WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS5ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร 'ธ.ธนชาต' ที่ 'AA-' หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ A’แนวโน้ม Stable

    ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'AA-'และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ A’โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเข้มแข็งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคาร อีกทั้งยังสะท้อนการสนับสนุนทางด้านการบริหารและด้านเทคนิคจากพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศแคนาดา คือ Bank of Nova Scotia (BNS) ซึ่งถือหุ้น 49% ในธนาคารธนชาตโดยผ่าน Scotia Netherlands Holdings B.V. ด้วย

      ในการวิเคราะห์สถานะทางธุรกิจของธนาคารธนชาตพิจารณาถึงสถานะการเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดกลาง ที่มีบริษัทย่อยที่สำคัญประกอบด้วยธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบริหารกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยค่า และธุรกิจประกันภัย ขนาดสินทรัพย์รวมของธนาคารธนชาตอยู่ที่ระดับ 9.6 แสนล้านบาท ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งจัดอยู่ในอันดับที่ 6 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากของธนาคารอยู่ที่ระดับ 5.9% และ 5.7% ตามลำดับ ธนาคารธนชาตมีความแข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของทริสเรทติ้ง ณ วันสิ้นปี 2559 ธนาคารธนชาติและบริษัทย่อยมีส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รวมอยู่ที่ระดับ 21% ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

      ความสามารถในการหาแหล่งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมีความหลากหลายอยู่ในระดับที่เทียบเคียงได้กับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 สัดส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อรายได้รวมอยู่ที่ระดับมากกว่า 66% เทียบกับค่าเฉลี่ยธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 62% ธุรกิจให้สินเชื่อมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อยโดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ณ วันสิ้นครึ่งแรกของปี 2560 ธนาคารมีสัดส่วนของสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ระดับประมาณ 68% สัดส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ประมาณ 20% และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประมาณ 11% สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีสัดส่วน 51% และ 14% ของสินเชื่อรวมตามลำดับ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิรวมรายได้สุทธิจากธุรกิจประกันภัยอยู่ที่ระดับ 18.9% ของรายได้รวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 21% ซึ่งรายได้ของธนาคารธนชาตรวมรายได้จากบริษัทย่อยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต

     ทริสเรทติ้ง คาดว่าอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนตามหลัก Basel-III ของธนาคารธนชาตจะอยู่ในระดับ 19%-20% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าซึ่งเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในระยะปานกลาง สัดส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Core Equity Tier-1) ต่อเงินกองทุนรวมอยู่ที่ระดับ 70.3% ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 และคาดว่าธนาคารจะคงสัดส่วนเงินปันผลที่ระดับเดิม ความสามารถในการทำกำไรเทียบเคียงได้กับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.33% ในปี 2559 เทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 1.32% ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้นทุนเครดิตที่ลดลง รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมาจากรายได้ธุรกิจที่มุ่งเน้นค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างมีความหลากหลายซึ่งประกอบด้วยธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบริหารกองทุน และธุรกิจประกัน

      สถานะด้านความเสี่ยงของธนาคารธนชาตสะท้อนถึงความต่อเนื่องในการปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงเห็นได้จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนเครดิตของธนาคารลดลงจากระดับ 1.5% ในปี 2556 สู่ระดับ 0.9% ในปี 2559 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยต้นทุนเครดิตของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.4% ในปี 2559 อัตราส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารธนชาตลดลงอย่างมากจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และการตัดหนี้สูญรวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา โดยอัตราส่วนลดลงจากระดับ 4.3% สู่ระดับ 2.3% ในช่วงระหว่างปี 2557 และครึ่งแรกของปี 2560 สัดส่วนสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษต่อสินเชื่อรวมก็ลดลงเช่นกันอยู่ที่ระดับ 4.0% จากระดับ 4.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน การตั้งสำรองหนี้สูญอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งขึ้นซึ่งสะท้อนจากสำรองส่วนเกินของธนาคารที่ระดับ 195% ณ ครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

      แหล่งเงินทุนของธนาคารธนชาตอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามสถานะของธนาคารขนาดกลาง เงินฝากของธนาคารมีสัดส่วน 71.7% ของเงินทุนรวมส่วนของผู้ถือหุ้น ณ ครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ 74% อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาเงินฝากประจำที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงอาจสะท้อนถึงฐานเงินฝากที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย บัญชีเดินสะพัดและเงินฝากออมทรัพย์ (Current Account-Savings Account – CASA) ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงฐานเงินทุนที่มีเสถียรภาพและต้นทุนต่ำ มีสัดส่วน 43.5% ของเงินฝากรวมตั๋วแลกเงิน อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 61% อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ระดับ 104% ณ ครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งเทียบเคียงได้กับค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 99%

       สถานะสภาพคล่องของธนาคารธนชาตเทียบเคียงได้กับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทย อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์รวมและเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินอยู่ที่ระดับ 25.2% และ 36.4% ตามลำดับ ณ ครึ่งแรกของปี 2560 เทียบเคียงได้กับธนาคารพาณิชย์ไทย กว่าหนึ่งในสี่ของสินทรัพย์สภาพคล่องเป็นเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้ภาคเอกชน

     อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III

     อันดับเครดิต 'A'สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารธนชาตสะท้อนความเสี่ยงจากการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่จ่ายหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารหนี้ดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2

    หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK24DA) มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และสามารถแปลงสภาพได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถไถ่ถอนตราสารหนี้คืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ทั้งนี้ ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ส่วนต้นทุนของตราสารหนี้ดังกล่าวนั้นสามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และหน่วยงานกำกับดูแลจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

     หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK25NA) มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถไถ่ถอนตราสารหนี้คืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. โดยผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ ต้นทุนของตราสารดังกล่าวสามารถตัดเป็นหนี้สูญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และหน่วยงานกำกับดูแลจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

 

แนวโน้มอันดับเครดิต

     แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารธนชาตจะสามารถดำรงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักไว้ได้ สถานะเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากคุณภาพสินทรัพย์เสื่อมถอยลงหรือความสามารถในการทำกำไรของธนาคารธนชาตอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ สถานะเครดิตอาจปรับขึ้นได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของธนาคารธนชาตในการยกระดับสถานะทางธุรกิจจากการขยายขนาดของฐานลูกค้า การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางเครดิต และการเพิ่มความสามารถด้านแหล่งเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ

 

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)

อันดับเครดิตองค์กร               AA-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

TBANK24DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 13,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567             A

TBANK25NA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568                A

แนวโน้มอันดับเครดิต:     Stable

 

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

       ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

       บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

       ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!