- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 14 September 2015 14:22
- Hits: 5546
ออมสิน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ ร่วมปฏิบัติการ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยฯ
ได้มีพิธีเปิดปฏิบัติการ ‘มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ’ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่ง ธนาคารออมสิน ในฐานะหน่วยงานหลักที่รัฐบาลได้มอบหมายให้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนมาตรการนี้ ได้เข้าร่วมงานนี้ นำโดย นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้าง ที่จะร่วมผลักดันมาตรการของรัฐบาลให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในช่วงชะลอตัว ทำให้รัฐบาลได้เร่งออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นหลากหลายรูปแบบ โดยมาตรการช่วยเหลือในส่วนของภาคประชาชน ธนาคารออมสิน ได้มีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดัน มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันนี้ เป็นโครงการสำคัญที่ธนาคารออมสินได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี คือ โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ผลักดันเงินกองทุนนี้ภายใต้มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน ด้วยการคัดเลือกหมู่บ้านที่มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านเกรด A และ เกรด B ได้รับเงินหมุนเวียนเพิ่มเติมอีกหมู่บ้านละ ไม่เกิน 1 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน อัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่ต้องนำเม็ดเงินไปใช้อย่างคุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือย มีแผนงานโครงการชัดเจน ตรวจสอบได้ ซึ่งจะทำให้กองทุนหมู่บ้านในระดับนี้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน ได้พิจารณากองทุนหมู่บ้านที่เป็นฐานลูกค้าเดิมเกรด A และ B เบื้องต้นมีความพร้อมที่ธนาคารฯ ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน ณ วันที่ 14 กันยายน 2558 จำนวน 8,441 กองทุน วงเงิน 8,441 ล้านบาท จากเป้าหมาย 30,000 กองทุน วงเงิน 30,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายนจะสามารถอนุมัติวงเงินได้รวมแล้ว 15,000 กองทุน ซึ่งขณะนี้ผู้บริหารธนาคารออมสิน พนักงาน สาขาของธนาคารฯ ได้ทำงานร่วมกันกับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ และสมาชิก อย่างเต็มความสามารถ ทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบโดยเร็ว โดยจะทยอยจัดประชุมซักซ้อมความเข้าใจ ในแต่ละภูมิภาคเป็นรายเดือนพร้อมเปิดให้สมัครยื่นคำขอกู้เงินควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ ประสบความสำเร็จโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม หลักการกองทุนหมู่บ้าน 8,441 แห่ง ที่ธนาคารออมสินอนุมัติสินเชื่อแล้วสามารถติดต่อสาขาในพื้นที่ได้ทันที ซึ่งธนาคารออมสินจะปล่อยสินเชื่อให้กับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) และให้ สทบ. ส่งรายชื่อแต่ละกองทุนหมู่บ้านเพื่อให้ธนาคารออมสินโอนเงินโดยตรง สำหรับกองทุนหมู่บ้านฯ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวนั้น สทบ.เน้นไปที่ 59,850 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนเกรด A จำนวน 21,000 กองทุน และเกรด B อีก 38,000 กองทุน วัตถุประสงค์หลักในการใช้สินเชื่อเน้นส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ทั้งในลักษณะรายบุคคล และรายกลุ่ม (Cluster) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงในแต่ละพื้นที่
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานรากโครงการสำคัญ คือ มาตรการการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ระยะเร่งด่วน รวม 5 มาตรการ โดยธนาคารออมสินเข้าไปมีบทบาทในส่วนของ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs ช่วยเสริมสภาพคล่องให้ SMEs
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่อัตรา ร้อยละ 0.1 ต่อปี และธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาให้สินเชื่อ 7 ปี วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท และรัฐบาลชดเชยส่วนต่าง อัตราดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารออมสิน โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ทั้งนี้ ธนาคารออมสินยังมีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยใช้วงเงินจากโครงการนี้ ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือชาวประมง “ประมงไทยก้าวไกลสู่สากล” โครงการสินเชื่อ SMEs เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการประหยัดพลังงาน โครงการสินเชื่อ SMEs เพื่อธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ โครงการสินเชื่อ SMEs เพื่อผู้รับเหมางานภาครัฐ และโครงการสินเชื่อ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่อง ซึ่งธนาคารอมสินจะเร่งเปิดให้บริการโดยเร็วต่อไป
“สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้เชิญผู้แทนจากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินของรัฐที่สนใจเข้าร่วมโครงการมารับทราบรายละเอียด เงื่อนไข วิธีปฏิบัติ ซักซ้อมความเข้าใจ ซึ่งธนาคารออมสินพร้อมที่จะเริ่มปล่อยกู้ได้ หลังจากนี้จะทำหนังสือเชิญผู้บริหารแต่ละสถาบันการเงินเพื่อร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง MOU) ในงานเปิดแผนปฏิบัติการเอสเอ็มอีอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กันยายนที่เมืองทองธานี ซึ่งจะมีกระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพ” นายชาติชาย กล่าว
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ในฐานะสถาบันการเงินเป็นแหล่งทุนสำหรับเศรษฐกิจฐานรากนั้น มีความคืบหน้าในภารกิจดังกล่าวตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ โดยโครงการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการให้สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน 4 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อประชาชนสุขใจ สินเชื่อออมสุขใจ สินเชื่อรายได้ประจำสุขใจ และสินเชื่อคืนความสุข โดยในภาพรวมของสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนช่วงระหว่างเดือนมกราคม - สิงหาคม 2558 ธนาคารฯ ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวนกว่า 200,000 ราย คิดเป็นเงิน 19,534.63 ล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงเหลือ (ณ 31 สิงหาคม 2558) อยู่ที่ 970,412 ราย คิดเป็นเงิน 68,205 ล้านบาท โดยที่ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้สามารถทำให้ประชาชนในระดับผู้มีรายได้น้อยได้รับเงินกู้ในโครงการนี้เพื่อไปประกอบอาชีพ หารายได้เพิ่มได้แล้วรวมจำนวนทั้งสิ้นถึง 4,130,760 ราย คิดเป็นเม็ดเงินจำนวน 235,722 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าธนาคารออมสินที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ภาระหนี้ครัวเรือน และภัยธรรมชาติ ด้วยการพักชำระเงินต้น สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้รวมไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งเปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 เมษายน – 31 กรกฎาคม 2558 ปรากฏว่า มีลูกค้าสนใจลงทะเบียน 94,359 ราย คิดเป็นเงิน 43,963 ล้านบาท ซึ่งธนาคารฯ ได้ทยอยอนุมัติไปแล้วรวม 30,471 ราย คิดเป็นเงิน 14,503 ล้านบาท
“ธนาคารออมสิน ตระหนักเป็นอย่างดีว่า ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อฟันเฟืองของระบบเศรษฐกิจ ต้องได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างถูกวิธีในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ซึ่งธนาคารออมสินจะไม่หยุดนิ่งที่จะนำเสนอรูปแบบวิธีการที่จะช่วยบรรเทาภาวะนี้ให้คลี่คลายไปได้ด้วยดี” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ตามสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารออมสินทุกช่องทาง ได้แก่ Website : www.gsb.or.th, Facebook : GSB Society, Official Line : GSB ธนาคารออมสิน หรือหากมีข้อสงสัย ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ สามารถสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน Call Center โทร.1115 หรือ MyMo Call Center โทร.1143