- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 17 July 2014 22:31
- Hits: 3158
ธนาคารกรุงเทพรายงานกาไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2557 จานวน 9,029 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกาไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2557 จานวน 9,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท จากไตรมาส 1 ปี 2557 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 895 ล้านบาท รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 612 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายจากการดาเนินงานเพิ่มขึ้น 1,549 ล้านบาท
ผลการดาเนินงานของธนาคารในครึ่งแรกปี 2557 อยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ประกอบกับการส่งออกที่ยังฟื้นตัวช้า และการใช้จ่ายของภาครัฐทาได้อย่างจากัด ส่งผลให้ภาคธุรกิจมีความต้องการสินเชื่อทั้งที่เป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายกิจการลดลงเพื่อรอดูความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์การเมือง
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจานวน 1,764,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2556 จานวน 11,854 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 เนื่องจากสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อสาขาต่างประเทศยังคงขยายตัวได้ตามเป้าหมายของธนาคาร
จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ลูกค้าบางรายได้รับผลกระทบ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจานวน 45,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,779 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปีก่อน แต่ใกล้เคียงกับเมื่อสิ้นเดือนมีนาคม 2557 และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อที่ร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2556 และสิ้นเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ทั้งนี้ ธนาคารยังคงมีการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มพร้อมทั้งให้คาปรึกษาและความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ธนาคารยังคงมีการตั้งสารองค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญอย่างสม่าเสมอ โดยในไตรมาสนี้ธนาคารมีการตั้งสารองฯ จานวน 2,331 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนสารองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นร้อยละ 216.0
ธนาคารมีเงินรับฝากจานวน 1,903,432 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ลดลงร้อยละ 1.6 จากสิ้นปี 2556 ขณะที่เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากสิ้นปี 2556 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 90.6 ณ สิ้นปี 2556 เป็นร้อยละ 92.7
ในไตรมาส 2 ปี 2557 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจานวน 14,962 ล้านบาท และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ร้อยละ 2.44 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.30 ในไตรมาส 1 ปี 2557 เนื่องจากธนาคารสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากได้ดี รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจานวน 9,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 612 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1 จากไตรมาส 1 ส่วนใหญ่จากรายได้เงินปันผล และกาไรจากการจาหน่ายทรัพย์สินรอการขาย
ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจากการดาเนินงานเพิ่มขึ้น 1,549 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.5 จากไตรมาส 1 ปี 2557 เป็น 10,961 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายการลงทุนด้านการขยายสาขาและเครื่องบริการอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพื่อพัฒนาระบบงาน สาหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดาเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 45.2 ในไตรมาสนี้
ด้านเงินกองทุน หากนับรวมกาไรสุทธิสาหรับงวดครึ่งปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 เข้าเป็นเงินกองทุนของธนาคาร อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.1 ร้อยละ 15.7 และร้อยละ 15.7 ตามลาดับ
ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 มีจานวน 313,095 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.2 ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 164.02 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 8.99 บาท จากสิ้นปี 2556
Bangkok Bank reports second-quarter net profit of Baht 9.0 billion Net interest income up 6.4% Non-interest income up 7.1%
Bangkok Bank and its subsidiaries have reported a consolidated net profit of Baht 9.0 billion for the second quarter of 2014, an increase of Baht 64 million from the first quarter of 2014. Net interest income rose by Baht 895 million while non-interest income grew by Baht 612million. Operating expenses increased by Baht 1.5 billion.
The Bank’s performance came against the backdrop of a subdued economy over the first half of 2014. Political uncertainties lowered the confidence of businesses and households alike.
Together with a slow recovery in exports and limits to government spending, this resulted in lower loan demand for both working capital and business expansion, as companies awaited signs of economic recovery and clarity on government policy.
Despite these factors, at the end of June 2014, the Bank’s total lending was Baht 1,764.5 billion, an increase of Baht 11.9 billion or 0.7 percent from the end of 2013. SME and mortgage loans, and loans made through the Bank’s international network, continued to rise in line with the Bank’s targets.
The economic slowdown impacted some customers, and as a result non-performing loans (NPLs) at the end of June 2014 amounted to Baht 45.0 billion, an increase of Baht 1.8 billion from the end of 2013, but at a similar level to the end of March 2014. This was equivalent to 2.3 percent of total lending, compared with 2.2 percent at both the end of last year and at the end of March 2014. The Bank closely monitored all customer segments and continued to provide advice and assistance to customers in order to maintain the quality of loans at an appropriate level.
Meanwhile the Bank maintained its provisioning policy, setting aside provisioning expenses of Baht 2.3 billion in the second quarter, resulting in a ratio of loan loss reserves to NPLs of 216.0 percent.
Total deposits at the end of June 2014 were Baht 1,903.4 billion, 1.6 percent lower from six months earlier, while lending increased by 0.7 percent over the same period. The loan-to-deposit ratio rose from 90.6 percent at the end of 2013 to 92.7 percent.
Net interest income for the second quarter of 2014 was Baht 15.0 billion and the net interest margin rose from 2.30 percent for the first quarter to 2.44 percent as the Bank judiciously managed its cost of deposits. The 7.1 percent increase in non-interest income was due mainly to dividend income and gains on properties for sale. The 16.5 percent increase in operating expenses was due mainly to investment costs related to branch and electronic services expansion, including system development. The cost-to-income ratio for the second quarter of 2014 stood at 45.2 percent.
In terms of capital funds, after the inclusion of net profit for the half year ending June 30, 2014, the Bank’s total capital adequacy ratio, the common equity Tier 1 ratio and the Tier 1 capital ratio would be approximately 18.1 percent, 15.7 percent and 15.7 percent, respectively.
Shareholders’ equity at the end of the second quarter was Baht 313.1 billion, equivalent to 12.2 percent of total assets. The book value per share was Baht 164.02, an increase of Baht 8.99 from the end of 2013.
