WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TiscoOranuchกลุ่มทิสโก้ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 58 กำไรลดลง ร้อยละ 25.6

    นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs.Oranuch Apisaksirikul, Group Chief Executive) เปิดเผยว่า  กลุ่มทิสโก้ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2558  มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน จำนวน 810 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ไตรมาสนี้ได้มีการตั้งสำรองในส่วนของ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) และบริษัทย่อย สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (SSI UK) ครบ 100% ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

   “ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2558 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) จึงปรับประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลงมา จาก 3.0% มาอยู่ที่ 2.7% อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังคงมีปัจจัยด้านบวก คือ ภาคการท่องเที่ยวที่อาจฟื้นตัวเร็วกว่าคาด รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่รัฐบาลเตรียมนำออกมาใช้เร็วๆ นี้

    ขณะที่ในส่วนของการตั้งสำรองหนี้ของบมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) และบริษัทย่อย ซึ่งทิสโก้ได้ทำการตั้งสำรองให้ครบเต็มจำนวนในไตรมาสนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของทิสโก้บ้าง แต่ไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากเราได้ทำการกันสำรองไปก่อนหน้านี้แล้ว  ประกอบกับผลการดำเนินงานในด้านอื่นๆ ที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียม และคุณภาพสินทรัพย์ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อที่มีแนวโน้มดีขึ้น จึงทำให้ผลการดำเนินงานของทิสโก้ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังคงมีฐานะเงินกองทุนในระดับที่แข็งแกร่ง”

    สำหรับ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 ทิสโก้ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โดยมุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มช่องทางการขายและการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์  และการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายโอกาสธุรกิจผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้แก่กลุ่มทิสโก้ในระยะยาว

สรุปผลประกอบการ 

    กลุ่มทิสโก้มีผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2558 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิลดลง ร้อยละ 25.6 มาอยู่ที่ 810 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเป็นผลมาจากการตั้งสำรองพิเศษ อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 จากการบริหารต้นทุนเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนหน้า โดยในไตรมาสนี้ แม้ว่ารายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์จะอ่อนตัวลงตามปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯที่ลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจจัดการกองทุนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการขยายฐานลูกค้าและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตามความต้องการของตลาด  นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวลดลงร้อยละ 35.5 ตามการบริหารและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 22.7

สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 มีจำนวน 237,259.74 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.8 จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการตัดหนี้สูญของบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (SSI UK)  ภายหลังจากการตั้งสำรองเต็ม 100% ทั้งจำนวนตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  ในขณะเดียวกัน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ยังคงอ่อนตัวตามการปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลย์ของตลาดรถยนต์ภายหลังจากมาตรการรถคันแรก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้น 2 – 3 ปี หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.86 เป็นร้อยละ 3.30 จากการจัดชั้นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) (ประเทศไทย) จำนวน 821 ล้านบาท ซึ่งมีการตั้งสำรองเต็มโดยหักหลักประกันตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดทั้งปี โดยประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง  (BIS Ratio) สำหรับสิ้นไตรมาส อยู่ที่ร้อยละ 17.92  สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำร้อยละ 8.50 ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 13.88 และร้อยละ 4.04 ตามลำดับ

กลุ่มทิสโก้ประกาศผลประกอบการไตรมาส ปี 58 กำไรลดลง ร้อยละ 25.6

 

.. 58 – นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, Group Chief Executive) เปิดเผยว่า  กลุ่มทิสโก้ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส ปี 2558  มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน จำนวน 810 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน  หลังจากที่ไตรมาสนี้ได้มีการตั้งสำรองในส่วนของ  บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) และบริษัทย่อย สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (SSI UK) ครบ 100% ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

            “ในช่วงไตรมาส ปี 2558 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) จึงปรับประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลงมา จาก 3.0% มาอยู่ที่ 2.7% อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังคงมีปัจจัยด้านบวก คือ ภาคการท่องเที่ยวที่อาจฟื้นตัวเร็วกว่าคาด รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่รัฐบาลเตรียมนำออกมาใช้เร็วๆ นี้

            ขณะที่ในส่วนของการตั้งสำรองหนี้ของบมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) และบริษัทย่อย ซึ่งทิสโก้ได้ทำการตั้งสำรองให้ครบเต็มจำนวนในไตรมาสนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของทิสโก้บ้าง แต่ไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากเราได้ทำการกันสำรองไปก่อนหน้านี้แล้ว  ประกอบกับผลการดำเนินงานในด้านอื่น ๆ ที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียม และคุณภาพสินทรัพย์ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อที่มีแนวโน้มดีขึ้น จึงทำให้ผลการดำเนินงานของทิสโก้ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังคงมีฐานะเงินกองทุนในระดับที่แข็งแกร่ง”

            สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 ทิสโก้ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โดยมุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มช่องทางการขายและการตลาด  การพัฒนาผลิตภัณฑ์  และการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายโอกาสธุรกิจผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้แก่กลุ่มทิสโก้ในระยะยาว

สรุปผลประกอบการ 

            กลุ่มทิสโก้มีผลการดำเนินงานไตรมาสปี 2558 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิลดลง ร้อยละ 25.6 มาอยู่ที่ 810 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเป็นผลมาจากการตั้งสำรองพิเศษ อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 จากการบริหารต้นทุนเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนหน้า โดยในไตรมาสนี้ แม้ว่ารายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์จะอ่อนตัวลงตามปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯที่ลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจจัดการกองทุนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการขยายฐานลูกค้าและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตามความต้องการของตลาด  นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวลดลงร้อยละ 35.5 ตามการบริหารและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 22.7

สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 มีจำนวน 237,259.74 ล้านบาท ลดลงร้อยละ4.8 จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการตัดหนี้สูญของบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (SSI UK)  ภายหลังจากการตั้งสำรองเต็ม 100ทั้งจำนวนตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  ในขณะเดียวกัน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ยังคงอ่อนตัวตามการปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลย์ของตลาดรถยนต์ภายหลังจากมาตรการรถคันแรก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้น 2 – 3 ปี หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.86 เป็นร้อยละ 3.30 จากการจัดชั้นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) (ประเทศไทย) จำนวน 821 ล้านบาท ซึ่งมีการตั้งสำรองเต็มโดยหักหลักประกันตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดทั้งปี โดยประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง  (BIS Ratio) สำหรับสิ้นไตรมาส อยู่ที่ร้อยละ 17.92  สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ้อยละ 8.50 ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ และชั้นที่ ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 13.88 และร้อยละ4.04 ตามลำดับ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!