- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 25 April 2016 21:06
- Hits: 3042
กสิกรไทย ตั้ง KBTG พัฒนาเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกการเงินใหม่ ตั้งงบไอที 5,000 ล้านบาทหวังครองอันดับหนึ่งดิจิทัล แบงกิ้งต่อเนื่อง
กสิกรไทย ตั้ง KASIKORN Business Technology Group (KBTG) มุ่งคิดค้นนวัตกรรม ร่วมพันธมิตรทางเทคโนโลยี และจับมือ FinTech และ Tech Startup สร้างนวัตกรรมทางการเงินรองรับดิจิทัล แบงกิ้งที่โตก้าวกระโดด เพิ่มความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการเงินในตลาดโลก พร้อมตั้งงบปีละ 5,000 ล้าน พัฒนาไอทีใหม่ หวังลูกค้าจะได้รับบริการทางการเงินในโลกดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบที่สุด คาดใน 5 ปี จำนวนรายการผ่านดิจิทัล แบงกิ้ง เพิ่มเป็น 7,900 ล้านรายการต่อปี คิดเป็นมูลค่าธุรกรรม 30 ล้านล้านบาทต่อปี
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของสมาร์ทโฟนทำให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้สะดวกรวดเร็วขึ้น จากข้อมูลของธนาคารกสิกรไทยพบว่า รายการที่ทำผ่านช่องทางดิจิทัล แบงกิ้ง (โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต) ของธนาคารเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 168 ล้านรายการในปี 2554 เป็น 1,135 ล้านรายการในปี 2558 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 7,900 ล้านรายการใน 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2563) ส่วนการใช้บริการผ่านช่องทางสาขาจะเพิ่มจาก 166 ล้านรายการในปี 2554 เป็น 188 ล้านรายการในปี 2558 แต่คาดว่าจะลดเหลือประมาณ 153 ล้านรายการในปี 2563 ในขณะที่มูลค่าธุรกรรมที่ผ่านดิจิทัล แบงกิ้งก็เพิ่มจาก 9 แสนล้านบาทในปี 2554 เป็น 4 ล้านล้านบาทในปี 2558 และคาดจะเติบโตประมาณ 10 เท่าตัวเป็น 30 ล้านล้านบาท ในปีพ.ศ.2563 หรือ 5 ปีข้างหน้า
การเพิ่มขึ้นของธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน (Financial Technology-FinTech) ที่ให้บริการที่มีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าอย่างกว้างขวางทั้งจากสถาบันการเงินและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อตอบสนองสังคมในยุคดิจิทัล ดังนั้นจากโจทย์ทางธุรกิจในด้านเทคโนโลยีการเงินที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงกระแสธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยี (Tech Startup) ที่ได้นำนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการให้บริการทางการเงินมาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นับเป็นตัวแปรสำคัญที่จะสร้างแรงผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในโลกการเงิน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความคาดหวังต่อบริการทางการเงินที่สูงขึ้นในโลกดิจิทัล ปัจจัยเหล่านี้จึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในภาพรวม
ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้นำดิจิทัล แบงกิ้ง ที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 38% พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคตด้วยการตั้งบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานและบริการด้านไอที และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการเงินในตลาดโลก และเพื่อครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละปีธนาคารตั้งงบประมาณด้านไอทีไว้ประมาณ 10% ของกำไรสุทธิ หรือประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท และเป็นงบเพื่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่อีก 1-2% ของกำไรสุทธิ หรือ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จะดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป อีกตำแหน่งหนึ่งเพื่อเชื่อมโยงการทำงานเข้ากับคณะกรรมการธนาคารและดูแลการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายในธนาคารและพันธมิตรทางเทคโนโลยีต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพอย่างไร้รอยต่อ และแต่งตั้งนายสมคิด จิรานันตรัตน์ เป็น รองประธาน กลุ่มบริษัท KBTG ประกอบด้วย 5 บริษัท ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ถือหุ้น 100% ทั้งหมด ได้แก่
บริษัท กสิกร เทคโนโลยี กรุ๊ป เซเครเทเรียต จำกัด ดูแลด้านวางแผนติดตาม และให้การสนับสนุนการจัดการด้านการเงินและด้านบุคลากรของ KBTG รวมทั้งประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง KBTG และธนาคารกสิกรไทย บริษัท กสิกร แล็บส์ จำกัด ค้นคว้าเทคโนโลยีและรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบดิจิทัล แบงกิ้ง และระบบเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งทำหน้าที่สร้างและทดลองระบบต้นแบบก่อนประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ของธนาคารกสิกรไทย
บริษัท กสิกร ซอฟต์ จำกัด ออกแบบและสร้างระบบไอทีเพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจและรองรับการนำนวัตกรรมมาใช้ในธนาคารให้มีความรวดเร็วและคุณภาพสูงสุด บริษัท กสิกร โปร จำกัด ดูแลการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและระบบไอทีของธนาคารให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ และ บริษัท กสิกร เซิร์ฟ จำกัด ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของกลุ่มบริษัท ทั้งทางด้านการพัฒนา การทดสอบ และการปฏิบัติการระบบไอที
สำหรับ ทิศทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ของ KBTG มุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของธนาคาร รวมทั้งการพัฒนาบริการเพื่อสนับสนุนลูกค้าและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า อาทิ การพัฒนาบริการผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และหลากหลายช่องทางธุรกิจ (Omni Channel) และ การใช้งานเทคโนโลยีเพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการให้บริการผ่านเครือข่ายที่ครบวงจร (End-to-end Service) เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังในอุตสาหกรรมการเงิน นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในบริการทางการเงินเพื่อขยายตลาดใหม่ ๆ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในบริการอื่น ๆ นอกเหนือจากบริการทางการเงิน เช่น การตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล อีกทั้งยังมุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินและบริการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจ Startup อีกด้วย
แนวโน้มเทคโนโลยีที่ KBTG มุ่งเน้นใน 5 ปีข้างหน้า ได้แก่ 1. Internet of Things (IoT) คือ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ตู้เย็น ฯลฯ เข้าไว้ด้วยกัน โดยสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต 2. World Class Design คือ การออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการในโลกยุคใหม่ที่คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก (User Experience Design-UXD) 3. Application Programming Interface (API) คือ โปรแกรมหรือชุดคำสั่งหรือช่องทางสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างซอฟต์แวร์หนึ่งไปยังอีกซอฟต์แวร์หนึ่ง รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างแอพพลิเคชั่นไปยังเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น กับระบบปฏิบัติการด้วย วัตถุประสงค์ก็เพื่อการเข้าถึงข้อมูลหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแอพพลิเคชั่น
4. Advanced Mobile Programming คือ แนวโน้มของเทคโนโลยีในอนาคตที่จะสามารถอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด 5. Blockchain คือ เทคโนโลยีที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจการเงิน เพราะนอกจาก Blockchain จะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายแล้ว หลายบริษัททั้งในและนอกธุรกิจทางการเงินยังเชื่อว่า Blockchain ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น เช่น การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระเงินข้ามแดน ให้มีความรวดเร็วและตรวจสอบได้ และเทคโนโลยีที่ 6. Machine Learning หมายถึงการที่กำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถปฏิบัติงานได้ดีขึ้น โดยเรียนรู้จากการกระทำ หรือสิ่งที่ทำไปก่อนหน้านั้นโดยใช้หลักการของปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรืออาจเป็นการเรียนรู้จากการถูกสั่งให้ทำ จากตัวอย่าง (example) หรือจากการเปรียบเทียบ (analogy) ก็ได้
KBTG ยังจะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในห้องแลปร่วมกับ Tech Giant ซึ่งเป็นบริษัทไอทีขนาดใหญ่ นอกจากนี้จะมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองธุรกิจ FinTech และ Tech Startup ที่มีไอเดีย และความสามารถในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ การร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและการร่วมลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีในโลกอนาคต พร้อมใช้จุดแข็งทางด้านนวัตกรรมของบริษัทเหล่านี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมีโอกาสเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น อาทิ ฐานลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคลของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังมีปัจจัยสนับสนุนการทำธุรกิจของ Tech Startup ที่สำคัญ นั่นคือ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT Infrastructure) ที่แข็งแกร่งและมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงจะช่วยให้ Tech Startup มีศักยภาพมากขึ้นในการพัฒนาและขยายผลนวัตกรรมอย่างรวดเร็วในอนาคต
นายบัณฑูร กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจธนาคารและธุรกิจไอทีมีรูปแบบการบริหารจัดการและลักษณะบุคลากรที่แตกต่างกัน ดังนั้น การจัดตั้ง KASIKORN Business - Technology Group จึงมีโครงสร้างบริษัทแยกออกจากธุรกิจของธนาคาร ทั้งนี้ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการและสามารถสร้างสภาพแวดล้อมรวมทั้งวัฒนธรรมองค์กรแบบเฉพาะตัวที่จะดึงดูดบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้าน ไอทีเข้ามาร่วมงานกับ KBTG ได้ตามเป้าหมาย โดยบุคลากรของ KBTG จะปฏิบัติงานที่อาคารกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป ซึ่งเป็นอาคารแห่งใหม่ของธนาคาร สูง 11 ชั้น ภายในอาคารมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อรองรับการทำงานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และงานนวัตกรรมอีกด้วย
