- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 21 July 2016 09:06
- Hits: 1370
ทีเอ็มบี มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองในครึ่งปีแรกเติบโตต่อเนื่อง 5% ขณะที่ยังตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง อัตราส่วนสำรองต่อ NPL ยังแข็งแกร่งที่ 143%
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 และงวด 6 เดือน ปี 2559 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ สำหรับงวด 6 เดือน จำนวน 9,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว โดยธนาคารยังคงตั้งสำรองฯอย่างระมัดระวังที่ระดับค่อนข้างสูงเป็นจำนวน 3,875 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% และรักษาความแข็งแกร่งของสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ที่ 143% ทั้งนี้ หลังสำรอง ธนาคารฯ มีกำไรสุทธิที่ 4,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “ใน 6 เดือนแรกของปี 2559 นี้ ผลการดำเนินงานของธนาคารยังคงดีขึ้น โดยมีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 2% จากสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก อันเป็นผลจากการที่ธนาคารปรับปรุงกระบวนการนำเสนอสินเชื่อให้มีความรวดเร็วและถูกต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี ทำให้ลูกค้าสนใจใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารมากขึ้น ในขณะที่เงินฝากลดลงเล็กน้อย 0.5% โดยหลักมาจากการบริหารสัดส่วนของเงินฝากให้สอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อ โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ 92% ในขณะที่เงินฝากลูกค้าบุคคลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 3% อีกทั้งธนาคารยังประสบความสำเร็จในการขยายเงินฝากธุรกรรมทางการเงิน (Transactional deposit) จากฐานเงินฝากลูกค้าบุคคล โดยเงินฝาก All Free ยังเติบโตได้ดีโดยเพิ่มขึ้น 63% จากปลายปีที่แล้ว”
ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงเล็กน้อย 2% ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของรายได้ธุรกรรมตลาดทุนจากผลกระทบของความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ในไตรมาส 2 และการลดลงของค่าธรรมเนียมสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมจากลูกค้าบุคคลยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ ทำให้รายได้รวมของธนาคารมีจำนวน 16,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าใช้จ่ายสำรองของ NPA และสำรองหนี้สินอื่น) มีจำนวน 7,801 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเพียง 1% ซึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯในงวด 6 เดือนที่ 9,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว โดยในไตรมาส 2 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯที่ 4,451 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 3% จากไตรมาสที่แล้ว
ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ แม้ว่ามีสัญญาณที่ดีขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) แต่การแก้ไขหนี้ (Debt restructuring) เป็นไปค่อนข้างช้า ดังนั้น จากการที่ธนาคารตั้งสำรองอย่างระมัดระวังมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารตัดสินใจตัดบัญชีหนี้สูญ (Write off) เพิ่มเติมสำหรับ NPL ที่มีการกันสำรอง 100% จำนวน 2,900 ล้านบาทและขาย NPL จำนวน 167 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 นี้ ทำให้ NPL ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ลดลงเป็น 19,779 ล้านบาท และทำให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อลดลงจากปลายปีแล้วที่ 2.99% มาอยู่ที่ 2.87% ขณะที่สัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ดีขึ้นเป็น 143%
ธนาคารยังคงตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง โดยตั้งสำรองในระดับสูงที่จำนวน 1,998 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 รวมเป็น 3,875 ล้านบาทในงวด 6 เดือนซึ่งเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว โดยหลังตั้งสำรองฯ ธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 จำนวน 2,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน และ 4,243 ล้านบาทในงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว
ในขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงดำรงสถานะเงินกองทุนในระดับแข็งแกร่งภายใต้เกณฑ์ Basel III โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) เพิ่มขึ้นเป็น 17.95% และกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) เพิ่มเป็น 12.51% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 9.125% และ 6.625% ตามลำดับ
นายบุญทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ผลการดำเนินงานของธนาคารยังปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเกิดจากความพยายามในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง อีกทั้งธนาคารยังมีแผนต่อเนื่องที่จะนำเสนอดิจิทัลแบงก์กิ้ง ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ นอกจากนี้ ในด้านการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารคงความระมัดระวังและให้ความสำคัญในการรักษาคุณภาพสินทรัพย์และสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพให้อยู่ในระดับแข็งแกร่งเพื่อความมั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”
TMB operating profit before provision rises 5% in 1H2016 while conservative provisioning maintained, with strong coverage ratio at 143%
TMB Bank Public Company Limited today announced its financial results for the second quarter and first half of 2016. The Bank and its subsidiaries’ pre-provision operating profit (PPOP) for 1H2016 was 9,022 million Baht, rose by 5% from the same period last year. The Bank maintained its conservative provisioning and set aside 3,875 million Baht of provision, a rise of 4% from last year. Coverage ratio was kept at a strong level of 143%. Net profit, as a result, was reported at a positive growth rate of 9% to be at 4,243 million Baht.
