- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 27 March 2017 15:56
- Hits: 2498
รัฐบาลอนุมัติสินเชื่อ SMEs Transformation Loan มอบ SME Development Bank เปิดบริการดีเดย์ 3 เม.ย. 60 ทุกสาขาทั่วประเทศ
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า ตามที่มีมติ ครม. เห็นชอบอนุมัติโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ ธพว. และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้ SMEs เป้าหมายเข้าร่วมโครงการ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เน้นให้ความรู้การประกอบธุรกิจและการวางแผนธุรกิจแก่ผู้ประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง สำหรับการช่วยเหลือด้านเงินทุนผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยต่ำ 3% คงที่ 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นอกจากนี้ กรณีกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์
“สำหรับ สินเชื่อ SMEs Transformation Loan นั้น รัฐบาลมีเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพียง 3% ต่อปี โดยใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือขยายปรับปรุงธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจทำให้กิจการมีปัญหาด้านสภาพคล่อง 2) ผู้ประกอบการใหม่ (New/ Start Up) หรือที่มีนวัตกรรม 3) ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพหรือมีแนวโน้มเติบโตเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เช่น SMEs กลุ่มธุรกิจ S-Curve และ SMEs ที่ส่งออก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าโครงการนอกเหนือจะได้รับการช่วยเหลือด้านเงินทุนแล้ว รัฐบาลยังมอบหมายให้ธนาคารดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ และการวางแผนธุรกิจ ทั้งด้านการบริหารจัดการ การเงิน บัญชี ภาษี การตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การจับคู่ธุรกิจ การค้าขายผ่านสื่อออนไลน์ ตลอดจนการพาออกบูธจำหน่ายสินค้ากับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ท่าอากาศยานกรมการท่า Thai Smile เว็บไซต์ alibaba.com และพาไปเจาะตลาดกลุ่มประเทศ CLMV”
“ธนาคาร คาดว่า หลังจากเปิดตัวแล้วจะมีผู้ประกอบการสนใจขอใช้วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสุด 3% เป็นจำนวนมาก เนื่องจากช่วยลดภาระผู้ประกอบการทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเตรียมตัวธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้กว่า 3,000 ราย (วงเงินค้ำประกันเฉลี่ยต่อราย 5 ล้านบาท) รักษาการจ้างงานได้ไม่น้อยกว่า 24,000 คนและสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 68,700 ล้านบาท เป็นฟันเฟืองช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นตัว”
สำหรับ ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจใช้บริการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan สามารถติดต่อยื่นคำขอกู้ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถาม Call Center 1357 และสามารถติดตามข่าวสารหรือกิจกรรมดีๆ ของธนาคารผ่านช่องทาง facebook.com/SMEDevelopmentBank
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : นางอุบลรัตน์ ค่าแพง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม โทร. 085-980-7861 หรือ 0-265-4574-5
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 27/03/60 | |||||||||||||||||||||||
FONT |
|
SHARE |
|
|
|
|
|||||||||||||||||
ทิศทางตลาด | |||||||||||||||||||||||
มีโอกาสปรับลดลง? ตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เช้านี้ ภายใต้ความไม่แน่นอนในการดำเนินงานนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้มีความคาดหวังในเชิงบวกว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเสียงสนับสนุนของพรรครีพับลิกันไม่เพียงพอ ทำให้ต้องยกเลิกร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์”ที่จะนำมาใช้แทน “โอบามาแคร์”ไป | |||||||||||||||||||||||
นอกจากนี้คาดยังได้รับปัจจัยกดดันบ้างจากประเด็นการพิจารณาออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ที่จะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการ ปลาย มี.ค. นี้ | |||||||||||||||||||||||
ขณะที่แนะติดตามการเลือกตั้งในยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศส (เม.ย. – พ.ค.) ซึ่งคาด Sentiment เป็นบวก หลังผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ และผลสำรวจล่าสุดในช่วงการหาเสียงในฝรั่งเศส คาดช่วยลดความกังวลโดยเฉพาะการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมือง ที่อาจเป็นการจุดกระแสความนิยมต่อนโยบายขวาจัด | |||||||||||||||||||||||
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาด Sentiment เป็นบวก โดยเฉพาะFund Flow ภายใต้ความไม่แน่นอนในการดำเนินงานนโยบายของสหรัฐฯ ข้างต้น คาดยังส่งผลให้เงินสหรัฐฯ กลับมาอ่อนค่า คาดเงินทุนไหลกลับเข้า Emerging Market รวมถึงไทย นอกจากนี้ยังมีประเด็น Window Dressing ซึ่งจะมีการปิดงบไตรมาส 1 ในวันที่ 31/3/60 และการประชุม กนง. ใน วันพุธนี้ (29/3/60) | |||||||||||||||||||||||
อย่างไรก็ตามคาดยังถูกกดดันบ้างจากความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลของภาครัฐ ที่คาดยังมีผลต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะประเด็นการยกเลิกทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง คาดทำให้การประมูลล่าช้าไป 5 –6 เดือน แนะติดตามการประชุม กนง. (29/3/60) | |||||||||||||||||||||||
ขณะที่ในระยะกลาง – ยาว ยังได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดดีขึ้นตามลำดับ ภายใต้ (1) การลงทุนของภาครัฐ ที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (2) รายได้เกษตรกรที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่อนคลายลง และ (3) การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดย กกร. คาดส่งออกเติบโต 1.0 –3.0% รวมถึงได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ (4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. คาดว่าทั้งปี’60 อยู่ที่ 34 - 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 32.59 ล้านคน เมื่อปี’59 พร้อมคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 10% จาก 1.64 ล้านบาทเมื่อปี’59 | |||||||||||||||||||||||
SET | SET50 | SET100 | |||||||||||||||||||||
1,573.51 +4.79 | 998.25 +5.00 | 2,245.69 +10.16 | |||||||||||||||||||||
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด | |||||||||||||||||||||||
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้ | |||||||||||||||||||||||
(-/+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -59.86, NASDAQ +11.05, S&P -1.98, FTSE -3.89, CAC -11.86 และ DAX +24.59 ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯยกเลิกการลงมติร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ที่จะนำมาใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "Affordable Care Act (ACA)" หรือ "โอบามาแคร์" เนื่องจากเสียงสนับสนุนของพรรครีพับลิกัน ยังไม่มากพอต่อการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อาจต้องล่าช้าออกไปด้วย ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าจะไม่มีการรื้อฟื้นร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาอีก โดยจะปล่อยให้กฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" มีผลบังคับใช้ต่อไป และหันไปผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นๆ เช่น การปฏิรูปภาษี | |||||||||||||||||||||||
ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน – ก.พ. เพิ่มขึ้น 1.7% ต่อเนื่องจาก ม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.3% และ (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต – มี.ค. อยู่ที่ 53.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เช่นเดียวกับดัชนี PMI ภาคบริการ – มี.ค. อยู่ที่ 52.9 ลดลงจาก 53.8 เมื่อก.พ. | |||||||||||||||||||||||
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยหนุนบ้างจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของยูโรโซน – มี.ค. อยู่ที่ 56.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 55.8 | |||||||||||||||||||||||
P/E (เท่า) | P/BV (เท่า) | Dividend Yield (%) | |||||||||||||||||||||
17.36 | 1.93 | 3.14 | |||||||||||||||||||||
ที่มา : www.set.or.th | |||||||||||||||||||||||
มูลค่าการซื้อขาย | หน่วย (ลบ.) | ||||||||||||||||||||||
มูลค่าการซื้อขาย | 35,671.48 | ||||||||||||||||||||||
สถาบัน | 1,188.27 | ||||||||||||||||||||||
บัญชีหลักทรัพย์ | -402.1 | ||||||||||||||||||||||
ต่างประเทศ | 1,566.48 | ||||||||||||||||||||||
ในประเทศ | -2,352.66 | ||||||||||||||||||||||
และยังแนะจับตา | |||||||||||||||||||||||
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ TKN เป็นต้น | |||||||||||||||||||||||
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCBเป็นต้น | |||||||||||||||||||||||
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น | |||||||||||||||||||||||
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC | |||||||||||||||||||||||
(5) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากการเปิดขายโครงการในปี’60 ที่โดดเด่น เช่น ANAN และ SPALI เป็นต้น | |||||||||||||||||||||||
(6) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ และ UNIQเป็นต้น | |||||||||||||||||||||||
(7) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ BANPU ปรับตัวขึ้นตามราคาถ่านหิน | |||||||||||||||||||||||
(8) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK | |||||||||||||||||||||||
(9) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจขนส่งทางเรือ เช่น PSL คาดได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินที่มีแนวโน้มฟื้นตัว จากการปรับตัวของอุตสาหกรรมเรือเทกอง | |||||||||||||||||||||||
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.40%(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) | |||||||||||||||||||||||
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.16 อยู่ที่ 12.96 | |||||||||||||||||||||||
หุ้นแนะนำ : “หุ้นสัมนาเมื่อวันที่ 24/3/60” | |||||||||||||||||||||||
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788 | |||||||||||||||||||||||