- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Tuesday, 05 August 2014 22:46
- Hits: 2967
แบงก์อิสลาม คาดสัดส่วนลูกค้าชำระค่าบริการผ่านเคาน์เตอร์แบงก์เพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายในปี 58 เริ่มให้บริการนำร่อง 11 สาขา
ดร.ครรชิต สิงห์สุวรรณ์ รักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารคาดสัดส่วนลูกค้าบริการรับชำระบิลผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารจะเพิ่มขึ้นราว 20% ภายในปี 2558 จากเดิมมีสัดส่วนลูกค้าไม่ถึง 1% เนื่องจากธนาคารไม่เคยเปิดให้บริการชำระบิลมาก่อน ซึ่งลูกค้าบางส่วนมีความต้องการบริการชำระบิลผ่านเคาท์เตอร์ธนาคารอยู่แล้ว
สำหรับ การลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ IBANK ร่วมกับบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการชำระบิลสาธารณูปโภค รวมถึงการร่วมเป็นพันธมิตรกับทรู ธนาคารมองว่าสามารถทำได้ง่ายกว่าเนื่องจากทรูมีฐานลูกค้าอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ธนาคารจะเปิดสาขานำร่องสำหรับจุดรับชำระ 11 สาขาก่อน คือ สาขาอโศก, คลองตัน, เซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า, เซ็นทรัล พระราม 9, เดอะมอลล์ บางกะปิ, พาราไดซ์พาร์ค เชียงใหม่, หาดใหญ่, เซ็นทรัล อุดรธานี, เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี และยะลา หลังจากนั้นจะสามารถรับชำระบิลบัตรเครดิตและจะเปิดให้บริการครบทั้งหมด 130 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ โดยคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในระยะแรกไม่ต่ำกว่า 500 บิล/เดือน
ด้านนายปุณณมาศ วิจิตรวงศา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า จากการร่วมมือกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ครั้งนี้ จะสามารถเพิ่มสัดส่วนลูกค้าของทรูมันนี่ในภาคใต้ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจากเดิมอาจมีไม่มากนัก
ส่วนภาพรวมของบริษัท ทรูมันนี่ ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ราว 15% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทฯเติบโตอยู่ที่ 15% หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกอยู่ประมาณ 13% เนื่องจากมองว่าความต้องการจุดนัดชำระยังสามารถเติบโตได้อีกมาก และจากการที่บริษัทฯร่วมมือกับทางธนาคารจะสามารถเพิ่มลูกค้าของธนาคารที่มีอยู่แล้วให้มาเป็นลูกค้าของทรูมันนี่ได้อีกส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีการเจรจากับธนาคารอีกราว 4 แห่ง คาดว่าประมาณ 1-2 เดือนข้างหน้าจะได้เห็นการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจุดรับชำระบิลของบริษัทฯร่วมกับธนาคารอื่น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย