- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 17 May 2017 00:25
- Hits: 2501
SME Bank เผย รัฐบาลอนุมัติ สินเชื่อ / กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 2 รายแรกของประเทศจากจังหวัดน่าน วงเงินรวม 13 ล้านบาท แย้มมีลูกค้าสาขาพิษณุโลก อีกจำนวน 2 ราย กำลังจะนำเสนอเข้าที่ประชุมในวันศุกร์ที่ 19 พ.ค. 2560 นี้ คาดผ่านเกณฑ์ฉลุย
นายสมชาย หาญหิรัฐ ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) ฐานะปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในนามประธานกองทุนพัมนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดีมาก โดยเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ นำโดย นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ในนามประธานคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐจังหวัดน่าน ได้ประชุมหารือคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัด
โดย ธพว. ในฐานะหน่วยร่วมการบริหารงานด้านสินเชื่อกองทุนครั้งนี้ ได้ผลักดันลูกค้าธนาคารเข้าสู่แหล่งทุนเป็นผลสำเร็จ จำนวน 2 ราย รายที่ 1 บริษัท ชมพูภูคา จำกัด ได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุนฯ จำนวน 3 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จำนวน 5 ล้านบาท รวมวงเงิน 8 ล้านบาท รายที่ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ ได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุนฯ จำนวน 3 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จำนวน 2 ล้านบาท รวมวงเงิน 5 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายเบ็ดเสร็จได้จริงภายในเดือน พ.ค. นี้ ดังนั้น ธพว.สาขาน่านจึงถือเป็นสาขาแรกและผู้ประกอบการกลุ่มแรกของประเทศ ที่ได้รับการอนุมัติวงเงินรวม 13 ล้านบาท เพื่อผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างธุรกิจท้องถิ่นให้มีศักยภาพเป็นรากฐานที่แข็งแรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม Thailand 4.0
โดยผู้ประกอบการทั้ง 2 รายเป็นลูกค้าเดิมของ ธพว.สาขาน่าน ประกอบด้วย รายที่ 1. บริษัท ชมพูภูคา จำกัด ผลิตและจำหน่ายเครื่องเงิน ซึ่งจัดเป็น SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องประดับและสิ่งทอ ธุรกิจที่จังหวัดน่านมีแผน/โครงการจะส่งเสริมพัฒนาเป็นพิเศษ เนื่องจากงานหัตถกรรมด้านเครื่องเงินของจังหวัดน่าน มีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยบริษัทก่อตั้งมาแล้วกว่า 20 ปี จากการรวมตัวของกลุ่มคนไทยชนเผ่าผู้มีความรู้ความชำนาญด้านเทคนิคการผลิตเครื่องเงินที่เล็งเห็นถึงคุณค่า ต้องการอนุรักษ์งานหัตถกรรมนี้ไว้ โดยจัดเป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ให้ผู้ที่สนใจได้สานต่อ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ ปัจจุบันสามารถส่งเสริมให้คนในชุมชนและคนไทยชนเผ่ากว่า 200 ครัวเรือน มีรายได้หล่อเลี้ยงตัวเองอย่างยั่งยืน ลดปัญหาสังคม และสร้างความเสมอภาคด้านการเลื่อมล้ำทางสังคมอย่างชัดเจน จึงได้รับอนุมัติวงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี ปลอดชำระเงินต้น 3 ปี ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี และได้รับอนุมัติสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จำนวน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ปกติของธนาคาร ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี สามารถใช้ บสย. ค้ำประกัน
รายที่ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ ผลิตและจำหน่ายเมล็ดกาแฟแบบครบวงจร ซึ่งจัดเป็น SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ธุรกิจที่จังหวัดน่านมีแผน/โครงการจะส่งเสริมพัฒนาเป็นพิเศษ และยังเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดน่านด้านเศรษฐกิจในเรื่องการผลิตทางการเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เนื่องจากรูปแบบการบริหารจัดการของบริษัท มุ่งเน้นด้านการพัฒนาชุมชน สร้างธุรกิจต้นน้ำที่มีศักยภาพ ทำชื่อเสียงให้กับภูมิลำเนาจนกลายเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Social Enterprise) พร้อมส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรท้องถิ่น จากเดิมทำไร่ข้าวโพดให้หันมาปลูกกาแฟทดแทน ซึ่งมีรายได้ดีกว่ามาก ส่งผลให้ชุมชนมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันมีเกษตรกรลูกไร่ในโครงการจำนวนกว่า 856 ราย บนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 2,500 ไร่ ซึ่งกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ในจังหวัดน่าน อาทิ อ.เมือง อ.บ้านหลวง และ อ.ทุ่งช้าง เป็นต้น จึงได้รับอนุมัติวงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี ปลอดชำระเงินต้น 3 ปี ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี และได้รับอนุมัติสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จำนวน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ปกติของธนาคาร ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี สามารถใช้ บสย. ค้ำประกัน
ประธานกรรมการ ธพว. ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจากลูกค้าสาขาน่านที่กำลังจะได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุนเป็นรายแรกในประเทศแล้ว ธนาคารยังมีลูกค้าสาขาพิษณุโลก อีกจำนวน 2 ราย กำลังจะนำเสนอเข้าที่ประชุมในวันศุกร์ที่ 19 พ.ค. 2560 นี้ โดยคาดว่าจะสามารถผ่านเกณฑ์ยุทธศาสตร์ของจังหวัดไปได้ด้วยดี และขณะเดียวกันนี้ ในส่วนของกระบวนการทำงานของคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนประจำจังหวัดต่างๆ ได้ขับเคลื่อนรับคำขอจากผู้ประกอบการแล้วเช่นกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวนมาก คาดว่าภายในสิ้นเดือน พ.ค. นี้จะสามารถอนุมัติวงเงินได้อีกประมาณ 2-3 รายต่อจังหวัด”
ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ท่านสามารถแสดงความประสงค์ยื่นคำขอได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือ SME กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ธพว.ทุกสาขาทั่วไปเทศ
ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจแสดงความประสงค์ยื่นคำขอกู้สินเชื่อ SMEs Transformation Loan หรือสินเชื่ออื่นๆ ของธนาคาร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357 หรือ ติดตามกิจกรรมดีๆ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านช่องทาง facebook.com/SMEDevelopmentBank