WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaAERP

SME Development Bank ปักหมุด'ภูเก็ต'จังหวัดที่สองสานต่อยกระดับผู้ประกอบการภูมิภาคมุ่งสู่มาตรฐานเทคโนโลยียุค 4.0

     SME Development Bank เติมแกร่งผู้ประกอบการภูมิภาคก้าวทันโลกเศรษฐกิจยุค 4.0 เดินหน้าจัดมหกรรมเพิ่มศักยภาพครบวงจร ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดภูเก็ต ติดปีกเอสเอ็มอีในท้องที่และใกล้เคียง ยกระดับด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยีพร้อมเสิร์ฟความรู้ควบคู่อุ้มถึงแหล่งทุน

    นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) กล่าวว่า ในวันนี้ (9 ต.ค.2560) ธนาคารฯ จัดงาน “เติมเงินทุน SMEs มุ่งสู่มาตรฐานเทคโนโลยี 4.0”ที่ จ.ภูเก็ต  ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 2หลังจากจัดครั้งแรกที่ จ.อุบลราชธานีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการภูมิภาค  สร้างโอกาสทางการตลาด  ปรับตัวทางธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล 4.0 ด้วยเทคโนโลยี ERP บนระบบ Cloud Internet ก้าวไปสู่อุตสาหกรรม Thailand 4.0 ผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น มอบความรู้เรื่องระบบ "ERP on Cloud" พร้อมบริการโปรแกรมบัญชีฟรี บนสมาร์ทโฟน ช่วยบริหารบัญชีได้จากทุกมุมโลก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ธพว. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET และบริษัท อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ IEC ช่วยผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมาตรฐานบัญชีใหม่ สนับสนุนยื่นกู้จากสถาบันการเงินตามเกณฑ์รายได้ เริ่มใช้วันที่ 1 ต.ค. 2561

     พร้อมกันนี้ SME Development Bank ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Central Lab Thai (แล็บประชารัฐ) และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด  (เครดิตบูโร) จัดกิจกรรมเสริมศักยภาพครบวงจร เช่น อบรมความรู้หัวข้อ "แล็บประชารัฐ สร้างมาตรฐานสินค้า SMEs ไทย" และ "เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจด้วยการเตรียมความพร้อมก้าวสู่ยุคดิจิทัล" เป็นต้น นอกจากนี้  ยังเปิดจุดบริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการค้ำประกันสินเชื่อจากบสย.บริการตรวจเครดิตบูโร ฟรี  และแนะนำการใช้คูปองสำหรับตรวจสอบมาตรฐานสินค้าจาก Central Lab Thai เป็นต้น

     อีกทั้ง ส่งเสริมการตลาด เชิญชวนผู้ประกอบการนำสินค้ามาจัดแสดง เพื่อเปิดโอกาสเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศ เช่น ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในเดือนธันวาคม 2560 นี้  ธนาคารฯ รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพ เป็นต้น และงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ  เช่น กลุ่ม CLMV และประเทศจีน เป็นต้น

     นายมงคล กล่าวต่อว่า ภายในงาน ธนาคารฯ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไว้บริการ ได้แก่ 1. สินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชนและธุรกิจแฟรนไชส์ วงเงิน 7,500 ล้านบาท บุคคลธรรมดา กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท นิติบุคคล กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ยืมนาน 7 ปี ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR -1.5 ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR -1.0 ต่อปี (กรณีใช้หลักประกันตามเกณฑ์ของธนาคาร) สำหรับค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของ บสย. ฟรีถึง 4 ปี

     2. สินเชื่อฟื้นฟู SMEs จากอุทกภัยและภัยพิบัติ ปี 2560 วงเงิน 5,000 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุดต่อรายที่ 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมตลอดโครงการไม่เกิน 7 ปี ปีที่ 1-3 คิดอัตราดอกเบี้ยที่ 3% และปีที่ 4-7 เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้ เพื่อเป็นทุนฟื้นฟูกิจการแก่เอสเอ็มอี  จ.ภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

    3. กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 3 ปีแรกและไม่ต้องมีหลักประกัน เพื่อส่งเสริมธุรกิจในกลุ่มยุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัด 4. สินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับขยาย ปรับปรุงกิจการ ระยะเวลากู้ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ 3% ปีที่ 4-7 คิดดอกเบี้ย MLR ต่อปี วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 15 ล้านบาท กรณีกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้ กรณีวงเงินกู้เกิน 5 ล้านบาท สามารถใช้หลักประกันตามเกณฑ์ปกติของธนาคารเฉพาะประเภทที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและ 5. สินเชื่อ SMEs Factoring “ทั่วไทยเบิกจ่ายได้ภายในวันเดียว” ช่วยเครดิตการค้าไม่สะดุด ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ยกเว้นค่าธรรมเนียม

     นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ มีศักยภาพสูงจากการท่องเที่ยวจนได้ชื่อเป็น “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ขณะเดียวกันยังเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมโดดเด่นเป็นของตนเอง ดึงดูดชาวต่างชาติทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยว การจัดงานครั้งนี้ จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการภูมิภาค ช่วยยกระดับมาตรฐานแรงงานและพัฒนาเทคโนโลยีสู่ระดับสากล ช่วยสร้างโอกาส และกระจายรายได้ลดความเหลื่อมล้ำสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างเศรษฐกิจภายในเข้มแข็ง (Local Economy) ในยุคที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ เน้นภาคบริการที่จะทำให้มูลค่าสินค้าสูงขึ้นตามนโยบาย Thailand 4.0

    "โครงการนี้นับได้ว่า ตอบสนองแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ของประเทศไทย โดยท่านนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “รัฐบาลมีแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 โดยมุ่งเน้นการใช้แนวทางพลังประชารัฐ คือ การมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ชุมชน จังหวัด สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยต่างๆ” ซึ่งงานวันนี้ทำให้ประจักษ์แล้วว่า เราได้ร่วมกันทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนประเทศร่วมกันไปสู่ Thailand 4.0"นายนรภัทร กล่าว

      ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : นางอุบลรัตน์ ค่าแพง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาด ลูกค้าสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม

                         โทร.085-980-7861, 0-265-4574-5

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!