KBTG จะร่วมเป็นหนึ่งในกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อธนาคารกสิกรไทยสู่การเป็นดิจิทัล แบงกิ้งอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงความพร้อมในการทำงานร่วมกับ Tech Startup กล่าวคือ สามารถเป็นได้ทั้งพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ผู้ร่วมลงทุน (Investor) หรือแม้แต่เป็นลูกค้า (Customer) แล้วแต่รูปแบบของนวัตกรรมเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่มีอยู่และส่งเสริมให้ธุรกิจรูปแบบใหม่เหล่านี้เติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว นอกจากนี้ KBTG ยังพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่อง e-Payment Master Plan โดยนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาประยุกต์ในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างครบวงจร ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว สามารถลดต้นทุนจากการพกพาเงินสดและหันมาใช้การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีค่าบริการที่ถูกกว่าแทน ในส่วนของ ร้านค้าก็สามารถลดต้นทุนการบริหารจัดเก็บเงินสดและเช็ค รวมไปถึงการพิมพ์และจัดส่งเอกสารใบกำกับภาษี ซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ จะทำให้โครงสร้างต้นทุนการให้บริการทางการเงินในอนาคตลดต่ำลงอย่างมากในขณะที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้มากกว่าเดิมเพื่อเสริมให้ชีวิตในโลกดิจิทัลสมบูรณ์แบบ
KBank sets up KBTG to explore innovations and redefine the global financial service market; while targeting to maintain digital banking leadership with THB5 billion budget in annual budget
KASIKORNBANK (KBank) has set up KASIKORN BUSINESS-TECHNOLOGY GROUP (KBTG), which will act as a developer and also work in partnership with FinTech firms and tech-startups to explore financial innovations, aimed at enhancing competitiveness amid changes in global financial technology. KBank has also set aside THB5 billion annually to develop new information technologies in the hope of offering more comprehensive financial services to customers. The company has projected that its digital banking transactions will increase to the tune of 7,900 million per year, valued at around THB30 trillion.
Mr. Banthoon Lamsam, Chairman and Chief Executive Officer of KBank said that changes in the digital world have been rapid, especially the proliferation of smartphones, which allows people to conduct various transactions more conveniently than ever before. Based on the data compiled by KBank, the number of its digital banking transactions via mobile phones and internet leapfrogged from 168 million in 2011 to 1,135 million in 2015 and the figure is projected to reach 7,900 million over the next five years, or 2020. Additionally, the number of financial transactions at KBank branches increased from 166 million in 2011 to 188 million in 2015; but the figure may decline to perhaps 153 million in 2020. The value of digital banking transactions surged from THB900 billion in 2011 to some THB 4 trillion in 2015, and the figure is projected to grow 10 folds to THB30 trillion by 2020.
The rapid growth in global digital banking transactions has necessitated financial institutions and other sectors to develop financial technology (FinTech) that will offer the most cost-effective financial services. Therefore, changes in financial technology along with the emergence of FinTech firms and tech startups, which incorporate the latest innovations in financial services, will offer improved convenience for customers. This will be an important factor helping spur innovations in the global financial market. These financial innovations should be able to facilitate rapidly changing customer needs and increasingly rising expectations of financial services in the global digital world. These factors will inevitably shape the business sector overall.
KBank, as the digital banking leader with a market share of around 50 percent, is readying for future changes and challenges by establishing KBTG, with the aim of boosting IT management and service efficiency, enhancing competitiveness amid global FinTech transitions, while maintaining business leadership. Each year, the Bank allocates approximately 10 percent of its net profits, or 4 billion Baht, to the IT budget, of which 1-2 percent, or 1 billion Baht, is earmarked for innovative developments.