Mr.Boontuck Wungcharoen, CEO of TMB, said “TMB’s operations remained healthy with the loan growth of 2% during the first half which was driven mainly by growth of mortgage loan. Such growth was effectively achieved thanks to TMB’s revamped process which allowed quick turnaround time with high accuracy so the Bank was able to offer better loan product and answer customers’ needs. Deposit declined slightly by 0.5% so as to balance deposit structure and volume, with the loan to deposit ratio at 92%. Nonetheless, retail deposit base was enlarged by 3%. The success of retail transactional deposit base expansion also continued, evidenced by the 63% growth of “All free” deposit.
Net interest income during 1H2016 rose by 6% YoY. Non-interest income, however, slightly declined by 2% mainly due to the decline in capital market income resulted from bond’s interest rate volatility during the second quarter as well as the reduction of loan-related fee. Meanwhile, retail fee continued to grow, especially fee from bancassurance. Consequently, total revenue amounted to 16,946 million Baht, increased by 3%, while operating expenses (excluded provision for NPA and other liabilities) amounted to 7,801 million Baht, an increase of only 1%, as a result of the Bank’s continuing focus on efficiency enhancement. PPOP in 1H2016, therefore, rose by 5% from the same period last year to 9,022 million Baht, of which PPOP of the second quarter declined slightly 3% from the previous quarter to 4,451 million Baht.
In terms of asset quality, even though non-performing loans have shown signs of recovery, debt restructuring was relatively slow. With TMB’s continued conservative provision setting, the Bank decided to make an extra write-off of 100%-provisioned NPL of 2.9 billion Baht and NPL sale of 167 million Baht in the second quarter. Consequently, NPL at the end of the second quarter dropped to 19,779 million Baht and NPL ratio was down from 2.99% at end of last year to 2.87%. Coverage ratio improved to be at 143%.
TMB maintained its conservative provisioning and set aside a provision of 1,998 million Baht, in the second quarter, totaling 3,875 million Baht for 1H2016, representing a rise of 4% YoY. Net profit of the second quarter was 2,151 million Baht, increased by 3% from the previous quarter, while net profit of 1H2016 was 4,243 million Baht, increased by 9% YoY.
The Bank continued to maintain high capital levels under Basel III framework. At the end of June, capital adequacy ratio (CAR) improved to 17.95% and Tier 1 ratio was enhanced to 12.51%, which were comfortably higher than the Bank of Thailand’s minimum requirements of CAR at 9.125% and Tier 1 at 6.625%.
Mr. Boontuck also added, "TMB’s operating performance has improved continuously due to the Bank’s ability to deliver the products and services which serve the real needs of our customers. In addition, we have implemented a strategic plan to provide customers with digital banking offerings which maximize customers’ lifestyles. With regards to asset quality management, TMB will remain conservative and put the emphasis on maintaining sound asset quality and strong coverage ratio for sustainable growth as we move forward.”