- Details
- Category: ธปท.
- Published: Wednesday, 04 February 2015 23:13
- Hits: 2394
ผู้ว่าแบงก์ชาติ ร่อนจดหมายถึงรมว.คลัง แจงกรณีเงินเฟ้อม.ค.58ติดลบ ชี้เหตุเพราะราคาน้ำมันลดลง มั่นใจเป็นบวกได้ตั้งแต่ Q3/58
เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยwww.bot.or.thเผยแพร่เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกเรื่องชี้แจงการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคม2558ที่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน โดยจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวลงนามโดยนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกระบุดังนี้
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันที่25ธันวาคม2557ว่าในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปรายปีในปี2558เคลื่อนไหวออกนอกเป้าหมายที่ร้อยละ2.5บวก/ลบ1.5ให้กนง.ชี้แจงสาเหตุ แนวทางการดำเนินการและระยะเวลาที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในระยะข้างหน้านั้น
ในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันขายปลีกปรับลดลงต่อเนื่องและเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบในเดือนมกราคม2558แม้ยังไม่ถือว่าออกนอกกรอบเป้าหมายซึ่งกำหนดให้เป็นค่าเฉลี่ยรายปีแต่กนง.มีความเห็นว่าควรจะสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนและชี้แจงต่อกระทรวงการคลังเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของการรักษากรอบการดำเนินนโยบายการเงินแลเพื่อช่วยยึดเหนี่ยวการคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชน กระผมในฐานประธานกนง.จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้สาเหตุที่เงินเฟ้อต่ำกว่าขอบล่างของเป้าหมายและความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด
นับตั้งแต่ไตรมาสที่4ของปี2557ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากอุปทานในตลาดโลกเพิ่มขึ้นมากจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการจุดเจาะน้ำมันโดยเฉพาะน้ำมันจากชั้นหินดินาน(Shale oil)และท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่จะไม่ลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันในขณะที่อุปสงค์ในตลาดโลกยังขยายตัวช้าตามการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลก การลดลงของราคาน้ำมันดิบทำให้ราคาน้ำมันในประเทศและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงต่อเนื่องเช่นกัน
ล่าสุดในเดือนมกราคม2558อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบร้อยละ0.41และจากการประเมินของกนง.ในการประชุมเมื่อวันที่28มกราคม2558คาดว่ามีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่2ของปี2558หากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ดีกนง.เห็นว่าเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบในครั้งนี้ไม่ได้เป็นสัญญาณของภาวะเงินฝืดไม่กระทบเสถียรภาพทางการเงินและจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเนื่องจาก
1.การปรับลดลงของราคาไม่ได้เกิดขึ้นในทุกประเภทสินค้าและบริการโดยราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันนอกเหนือจากราคาพลังงานยังคงมีทิศทางเพิ่มขึ้นตามปกติสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เป็นบวกทั้งในปัจจุบันและแนวโน้มในระยะข้างหน้าซึ่งสอดคลองกับผลการประเมินของกนง.ว่าอุปสงค์ในประเทศจะขยายตัวได้ต่อเนื่องในปี2558และ2559
2.การลดลงของราคาน้ำมันเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเพราะประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิทำให้ต้นทุนการผลิตและการขนส่งลดลงรวมทั้งผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายลดลงซึ่งจะสนับสนุนให้การฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศเข้มแข็งมากขึ้น
3.อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเป้าหมายเงินเฟ้อโดยจากการสำรวจอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ของผู้เชี่ยวขาญด้านเศรษฐกิจหลายสำนักที่รวบรวมโดยConsensus Economics ณเดือนมกราคคม2558ชี้ว่าแม้อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับลดลงแต่ในระยะ6ไตรมาสข้างหน้ายังอยู่ที่ร้อยละ2.5ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสาธารณชนมีความเข้าใจว่าสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวระยะเวลาที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย
กนง.ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาสที่3ของปี2558และเข้าสู่ขอบล่างของกรอบเป้าหมายตั้งแต่ไตรมาสที่4ของปี2558ตามคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะเพิ่มขึ้นจากการทยอยปรับลดลงของอุปทานน้ำมันในตลาดโลกตอบสนองต่อราคาน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจะทำให้อุปสงค์น้ำมันของโลกเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับปกติซึ่งจะทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อจากอุปสงค์ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
อย่างไรก็ดี การประเมินแนวโน้มข้างต้นอาจมีความเสี่ยงอยู่บ้างที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะต่ำกว่าประมาณการหากราคาน้ำมันในตลาดโลกต่ำกว่าที่คาดการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในประเทศทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกต่ำกว่าที่คาดและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยล่าช้าออกไป
ทั้งนี้ รายละเอียดการประมาณการอย่างเป็นทางการจะปรากฎในรายงานนโยบายการเงินเดือนมีนาคม2558แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของกนง.
การดำเนินนโยบายการเงินของกนง.ให้ความสำคัญกับการดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพและยั่งยืนไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพด้านราคาและการดูแลการคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชขนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ทั้งนี้ กนง.ตระหนักว่าโดยปกติผลของนโยบายการเงินต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อจะต้องใช้เวลาประมาณ4-6ไตรมาสกว่าจะมีผลเต็มที่ดังนั้นในการพิจารณานโยบายกนง.จะให้ความสำคัญกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะ1-2ปีข้างหน้ามากกว่าระดับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันรวมทั้งให้ความสำคัญกับแรงกดดันจากด้านอุปสงค์ต่อราคาสินค้าและบริการโดยรวมมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าเฉพาะบางกลุ่มอันเป็นผลจากปัจจัยด้านอุปทานซึ่งไม่ได้ขึ้นกับนโยบายการเงิน
ในกรณีปัจจุบันกนง.เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่จะต่ำกว่ากรองเป้าหมายไปอีกระยะหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลงเมื่อราคาน้ำมันกลับสูงขึ้นตามการปรับสมดุลของตลาดโลกซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี2558อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะโน้มสูงขึ้นและจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในไตรมาสที่4ที่สำคัญกนง.พิจารณาว่าการลดลงของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในครั้งนี้เป็นผลของปัจจัยด้านอุปทาน ซึ่งมีผลดีในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและมิได้สร้างความกังวลเช่นในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงเพราะภาวะอปสงค์ซบเซา สอดคล้องกับข้อเท็จจริงว่าในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลใดที่ชี้ให้เห็นว่าสาธารณชนคาดว่าราคาสานค้าและบริการโดยรวมจะลดลงต่อเนื่องจนทำให้ตัดสินใจเลื่อนการบริโภคการลงทุนออกไปนอกจากนั้นนโยบายการเงินที่อยู่ในระดับผ่อนปานในปัจจุบันจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องและมีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายภายในปลายปีนี้
อย่างไรก็ดี กนง.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมจะดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
อนึ่งเพื่อความโปร่งใสและเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับสาธารณชนเป็นการทั่วไปธปท.จะทำการเผยแพร่สาระของหนังสือชี้แจงฉบับนี้ต่อสาธารณชนผ่านทางwebsiteของธปท.
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย