WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TMB บญทกษ หวงเจรญTMB โชว์งบ Q2/60 มีกำไร 2.3 พันลบ.เพิ่มขึ้น 8.3% จาก Q2/59 ส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.56%

     ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/60 ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิหลังจากสำรองหนี้ อยู่ที่ 2,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 จากไตรมาส 1/60 และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิรอบ 6 เดือนอยู่ที่ 4,426 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้ อยละ 4.3จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

 ในไตรมาส 2/60 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นจำนวน 6,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.6 จากไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 0.4 จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้รอบ 6 เดือนปี 60 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นจำนวน 12,357 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดี

 สำหรับ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้ อยละ 20.8 จากไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 39

 สำหรับ ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM)อยู่ที่ร้อยละ 3.20 ค่อนข้างคงที่เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามสำหรับรอบ 6 เดือนปี 60 NIM ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13bps มาอยู่ที่ร้อยละ 3.19 จากร้อยละ 3.06 ในรอบ 6 เดือนปี 59 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนทางการเงินที่ได้รับการบริหารอย่างดี รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเงินฝากและงบดุลให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

  เงินให้สินเชื่อยังคงเติบโตจากไตรมาสแรก โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย.60 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ (หักรายได้รอตัดบัญชี) ตามงบการเงินรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 616,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้ อยละ 3.0 และร้ อยละ 3.9 จาก ณ สิ้นเดือนธ.ค.59

  ในไตรมาส 2/60 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 603 ล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือน ธ.ค 59 มาอยู่ที่ 18,208 ล้านบาท ทำให้ NPL ratio เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 2.53 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.56 ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ (Prudence) และตั้งสำรองฯอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 2,282 ล้านบาท ในไตรมาส 2/60 และ4,523 ล้านบาท สำหรับรอบ 6 เดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 และร้อยละ 16.7 ตามลำดับ

  ส่วนอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio)ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ร้อยละ 140 ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 60

  ธนาคารยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียม พร้อมกับขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวังควบคู่ไปกับการพิจารณา Risk-adjusted return ทั้งนี้ การดูแลคุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญ โดยธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะรักษาอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพในระดับสูงที่ร้อยละ140-150

  นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ สินเชื่อเติบโตได้ 3.9% แม้สินเชื่อธุรกิจ SME ยังหดตัวอยู่ โดยการขยายตัวมาจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวสินเชื่อมากขึ้น ด้านเงินฝากขยายตัว 2.4% จากไตรมาสที่แล้ว ทำให้ยอดรวมเงินฝากใน 6 เดือนแรกทรงตัว อย่างไรก็ตามเงินฝากลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 3.6% จากเงินฝากธุรกรรมทางการเงิน (Transactional deposit) ที่ยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้ โดยเฉพาะเงินฝากบัญชี “ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี” (TMB All Free) ยังเติบโตได้ดีโดยเพิ่มขึ้น 26% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อีกทั้งเงินฝาก No-fixed และ ME ยังคงเติบโตต่อเนื่องที่ 10% และ 8% ตามลำดับในช่วงเวลาเดียวกัน”

  รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้น 2% จากเวลาเดียวกันปีที่แล้ว สอดคล้องกับทิศทางสินเชื่อที่ขยายตัว โดยส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (Net interest margin) ปรับตัวดีขึ้นจาก 3.06% ในปีที่แล้วมาอยู่ที่ 3.2% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัว 26% แม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมลูกค้าธุรกิจลดลง 23% แต่รายได้ค่าธรรมเนียมจากลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้นถึง 55% โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่เพิ่มขึ้น 98% และผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ ที่ขยายตัวได้ 68% ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมการขายแบงก์แอสชัวรันส์และค่าธรรมเนียมการเข้าถึงช่องทางการให้บริการของธนาคาร (Access fee) ซึ่งได้รับจากการต่อสัญญาความร่วมมือการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร (Bancassurance) ระหว่างธนาคาร และ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

  รายได้รวมของธนาคารในงวด 6 เดือน อยู่ที่ 18,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ขณะที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมีจำนวน 8,469 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองเพิ่มขึ้น 10% เป็นจำนวน 9,899 ล้านบาท

  ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสที่แล้ว (QoQ) เป็นจำนวน 5,135 ล้านบาท

  แม้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 603 ล้านบาทจากสิ้นปีมาอยู่ที่ 18,208 ล้านบาท ซึ่งทำให้ NPL ratio ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2.53% มาที่ 2.56% ธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและตั้งสำรองจำนวน 4,523 ล้านบาทในงวด 6 เดือนแรก หรือเป็นจำนวน 2,282 ล้านบาทในไตรมาส 2 ซึ่งเพิ่มขึ้น 17% YoY และ 2 % QoQ ตามลำดับ เพื่อให้ธนาคารยังคงสัดส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ในระดับสูงที่ 140% โดยหลังตั้งสำรองฯ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 4,426 ล้านบาทในงวด 6 เดือน และจำนวน 2,330 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ซึ่งเพิ่มขึ้น 4% YoY และ 11% QoQ ตามลำดับ

  ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงดำรงสถานะเงินกองทุนในระดับสูง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) ภายใต้เกณฑ์ Basel III ที่อัตรา 16.5% โดยเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ในสัดส่วน 12.3% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 9.75% และ 7.25% ตามลำดับ

  “ผลการดำเนินงานของธนาคารยังปรับตัวดีขึ้น จากความพยายามในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงภายใต้แนวทาง“Need-Based Bank” กับ “Simple & Easy” อีกทั้ง ธนาคารเน้นการขยายตัวทางธุรกิจอย่างรอบคอบ และรักษาคุณภาพสินทรัพย์และสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพให้อยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง”

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!