- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 07 August 2014 22:06
- Hits: 2656
กรุงศรี SME รุกครึ่งหลังของปี 2557 ด้วยสินเชื่อเอสเอ็มอี 3 เท่า
กรุงศรี SME เผยกลยุทธ์ครึ่งหลังของปี 2557 ที่จะมุ่งเน้นการเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยผลิตภัณฑ์ เอสเอ็มอี 3 เท่า สินเชื่อที่ให้วงเงินสูงถึง 3 เท่าของหลักประกัน พร้อมจับมือบริษัทชั้นนำเช่น ล็อกซเล่ย์ และซีพี ออลล์ มุ่งสร้างเครือข่ายธุรกิจเสริมความแข็งแกร่งให้กับลูกค้าเอสเอ็มอี
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง นำไปสู่การขยายตัวของสินเชื่อเอสเอ็มอีที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐได้กำหนดให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ และมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี ผ่านการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.”
“กรุงศรี SME จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อเอสเอ็มอี ตระกูล 3 เท่า (สินเชื่อจุใจ สินเชื่อทันใจ และสินเชื่อพร้อมขยาย) ที่เคยได้รับความนิยมให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและเตรียมรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ด้วยการให้วงเงินสินเชื่อสูงถึง 3 เท่าของหลักประกัน ซึ่งสามารถใช้ทั้ง เงินฝากออมทรัพย์ หรือหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน สินเชื่อเอสเอ็มอี 3 เท่านี้ ให้วงเงินสูงสุดถึง 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง MOR +1.25% / MLR +1.50% ต่อปี สามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 7 ปี รู้ผลอนุมัติเร็วทันใจใน 3 วันและฟรีค่าธรรมเนียม บสย. ในปีแรก”
และเพื่อสร้างการรับรู้ของสินเชื่อเอสเอ็มอี 3 เท่า กรุงศรี SME จึงได้ออกโฆษณาทั้งในส่วนสื่อสิ่งพิมพ์ และหนังโฆษณาทางโทรทัศน์ความยาว 30 วินาที เรื่อง 'มวยข้ามรุ่น'ที่ได้ถ่ายทอดแนวคิดเล่าปัญหาการทำธุรกิจของเอสเอ็มอี ผ่านกีฬาชกมวยที่ต้องต่อสู้กับธุรกิจรายใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นมวยที่ต้องชกข้ามรุ่นอยู่ตลอดเวลา กรุงศรีจึงเพิ่มโอกาสให้ทุกเอสเอ็มอี ได้สู้มากกว่าที่เคย ด้วยสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่ให้กู้มากขึ้นถึง 3 เท่า เหมือนการเพิ่มนักมวยตัวเล็กให้เป็น 3 คนผนึกกำลังช่วยกัน และเพิ่มโอกาสที่จะชนะคู่ต่อสู้ที่ใหญ่กว่า
“กรุงศรีมั่นใจว่าสินเชื่อเอสเอ็มอี ตระกูล 3 เท่า จะช่วยให้ลูกค้าเดินหน้าได้อย่างแข็งแรง และจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะช่วยขยายพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอี ของกรุงศรีให้สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 13% ในปี 2557 นี้ หรือคิดเป็น 206,800 ล้านบาท” นายสยาม กล่าว
นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้แล้ว กรุงศรี SME ยังได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นผลักดันให้เอสเอ็มอีเติบโตอย่างเป็นเครือข่ายที่แข็งแรงมั่นคง จึงสนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอีในการต่อยอดธุรกิจ ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพได้นำเสนอสินค้า หรือบริการของตน กับบริษัทชั้นนำของไทย อย่าง ล็อกซเล่ย์ และ ซีพี ออลล์ ผ่านกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching เพื่อขยายตลาดออกไปให้กว้างขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รองรับกับการก้าวไปสู่การเป็นแวลูเชนของบริษัทระดับโลกต่อไป รวมถึงกิจกรรมการสร้างเครือข่ายธุรกิจแบบใหม่ หรือ Speed Networking ที่มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายคู่ค้าจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการจำนวนมาก
“เรามั่นใจว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งเสริมให้ธุรกิจของลูกค้าเอสเอ็มอีเติบโตได้ง่ายๆ อย่างยั่งยืน และด้วยเครือข่ายสาขาของธนาคาร 609 แห่งทั่วประเทศ ศูนย์ธุรกิจเอสเอ็มอี 44 ศูนย์ทั่วทุกภูมิภาค บริษัทในเครือธนาคาร อาทิ กรุงศรีออโต้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และเงินติดล้อ ทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการต่อเนื่องกับลูกค้าเอสเอ็มอี จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่อยู่ในใจลูกค้า”นายสยาม กล่าว
และในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 พบว่าสินเชื่อเอสเอ็มอี ของธนาคารเติบโตอยู่ในระดับปานกลางที่ 4.4% ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะเดียวกันธนาคารเองก็ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอี คงค้างอยู่ที่ประมาณ 191,497 ล้านบาท
BAY คงสินเชื่อ SME ปีนี้โต 13% แม้ครึ่งปีแรกโตปานกลาง 4.4%
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) คงเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อ SME ในปีนี้ให้เติบโต 13% หรือคิดเป็น 2.06 แสนล้านบาท แม้ว่าในครึ่งปีแรกจะเติบโตในระดับปานกลางเพียง 4.4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศ
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ เอสเอ็มอี BAY เปิดเผยว่า ธนาคาร มั่นใจสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 13% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อ 206,800 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 4.4% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 191,497 ล้านบาท
แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโต 8.6% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท โดยธนาคารจะเน้นการร่วมมือกับภาครัฐที่ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)ค้ำประกันให้กับเอสเอ็มอี เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี และสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น โดยฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก 1.75% วงเงิน 55,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีลูกค้าของธนาคารเข้าใช้โครงการดังกล่าววงเงิน 25,000 ล้านบาท
"กรุงศรีเอสเอ็มอีปีนี้วางไว้ที่ 13% ยอดสินเชื่อคงค้างจาก 183,000 ล้านบาทเมื่อปี 56 เราตั้งเป้าจะโตไปที่ 207,000 ล้านบาท ณ ครึ่งปีแรกที่สภาวะการณ์ยากลำบาก กรุงศรีก็ยังคงยืนเป้าหมายอยู่เหมือนเดิม โดยในครึ่งปีแรกเราเติบโตไปได้ 4.4% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 191,000 ล้านบาท ก็เป็นเป้าหมายที่เราวางไว้ตั้งแต่ต้น ส่วนอีก 15,000 ล้านบาทในครึ่งปีหลังสิ่งที่เราทำเราจะร่วมกับ บสย. จากที่บสย.มีการออกมาตรการเพื่อลดต้นทุนการเงินของลูกค้า SME โดยฟรีค่าธรรมเนียม 1.75% ซึ่งธนาคารกรุงศรีฯจะเป็นธนาคารแรกที่เริ่มโปรโมทข่าวนี้ออกไป เพื่อให้ SME ทั้งหลายได้รับผลประโยชน์ในการได้ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง โดยออกสินเชื่อเอสเอ็มอี 3 เท่าออกไป โดยผ่านทั้งโฆษณาทางทีวี และหนังสือพิมพ์"นายสยาม กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารยังมองแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 58 จะเติบโตดีกว่าปี 57 โดยคาดการณ์ว่า GDP ปีนี้จะขยายตัวได้ 3-4% ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อในปี 58 จะต้องสูงกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ 3-4 เท่า ซึ่งเป็นผลจากมาตรการลงทุนต่างๆของภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการคาดว่าจะเริ่มส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในส่วนของเอสเอ็มอี มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเมื่อเดือนมิ.ย.57 อยู่ที่ 2.7% ลดลงจากเดือนพ.ค.57 ที่อยู่ที่ 3% และคาดว่าแนวโน้ม NPL จะปรับลดลงต่อเนื่อง จากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าที่ปรับตัวดีขึ้น
สำหรับ การที่คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะส่งผลให้ต้นทุนการเงินของลูกค้าที่ใช้สินเชื่อจะลดลง และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเอกชนที่คิดจะลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในการนำเงินไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำ
อินโฟเควสท์