอุปสงค์จากกลุ่มประเทศเอเชีย โดยเฉพาะจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงยุโรปที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการถูกตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี (GSP) ไปยังยุโรป โดยปี 2558 ธปท.คาดการณ์ว่าตัวเลขส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 1%
"ตัวเลขการส่งออกของไทยในขณะนี้ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ต้องมีการติดตามและทบทวนตัวเลขในส่วนนี้ใหม่ เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามา กระทบอย่างมาก โดยการทบ ทวนตัวเลขดังกล่าวจะออกมาพร้อมๆ กับตัวเลขเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อ" นางรุ่งกล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไป จะมีการหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะดำเนินนโยบายทางการเงินในระยะต่อไปอย่างไร ภายหลังจากตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ โดยติดลบที่ 1.5% เนื่องจากครัวเรือนระมัด ระวังในการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อของครัวเรือนเกษตรกรถูกบั่นทอนจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ โดยเฉพาะราคายางพารา รวมถึงภาระหนี้อยู่ในระดับสูง ซึ่งโดยรวมแล้วราคาน้ำมันที่ลดลงยังไม่ส่งผลดีอย่างชัดเจนต่อการบริโภค
นางรุ่งกล่าวว่า ในเดือน ม.ค.2558 การฟื้นตัวของเศรษฐ กิจยังเป็นไปอย่างช้าๆ โดยภาค การท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อน ที่สำคัญของเศรษฐกิจ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 2.6 ล้านคน ขยายตัวเป็นเดือนที่ 4 ที่ระดับ 15.9% ขณะที่การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวต่อเนื่อง ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนติดลบ 0.2% ส่วนการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีบทบาทช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยลง แต่ ธปท.ยังเชื่อมั่นว่าหากภาครัฐเร่งเรื่องการลงทุน จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้
ด้านสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานว่าการส่งออกข้าวในเดือน ม.ค.2558 มีปริมาณ 608,506 ตัน มูลค่า 10,888 ล้าน บาท โดยปริมาณลดลง 12.6% และมูลค่าลดลง 12.0% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีการส่งออก 696,558 ตัน มูลค่า 12,372 ล้านบาท
สำหรับ สถานการณ์ราคาส่งออกข้าวในช่วงต้นเดือน ก.พ.2558 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากปลายเดือน ม.ค. เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ก่อนจะปรับตัวลดลงในช่วงปลายเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดที่ในช่วงนี้คำสั่งซื้อจากต่างประ เทศยังมีไม่มาก โดยคาดว่าเดือน ก.พ.จะส่งออกประมาณ 700,000 ตัน.