- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Tuesday, 21 June 2016 22:38
- Hits: 3270
ออมสิน เผย สศค.อยู่ระหว่างพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์กู้บ้านหลังแรก หลังพบปล่อยกู้ล่าช้า ก่อนเสนอครม.พิจารณาต่อไป
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีที่โครงการบ้านหลังแรกไม่เกิน 1.5 ล้านบาทของรัฐบาลที่มีความล่าช้านั้น ขณะนี้ได้เสนออุปสรรคและปัญหาให้กับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.พิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยสศค.อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะสามารถปรับเงื่อนไขและรายละเอียดได้อย่างไรบ้าง ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.อีกครั้ง
ในส่วนของอุปสรรคในการปล่อยกู้ล่าช้า เนื่องจากกรณีบ้านหลังแรกหากราคาเกินกว่า 1.5 ล้านบาทนั้นไม่สามารถกู้ได้ และในกรณีที่มีที่ดินอยู่แล้ว ต้องการกู้เพื่อสร้างบ้าน หากประเมินราคาที่ดินแล้วราคา 1 ล้านบาท จะสามารถกู้สร้างบ้านได้เพียง 500,000 บาทเท่านั้น ซึ่งทำให้ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีลูกค้าจำนวนมากไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวจำนวนมาก โดยมีลูกค้ายื่นขอกู้ 30,000 ราย แต่ปฏิเสธไปประมาณ 15,000 ราย
“ในส่วนของการปรับเงื่อนไขนั้น อาจให้กู้บ้านได้โดยไม่รวมราคาที่ดิน เช่น อาจให้กู้บ้านได้สูงสุด 1 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีการคำนวนราคาของที่ดินที่มีอยู่ แต่ในส่วนของเพดานของราคา 1.5 ล้านบาทนั้น คงไม่ได้มีการปรับหลักเกณฑ์ เนื่องจากราคาบ้าน 1.5 ล้านบาทนั้น จะต้องมีรายได้ 20,000 บาท ซึ่งหากปรับเพดานราคาบ้าน นั่นเท่ากับว่ารายได้จะต้องสูงกว่านี้ ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์บ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อย”นายชาติชาย กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่า หากมีการปรับเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เพิ่มเติมนั้น เชื่อว่าในแต่ละธนาคารที่ทำหน้าที่ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อบ้านผู้มีรายได้น้อย จะสามารถปล่อยกู้ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น หรือสามารถปล่อยกู้ได้สถาบันการเงินละ 10,000 ล้านบาทอย่างแน่นอนในปีนี้
สำหรับ ปัจจุบัน หากประชาชนที่มีความพร้อม และมีคุณสมบัติครบถ้วนในการกู้ สามารถเข้ามายื่นเงื่อนไขขอกู้ได้เลย โดยธนาคารจะพิจารณาและอนุมัติให้กับประชาชนที่เข้าเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด และมีเอกสารทางการเงินครบถ้วนเท่านั้น
ในส่วนของกรณีวันที่ 23 มิถุนายนนี้ สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) จะออกจากยุโรป หรือไม่นั้น เบื้องต้นเชื่อว่าจะกระทบต่อประเทศไทยบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากในปัจจุบันไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปประเทศอังกฤษค่อนข้างน้อย ซึ่งต่างจากที่มีการค้าขายกับสหรัฐ กลุ่มประเทศอาเซียน และจีนค่อนข้างมาก ดังกล่าวในส่วนของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอาจส่งผลต่อค่าเงินมีการเคลื่อนไหวบ้าง และอาจทำให้ค่าเงินสหรัฐมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น
“ในขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะออกหรือไม่ แต่มันค่อนข้างก่ำกึ่ง แต่ในส่วนของผลกระทบก็คงไม่ได้มาก เพราะปัจจุบัน อังกฤษก็ไม่ได้ใช้เงินยูโร แต่ใช้เงินปอนด์ ในส่วนของค่าเงินอาจทำให้ยูโรอ่อนไปบ้างเท่านั้น”นายชาติชาย กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย