- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 29 November 2015 08:27
- Hits: 1645
กลุ่มซีไอเอ็มบี ประกาศกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปี 2558จำนวน 2,024 ล้านริงกิต
รายได้จากการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2558 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.4 %ประกอบกับความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่าย ส่งผลให้กลุ่มฯมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.4 %
กลุ่มฯสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิจากไตรมาสก่อน โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2558 เพิ่มขึ้น 2.9 % สืบเนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และสำรองหนี้สูญที่ลดลง (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง)ครงการบริหารค่าใช้จ่ายของกลุ่มฯเริ่มเห็นผลลัพธ์ในไตรมาส 3ปี 2558 อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นงวด 9 เดือนแรกปี 2558 คำนวณเป็นอัตราส่วนเต็มปีเท่ากับ 8.8%(ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง)
หากไม่คำนึงถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน สินเชื่อของกลุ่มฯ เติบโตจากปีก่อน 10.7 % และเงินฝากเติบโต 10.0 %
เต็งกู ดาโต๊ะ ซาฟรูล์ เต็งกู อับดุล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี ได้เปิดเผยถึง ซีไอเอ็มบี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เบอร์ฮาด (“กลุ่มซีไอเอ็มบี”) มีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 จำนวน 2,024 ล้านริงกิต โดยมีกำไรต่อหุ้น 23.9 เซ็น และหากไม่รวมรายการพิเศษค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง และโครงการ Mutual Separation Scheme (MSS) ทางกลุ่มฯ จะมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.4 % โดยสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดี
ทั้งนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบี ฯ มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยสุทธิจากการดำเนินธุรกิจปกติคำนวณเป็นอัตราส่วนเต็มปีที่ร้อยละ 8.8 โดยในไตรมาส 3 ปี 2558 กลุ่มฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจปกติที่ 902 ล้านริงกิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 2.9
“กลุ่มฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในแต่ละไตรมาส แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความท้าทายทางเศรษฐกิจ ย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จในการทบทวนแผนธุรกิจและการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างจริงจังของกลุ่ม ซึ่งจะเห็นได้จากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.4 และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา “เต็งกรู ดาโต๊ะ ซาฟรูล์ กล่าว
นอกจากนี้ สำหรับแผนปรับการบริหารค่าใช้จ่ายเชิงโครงสร้างโดยปรับปรุงการดำเนินธุรกิจวาณิชธนกิจนอกภูมิภาคอาเซียน และโครงการ MSS ในมาเลเซียและอินโดนีเซียแล้ว ทางกลุ่มฯ ยังได้ปรับปรุงกระบวนการต่างๆ และเพิ่มการใช้งานระบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยกลุ่มฯจะดำเนินการผลักดันการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องต่อไป และในส่วนของหน่วยงานธุรกิจ เราได้เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดหวังจากกลยุทธ์ธุรกิจที่วางไว้โดยกลุ่มฯ ได้รับการตอบรับที่ดีในการดำเนินธุรกิจลูกค้าผู้บริโภคและลูกค้าพาณิชย์จากทั่วทั้งภูมิภาค
เต็งกรู ดาโต๊ะ ซาฟรูล์ ยังกล่าวอีกว่า ในปี 2558 นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจทางการเงิน การดำเนินธุรกิจในมาเลเซียของกลุ่มมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจ แม้จะประสบกับสภาวะยากลำบากบ้างอย่างไรก็ตาม กลุ่มฯ ตระหนักดีว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโตได้ไม่มากนักและการใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศจะยังคงหดตัวสำหรับธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ แม้จะมีมาตรการกำกับดูแลธุรกิจนี้อย่างเข้มงวด ทางกลุ่มฯ ยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้ดี โดยอาศัยระบบธุรกิจที่มีการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไนอาก้า มีพลวัตรในการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยต้องเน้นด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่อไปในส่วนของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยยังคงเป็นเรื่องท้าทายจากสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันอย่างไรก็ตามกลุ่มฯ ยังคงให้การสนับสนุนแก่ซีไอเอ็มบี ไทย ตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวต่อไป
“เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กลุ่มซีไอเอ็มบี ได้ริเริ่มแผนทบทวนเป้าและเกณฑ์ต่างๆ สำหรับ3 ปีข้างหน้า หรือT18Recalibration ซึ่งส่งผลให้กลุ่มฯ มีสถานะที่มีศักยภาพ ทั้งในแง่ของการปรับเชิงโครงสร้างและการบริหารค่าใช้จ่าย เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่จะผ่านเข้ามาแม้ว่ากลุ่มฯยังคงต้องติดตามวัดผลของกลยุทธ์การเติบโตท่ามกลางสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและตลาดทุนของภูมิภาคที่อ่อนแอลง กลุ่มฯ เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ T18 จะยังคงสามารถช่วยสร้างผลลัพธ์ตามที่กำหนดไว้ได้” เต็งกู ซาฟรูล์ กล่าวในที่สุด
CIMB Group announces RM2,024million Net Profit for 9M15
8.4% Y-o-Y growth in 9M15 operating income coupled with well contained operating expenses brought about a pre-provision operating profit growth of 12.4% Y-o-Y
Continued stresses in Indonesia resulted in increased provisions, impacting the 9M15 net profit
Sustained Q-o-Q growth momentum with 3Q15 net profit improving 2.9% from higher operating income and lower provisions, excluding restructuring costs
Benefits of cost management initiatives starting to show results from 3Q15
9M15 annualised ROE stood at 8.8% excluding restructuring costs
Excluding FX fluctuations,9M15 loan growth was 10.7% Y-o-Y, with deposits increasing 10.0%
CIMB Group Holdings Berhad (“CIMB Group” or the “Group”) today reported a net profit of RM2,024million for 9 months 2015 (“9M15”), equivalent to a net earnings per share (“EPS”) of 23.9sen.The Group saw a 8.4% year-on-year (“Y-o-Y”) expansion in 9M15 operating income with well contained operating expenses, although increased Y-o-Y provisions brought about the 11.9% Y-o-Y reduction in the Business As Usual (“BAU”) 9M15 net profit, after excluding exceptional expenses from restructuring and the Mutual Separation Scheme (“MSS”).
The Group’s annualised BAU 9M15 net return on average equity (“ROE”) was 8.8%. For the third quarter of 2015 (“3Q15”), the Group’s BAU net profit of RM902 million was 2.9% higher quarter-on-quarter(“Q-o-Q”).
"Our continued improvement in Q-o-Q performance, amidst the prevailing economic uncertainties and challenges, reaffirms our business recalibration and the Group’s seriousness in managing cost. This is reflected in our 8.4% Y-o-Y growth in operating income and containment of operating expenses over the period.
In addition to the structural cost alignment initiatives of streamlining the ex-ASEAN IB operations and the MSSin Malaysia and Indonesia, we have also improved processes and increased automation to increase efficiency. We will continue to push the cost management agenda further.
In terms of business segments, we are pleased to see the Group’s business strategies bearing results, with our Consumer and Commercial Banking operations gaining good traction across the region."," said TengkuDato’ Sri Zafrul Aziz, Group Chief Executive, CIMB Group.
“2015 is proving to be a challenging year for the financial services industry. Our Malaysia operations showed encouraging performance in difficult conditions, but we continue to be cognisant of moderating economic growth and tightening consumer spending. In Singapore, despite industry tightening measures, we continue to sustain positive growth momentum on the back of our cost-efficient business platform. CIMB Niaga in Indonesia continues to register momentum, and our key focus will be on asset quality. While prospects for our Thai operations are challenging in the prevailing economic environment, we remain committed in view of the long-term strategic prospects.
We have embarked on our three-year T18 recalibration initiatives early this year and as a result, the Group is well positioned from a structural alignment and cost management perspective to face the prevailing headwinds. While our growth strategy continues to be measured and considered in an environment of weaker regional economies and capital markets, we remain confident that our T18 strategy will continue to deliver results we set out to achieve”, concluded TengkuZafrul.