Mr. Teeranun Srihong, KBank President, has been appointed Chairman of KBTG for synergy in management with the Bank’s Board of Directors, maintaining efficient and seamless teamwork with KBank’s internal business units and IT partners, while Mr. Somkid Jiranuntarat, KBank Executive Vice President, has been appointed Vice Chairman. The group comprises five wholly-owned companies of KBank, as follows:
KASIKORN TECHNOLOGY GROUP SECRETARIAT provides financial and human resource planning, monitoring and support for KBTG, while facilitating team cooperation between KBTG and KBank. KASIKORN LABS innovates new business technologies and platforms useful for the digital banking and economy, including building and testing exemplary systems for streamlining KBank products.
KASIKORN SOFT designs and creates IT systems that match business demand and promote innovation use at KBank, to maintain quality operations which meet the requirements of a fast changing digital environment. KASIKORN PRO ensures that the Bank uses modern and efficient IT infrastructures and systems. Lastly, KASIKORN SERVE operates to support the entire group, in terms of IT system development, systems testing and operations.
Strategic direction of KBTG comprises technology utilization in order to improve the Bank’s efficiency and effectiveness, while improving customer service and increasing customer satisfaction, e.g. developing mobile banking and introducing an omni-channel model. Moreover, technology must be deployed to reduce operating time and costs and to provide end-to-end services that would create a disruptive force within the industry. There is also IT usage in financial services in order to expand to new markets, and to jump into non-financial services, e.g. digital marketing. In addition, financial and non-financial services are offered to support startups.
Over the next five years, KBTG plans to focus on the following areas: 1. Internet of Things (IoT) – technology that enhances connection and communication between devices and tools, e.g., mobile phones, cars, fridges, etc., via the internet; 2. World-class Design – product and service design in the new era based on the User Experience Design (UXD) concept; 3. Application Programming Interface (API) – programs, instructions or channels enabling connection between two different software, as well as connecting applications with websites and operating systems, for the purposes of accessing information or exchanging information between applications.
4. Advanced mobile programming a future technological trend that can maximize convenience for users; 5. Blockchain - a technology that is widely popular in the financial business because it is not only an important foundation for digital money, e.g., Bitcoin, which has already been used extensively, but blockchain is also believed by many financial and non-financial companies as a technology that offers other benefits, e.g., reducing costs and increasing cross-border settlement efficiency that can be verified; and 6. Machine learning - a computer programming that evolved from pattern recognition or previous actions based on artificial intelligence or learning from example or analogy.
Through laboratory work, KBTG will cooperate with Tech Giant – a major IT firm - to initiate innovations, while playing a major role in response to FinTech business and tech startups, with fertile grounds for new ideas and innovative development capability. Technological enhancement and joint ventures will be offered up for technology-based business expansions. Beneficial innovations, created by these high-tech firms will also be applied to KBank’s product and service development wing for improved customer service. With KBTG, customers will be afforded opportunities to access more funding sources and broader markets, such as the Bank’s SME and retail customers. Moreover, KBank possesses provides a significant element supportive to tech startups' business operations, which is offering solid IT Infrastructure that provides ensures exceptional security, so that they have greater potential to rapidly develop and broaden their innovations rapidly in the future.
Mr. Banthoon added that the management approach and characteristics of human resources in the banking and IT industries are quite different. Therefore, KBTG was established independently for swift management, ensuring that the group will be able to cultivate its own environment and unique organizational culture so that it attracts IT-savvy personnel to join the organization. Once recruited, KBTG employees will be stationed at KBTG Building-KBank's new 11-storey building with office space designs, aimed at accommodating operations that require creativity and innovative ideas.
KBTG is determined to be a key mechanism in in developing Thailand's digital economy, and driving KBank to become the market leader in providing comprehensive digital banking solutions, as well as facilitating tech startups' operations. This means that KBTG will act as a strategic partner, investor, and customer, depending on innovations required to fulfill existing gaps, which will lead to enhancing startups' sustainable growth and success. Additionally, KBTG is eager to support the government and the Bank of Thailand's National e-Payment Master Plan policy, which enables should enable Thais to adapt integrated electronics systems to their everyday reality. Besides more convenient and speedy services, consumers will be able to cut costs associated with carrying cash and enjoy lower fees from electric bill payment schemes. At the same time, vendors will be able to save up on costs from cash and cheque management, and also in printing and delivering tax invoices. New technology and innovations will significantly bring down financial management costs significantly, while increasingly facilitating increasingly more convenient services for customers in the digital world.