- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 20 April 2016 15:28
- Hits: 1908
ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2559 จำนวน 8,317 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2559 จำนวน 8,317 ล้านบาท เทียบกับ 7,681 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2558 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 16,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 417 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 10,672 ล้านบาท ลดลง 121 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.1 และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานจำนวน 12,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 710 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8
ในไตรมาส 1 ปี 2559 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังถูกกดดันจากรายได้เกษตรกรที่ตกต่ำ ประกอบกับปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิต รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในบางกลุ่มธุรกิจแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ การส่งออกสินค้าที่ไม่นับรวมทองคำยังมีทิศทางหดตัวตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะจีน ประกอบกับราคาสินค้าส่งออก ยังปรับตัวลดลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก จากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจดังกล่าวส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมี เงินให้สินเชื่อจำนวน 1,874,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,021 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 จากสิ้นปี 2558 โดยเติบโตจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายกลางและรายปลีก และสินเชื่อกิจการธนาคารต่างประเทศ
จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 61,841 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ร้อยละ 2.9 อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมพร้อมทั้งให้คำปรึกษา และความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเสมอมา
นอกจากนี้ ธนาคารยึดหลักความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ธนาคารมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูง ในไตรมาส 1 ปี 2559 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 3,644 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 5.8
ด้านสภาพคล่อง ธนาคารยังคงให้ความสำคัญเรื่องการบริหารสภาพคล่องควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมีเงินรับฝากจำนวน 2,149,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58,368 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8 จากสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 87.2 เทียบกับ ร้อยละ 89.4 ณ สิ้นปีก่อน
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2559 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 8,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 636 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2558 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 16,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 417 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.04 เป็นร้อยละ 2.37 เนื่องจากต้นทุนเงินฝากลดลง ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 10,672 ล้านบาท ลดลง 121 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.1 ส่วนใหญ่ลดลงที่กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิมีจำนวน 6,103 ล้านบาท ลดลง 134 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการ ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 12,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 710 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8
ด้านเงินกองทุน ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ในระดับที่ดีสามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งหากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2559 หักด้วยเงินปันผลที่จะจ่ายในเดือนพฤษภาคม 2559 รวมเข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.5 ร้อยละ 16.5 และร้อยละ 16.5 ตามลำดับ
ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 มีจำนวน 370,518 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.6 ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 194.11 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4.55 บาท จากสิ้นปี 2558
Bangkok Bank reports first quarter 2016 net profit of Baht 8.3 billion
Bangkok Bank and its subsidiaries have reported a consolidated net profit of Baht 8.3 billion for the first quarter of 2016, compared to Baht 7.7 billion from the fourth quarter of 2015. Net interest income rose by Baht 417 million or 2.7 percent to Baht 16.0 billion. Non-interest income declined by Baht 121 million or 1.1 percent to Baht 10.7 billion, while operating expenses increased by Baht 710 million or 5.8 percent to Baht 12.9 billion.
In the first quarter of 2016, the Thai economy gradually recovered due to well-disbursed public spending and continued tourism growth. However, private consumption remained subdued by the decline in farm income coupled with the impact of the drought on crop yields and ongoing high levels of household debt. In terms of private investment, some industries continued to grow, but at relatively low rates as exports of goods (excluding gold) continued to contract in line with the slower growth in trading partners’ economies, particularly China, and export prices continue to fall in accordance with lower global commodity prices. Against this backdrop, the Bank’s loans at the end of March 2016 amounted to Baht 1,874.9 billion, an increase of Baht 6.0 billion or 0.3 percent from the end of 2015, with growth in lending to medium-sized and small businesses, and in loans made through the Bank’s international network.
The slow economic recovery impacted the solvency of businesses and households. At the end of March 2016, the Bank’s non-performing loans (NPLs) were Baht 61.8 billion and the ratio of NPLs to total loans was 2.9 percent. However, the Bank continued to focus on effective risk management to ensure its loan quality remained at appropriate levels, staying close to its customers and providing them with relevant advice and assistance.
The Bank continued its prudent strategic approach by consistently setting aside provisioning expenses. In the first quarter of 2016, these amounted to Baht 3.6 billion, representing a ratio of loan loss reserves to total loans of 5.8 percent.
The Bank also maintained its focus on managing liquidity and financial costs to ensure they are at appropriate levels. At the end of March 2016, the Bank reported total deposits of Baht 2,149.3 billion, an increase of Baht 58.4 billion or 2.8 percent from the end of 2015. The loan-to-deposit ratio was 87.2 percent, compared with 89.4 percent at the end of the previous year.
The Bank reported a net profit for the first quarter of 2016 of Baht 8.3 billion, an increase of Baht 636 million or 8.3 percent from the fourth quarter of 2015. Net interest income rose by Baht 417 million or 2.7 percent to Baht 16.0 billion, and net interest margin increased by 0.04 percent to 2.37 percent due to lower cost of deposits. Non-interest income was Baht 10.7 billion, a decrease of Baht 121 million or 1.1 percent, due largely to the decline in gains on disposal of assets. Net fees and service income amounted to Baht 6.1 billion, a decrease of Baht 134 million or 2.1 percent, due to the increase in fees and service expenses, while fees income was at a similar level to the previous quarter. The Bank’s operating expenses were Baht 12.9 billion, an increase of Baht 710 million or 5.8 percent.
The Bank maintained a strong level of capital reserves to support future business expansion. After the inclusion of net profit for the six months from July to December 2015 and net profit for the three months from January to March 2016, minus the dividend payment in May 2016, the total capital adequacy ratio, Tier 1 capital ratio and common equity Tier 1 ratio of the Bank and its subsidiaries would be approximately 18.5 percent, 16.5 percent and 16.5 percent, respectively.
Shareholders’ equity as of March 31, 2016 amounted to Baht 370.5 billion, equivalent to 12.6 percent of total assets. The book value per share was Baht 194.11, an increase of Baht 4.55 from the end of 2015.