- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 16 June 2016 23:34
- Hits: 3250
สมาคมธนาคารไทยประกาศความพร้อมรับลงทะเบียน พร้อมเพย์ ทั่วประเทศ 15 ก.ค.นี้
สมาคมธนาคารไทยโดยธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ประกาศความพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนบริการพร้อมเพย์ อย่างเป็นทางการ พร้อมกันทั่วประเทศ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป พร้อมให้ความมั่นใจจะเป็นบริการรูปแบบใหม่ที่อำนวยความสะดวกแก่ภาคประชาชน ลดการใช้เงินสดในสังคมไทย และช่วยเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า บริการพร้อมเพย์ (PromptPay) เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ของรัฐบาล ที่จะลดการใช้เงินสดในสังคมไทยซึ่งมีต้นทุนสูง เพื่อจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว
บริการพร้อมเพย์ เป็นบริการรับโอนเงินแบบใหม่ ที่มีการผูกบัญชีของผู้รับเงินโอนกับเลขที่บัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ผู้โอนเงินสามารถโอนเงินให้ผู้รับโดยไม่ต้องระบุธนาคารและเลขที่บัญชีของผู้รับโอน เพียงระบุเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้รับโอนที่ผูกไว้ก็สามารถทำธุรกรรมได้ ช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมโอนและรับโอนเงิน เนื่องจากผู้โอนไม่ต้องจำเลขที่บัญชี และผู้รับโอนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลบัญชีของตน มีหลักฐานการโอนเงินในระบบชัดเจน และลดความเสี่ยงจากการพกพาเงินสดอีกด้วย
ธนาคารพาณิชย์ในไทยทั้ง 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ร่วมกันพัฒนาบริการพร้อมเพย์ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูง ซึ่งทุกธนาคารพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบตัวตนและความเป็นเจ้าของบัญชีของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งตรวจสอบความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ ในกรณีการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วย
สำหรับ คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ต้องเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากและเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จะลงทะเบียน เลือกบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวัน เป็นบัญชีเดี่ยว (ไม่ใช่บัญชีร่วม) ที่จะใช้เป็นบัญชีหลักในการทำธุรกรรมโอนและรับโอน เพื่อนำมาผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือภายใต้บริการพร้อมเพย์ โดยบัญชีธนาคารที่นำมาลงทะเบียน 1 บัญชี จะมีหมายเลข หรือ ID เพื่อการผูกบัญชีได้สูงสุด 4 เบอร์ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 1 เบอร์ และหมายเลขโทรศัพท์มือถืออีกไม่เกิน 3 เบอร์ ทั้งนี้ หมายเลข หรือ ID ที่นำมาผูกนั้นจะต้องไม่เคยผูกกับบัญชีใดมาก่อน
ธนาคารจะเปิดรับลงทะเบียนผ่านช่องทางต่างๆ ตามความพร้อมของแต่ละธนาคาร อาทิ ช่องทางเอทีเอ็ม ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต ธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ และสาขา ทั้งนี้ จะมีธนาคารบางแห่งเปิดลงทะเบียนล่วงหน้า (Pre-register) ในวันที่ 1-14 กรกฎาคม 2559 และทุกธนาคารจะเปิดรับลงทะเบียนบริการพร้อมเพย์อย่างเป็นทางการ พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดการรับลงทะเบียน
กรณีที่ผู้ลงทะเบียนมีความประสงค์จะเปลี่ยนธนาคารที่ผูก ID ไว้ ก็สามารถยกเลิกการลงทะเบียนกับธนาคารเดิมที่ใช้บริการอยู่และไปลงทะเบียนกับธนาคารใหม่ หรือในกรณีที่ผู้ใช้บริการพร้อมเพย์ต้องการเปลี่ยนแปลงหมายเลขบัญชีหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ก็สามารถทำได้เช่นกัน
นายปรีดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกค้าที่เลือกใช้การโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์จะได้รับความสะดวกจากการที่ไม่ต้องสอบถามบัญชีธนาคารของผู้รับโอน การคิดค่าธรรมเนียมของพร้อมเพย์จึงไม่มีการแยกรายการเป็นแบบในเขต ข้ามเขต หรือรายการในธนาคารเดียวกันหรือต่างธนาคาร แต่จะอ้างอิงวงเงินในการโอนแต่ละครั้งเป็นหลัก บริการพร้อมเพย์จึงนับเป็นบริการรูปแบบใหม่ที่มีโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากบริการโอนเงินรูปแบบที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ดังนี้ วงเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ วงเงินมากกว่า 5,000 – 30,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 บาทต่อรายการ วงเงินมากกว่า 30,000 – 100,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 5 บาทต่อรายการ และวงเงินมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 10 บาทต่อรายการ ทั้งนี้ บริการพร้อมเพย์จะถือเป็นทางเลือกในการโอนเงินระหว่างบุคคลรูปแบบหนึ่ง ลูกค้ายังคงสามารถเลือกทำธุรกรรมโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์ หรือเลือกทำผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ตามปกติเช่นเดิม
การให้บริการพร้อมเพย์ จะเริ่มให้บริการรับโอนเงินระหว่างประชาชนได้ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2559 จากนั้นจะขยายไปสู่บริการธุรกรรมอื่น อาทิ การจ่ายบิลต่างๆ
ภาคธนาคารเชื่อมั่นว่าพร้อมเพย์จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมและเข้าถึงบริการชำระเงินที่หลากหลายยิ่งขึ้น ส่วนภาคธุรกิจก็จะได้รับโอกาสทางธุรกิจจากการที่ลูกค้าสามารถชำระเงินได้สะดวกรวดเร็ว ขณะที่ภาครัฐจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการโอนเงินจากภาครัฐสู่ประชาชนได้ถึงมือตัวบุคคลโดยตรงและทั่วถึงยิ่งขึ้นด้วย รวมทั้งช่วยลดการใช้เงินสดในสังคมไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว จึงขอเชิญชวนลูกค้าประชาชนทุกท่านลงทะเบียนพร้อมเพย์ที่ธนาคารที่สะดวกตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป