WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS 5ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม'ธ.เมกะ สากลพาณิชย์' ที่ 'AA+/Stable'

 

     ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'AA+' โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะเครดิตเฉพาะของธนาคารเองและการเสริมเครดิตจากกลุ่มธุรกิจซึ่งแสดงให้เห็นถึงฐานะของธนาคารที่เป็นธนาคารลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของกลุ่ม Mega International Commercial Bank Co., Ltd. ในประเทศไต้หวัน (Mega ICBC-Taiwan)

     ทั้งนี้ สถานะเครดิตเฉพาะของธนาคารได้รับแรงหนุนจากสถานะเงินทุนที่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ตลอดจนระบบบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอ และสถานะทางการตลาดที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและธุรกิจขนาดใหญ่ชาวไต้หวันเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารก็ถูกลดทอนโดยส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อและเงินฝากที่มีขนาดเล็ก รวมทั้งการกระจุกตัวของธุรกิจสินเชื่อและเงินฝาก และการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่

        ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ เป็นธนาคารลูกของธนาคาร Mega ICBC-Taiwan ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในประเทศไต้หวัน โดยธนาคาร Mega ICBC-Taiwan ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ 'A/Stable'จาก Standard and Poor’s และที่ระดับ 'A1/Stabl' จาก Moody’s Investors Service (Moody’s)

        ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ เริ่มดำเนินกิจการในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2490 ในรูปแบบสาขาของธนาคารต่างประเทศ และในปี 2548 ได้ยกระดับขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ ส่วนธนาคาร Mega ICBC-Taiwan ซึ่งเป็นธนาคารแม่ก็มีกิจการอยู่ในอีก 5 ประเทศที่เป็นสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ด้วย ธนาคารอาศัยชื่อเสียงที่แข็งแกร่งของธนาคารแม่ในการขยายธุรกิจในประเทศไทยโดยให้บริการในตลาดเฉพาะกลุ่มอันได้แก่กลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่านสำนักงานใหญ่ของธนาคารในกรุงเทพฯ และอีก 4 สาขาในต่างจังหวัด ลูกค้าหลายรายยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคารแม่ของธนาคารในประเทศไต้หวันด้วย ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารอยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งดำเนินกิจการอยู่ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ

        ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ เป็นธนาคารพาณิชย์ที่เล็กที่สุดในบรรดาธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทยเมื่อพิจารณาจากขนาดสินทรัพย์รวมของธนาคาร ณ สิ้นปี 2559 ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 0.14% และเงินรับฝาก 0.1% ธุรกิจสินเชื่อมีสัดส่วนในการสร้างรายได้ให้แก่ธนาคารมากที่สุด โดยรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิมีสัดส่วนประมาณ 78% ของรายได้รวมในปี 2559 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รายได้ที่เป็นค่าธรรมเนียมและค่าบริการโดยส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับการปล่อยสินเชื่อ โดยรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิมีสัดส่วนเพียง 9% ของรายได้รวมซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ธนาคารให้บริการธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange) เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยรายได้จากธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศซึ่งมีสัดส่วน 11.4% ของรายได้รวมในปี 2559 และเป็นรายได้ที่ไม่ได้มาจากดอกเบี้ยนั้นมีสัดส่วนค่อนข้างแน่นอนในปีที่ผ่านมาและเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของธนาคาร

       ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ มีสถานะเงินทุนที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดยธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ Basel-III อยู่ที่ระดับ 27.6% ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินการในประเทศไทย สถานะเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการรองรับการเติบโตของธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนและต้นทุนทางเครดิตที่ค่อนข้างต่ำยังคงสะท้อนถึงลักษณะทางรายได้ของธนาคาร ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารเมื่อดูจากอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยที่ระดับ 1.15% ในปี 2559 นั้นถือว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายถึงแม้ธนาคารจะมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยก่อนต้นทุนทางเครดิตที่ 1.61% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มก็ตาม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมของธนาคารอยู่ที่ระดับ 43.9% ในปี 2559 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเฉลี่ยของกลุ่ม ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารมีแนวโน้มที่ลดลงซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมจากผลของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ในขณะที่ความสามารถในการหารายได้ของธนาคารนั้นมีเพียงพอที่จะรองรับสภาวะความผันผวนตามวัฏจักรธุรกิจได้

         ถึงแม้ว่าต้นทุนทางเครดิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจะสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอยจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารก็ถือว่าอยู่ในระดับเทียบเคียงกับอุตสาหกรรม ต้นทุนทางเครดิตของธนาคารในปี 2559 อยู่ที่ระดับ 0.24% เพิ่มขึ้นจาก 0.06% ในปีก่อนเนื่องจากธนาคารมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษและสินเชื่อที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น สัดส่วนสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.7% มาเป็น 4.9% ของสินเชื่อรวมระหว่างสิ้นปี 2558 และปี 2559 ในขณะที่สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมลดลงจากระดับ 2.04% เป็นระดับ 1.78% ในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าสัดส่วนสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษจะเพิ่มสูงขึ้น แต่สัดส่วนรวมระหว่างสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษและสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของธนาคารก็ยังอยู่ในระดับเดียวกันกับของอุตสาหกรรม อัตราส่วนความเพียงพอของการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคาร ณ สิ้นปี 2559 อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของกลุ่มแม้ว่าจะเคยอยู่ในระดับที่สูงกว่าในปีก่อน สำหรับค่าเฉลี่ยต้นทุนทางเครดิตในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแล้วถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย

    การมีประเภทธุรกิจที่ค่อนข้างจำกัดและการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันส่งผลทำให้เกิดการกระจุกตัวทั้งในส่วนของสินเชื่อและแหล่งเงินทุนของธนาคาร สินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีสัดส่วนประมาณ 80% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งสะท้อนถึงกลุ่มลูกค้าหลักของธนาคารที่ประกอบด้วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในสัดส่วนถึงประมาณ 71% ของสินเชื่อรวมนั้นบ่งชี้ถึงการกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าเพียงกลุ่มเดียวเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ที่มีการกระจายตัวของลูกค้าสินเชื่อมากกว่าไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อย ธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยทั่วไปแล้วกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจที่สูงกว่าเนื่องจากขนาดของกิจการที่ค่อนข้างเล็ก ธนาคารมีลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในสัดส่วน 28% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2559 นอกจากนี้ เนื่องจากฐานสินเชื่อรวมของธนาคารที่มีขนาดเล็ก สินเชื่อที่ให้แก่ลูกค้ารายใหญ่จึงมีสัดส่วนที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์อื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง

    ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ ไม่มีฐานเงินฝากที่แข็งแกร่งที่มาจากลูกค้ารายย่อยซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเงินทุนที่มีความมั่นคงเช่นเดียวกับธนาคารต่างชาติอื่นๆ ที่มีกิจการในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีพัฒนาการที่ดีจากการเพิ่มฐานเงินฝากจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยอัตราการเติบโตที่อยู่ในระดับสูงและลดการพึ่งพาเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารในปี 2559 อัตราการเติบโตแบบปีต่อปีของเงินฝากอยู่ที่ระดับ 24.7% ในขณะที่เงินกู้ยืมระหว่างธนาคารลดลง 45.2% ณ สิ้นปี 2559 สัดส่วนของเงินฝากต่อแหล่งเงินทุนรวมส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 58.2% ณ สิ้นปี 2559 จาก 46.3% ในปีก่อน สัดส่วนของเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารซึ่งประมาณหนึ่งในสามเป็นการกู้ยืมจากธนาคารแม่นั้นลดลงเหลือ 15% ของแหล่งเงินทุนรวมส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2559 จาก 27% ในปีก่อน

    สัดส่วนของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (Current Account Savings Account – CASA) ต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินอยู่ในระดับ 63.2% ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม สัดส่วนดังกล่าวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อน การกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าเงินฝากขนาดใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าธุรกิจเมื่อเทียบกับเงินฝากรวมอยู่ในระดับที่สูงกว่าธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง สิ่งที่โดดเด่นในโครงสร้างแหล่งเงินทุนของธนาคารคือสัดส่วนของผู้ถือหุ้นที่อยู่ในระดับสูงซึ่งสะท้อนถึงฐานเงินทุนที่มีขนาดใหญ่ โดยสัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่อแหล่งเงินทุนอยู่ที่ระดับ 26.9% ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งอยู่ในระดับสูงที่สุดของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย การเพิ่มสูงขึ้นของแหล่งเงินที่มาจากเงินฝากส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อรวมต่อเงินรับฝากลดลงมาอยู่ที่ระดับ 134% ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งพัฒนาขึ้นอย่างมากจากระดับ 161% ในปีก่อน

     สภาพคล่องของธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ อยู่ในระดับที่เหมาะสม อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อเงินรับฝากรวมตั๋วแลกเงินอยู่ที่ระดับ 41.1% ณ สิ้นปี 2559 ในขณะที่อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 23.7% อัตราส่วนเหล่านี้อยู่ในระดับที่เทียบเคียงได้กับค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ธนาคารมีสินทรัพย์สภาพคล่องและแหล่งเงินกู้สำรองที่เพียงพอต่อความต้องการเงินทุน ในขณะเดียวกันอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ทางการกำหนด

แนวโน้มอันดับเครดิต

               แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ จะยังคงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของธนาคาร Mega ICBC-Taiwan และจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

               อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในกรณีที่สถานะอันดับเครดิตของธนาคาร Mega ICBC-Taiwan เปลี่ยนไป หรือมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารที่มีต่อธนาคาร Mega ICBC-Taiwan เปลี่ยนแปลงไป

ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (Mega ICBC)

อันดับเครดิตองค์กร: AA+

แนวโน้มอันดับเครดิต:           Stable

 

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

        ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

    บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!