สคร.ตีกลับโบนัสเอสเอ็มอีแบงก์-ไอแบงก์ อ้างต้องผ่านความเห็นบอร์ดใหม่
แนวหน้า : นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่าได้ส่งเรื่องการขอจ่ายผลตอบแทนหรือโบนัสของพนักงานและผู้บริหารของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) กลับไปให้คณะกรรมการชุดใหม่ของทั้ง 2 ธนาคารพิจารณา จากนั้นจึงเสนอกลับมาที่กระทรวงการคลังอีกครั้งว่ามีความเห็นชอบการดำเนินการอย่างไร
การส่งกลับไปครั้งนี้เนื่องจากทั้ง 2 ธนาคารมีคณะกรรมการชุดใหม่ เพราะที่ส่งมาก่อนหน้านี้นั้นเป็นความเห็นชอบของคณะกรรมการชุดเก่า ขณะเดียวกันคณะกรรมการทั้ง 2 แห่งอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการธนาคาร และตรวจสอบวิเคราะห์สถานะองค์กรและประเมินทรัพย์สินและหนี้สินรวมไปถึงข้อพิพาทขององค์กร หรือดิวดิลิเจ้นท์ เพื่อส่งกลับมาให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ด พิจารณาอีกครั้ง ภายใน 3 เดือน
“ส่วนของการควบรวมเอสเอ็มอีแบงก์กับธนาคารออมสิน ยังไม่ตัดสินใจจนกว่าผลการตรวจสอบฐานะที่แท้จริงที่คณะกรรมการชุดใหม่ ดำเนินการอยู่จะออกมาในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเห็นภาพชัดว่าธนาคารจะอยู่ไหวหรือไม่ไหว” นายกุลิศ กล่าว
ส่วนการตัดสิทธิประโยชน์ของกรรมการรัฐ วิสาหกิจนั้นสคร. ได้ออกหนังสือเวียน โดยระบุคำสั่งของ ประธาน คนร. ไปถึงกรรมการรัฐวิสาหกิจทุกแห่งแล้วว่าให้ยึดตามมติของคณะกรรมการธนาคารออมสิน ที่ตัดค่าเลี้ยงรับรองของคณะกรรมการทั้งหมด ให้เหลือไว้แค่เงินประจำตำแหน่ง และเบี้ยประชุม โบนัส เท่านั้น ส่วนค่าเดินทางให้เบิกได้ตามจริงในกรณีที่ไปภารกิจในหน้าที่เท่านั้น
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง กล่าวว่าการจ่ายโบนัสของเอสเอ็มอีแบงก์ และไอแบงก์ ต้องรอผลการตรวจสอบฐานะของทั้ง 2 แห่ง ให้เรียบร้อยก่อน หากผลการตรวจสอบ พบว่ามีหนี้เสียเพิ่มขึ้นจำนวนมากทำให้ธนาคารต้องสำรองหนี้เสียเพิ่ม จนทำให้ผลการดำเนินงานที่แท้จริงของปีที่ผ่านมาขาดทุน ต้องขอเงินเพิ่มทุนจากกระทรวงการคลัง ก็จะทำให้ไม่สามารถอนุมัติการจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานและผู้บริหารของทั้ง 2 แห่งได้
“อย่างไรก็ตามถึงแม้ผลการตรวจฐานะออกมาว่าธนาคารยังมีกำไร ก็คงไม่สามารถจ่ายโบนัสตามที่เสนอมาก่อนหน้านี้ได้เพราะสูงเกินไป โดยเอสเอ็มอีแบงก์ขอจ่ายโบนัส 4 เดือน เป็นเงิน 300 กว่าล้านบาท ไอแบงก์ขอจ่ายโบนัส 2-3 เดือน เป็นเงิน 200 กว่าล้านบาท” แหล่งข่าว กล่าว
ขณะที่รัฐวิสาหกิจอื่นอย่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ที่มีนายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นประธานคณะกรรมการเอ็กซิมแบงก์ชุดใหม่ ได้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อวาระนายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ อีกเป็นระยะเวลา 4 ปี ตามที่คณะกรรมการชุดเก่ามีมติไว้ก่อนหน้านี้
|