- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 12 August 2015 12:00
- Hits: 4638
TISCO มั่นใจรายได้-กำไร ครึ่งหลังปี 58 โตใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ส่วน NPL สิ้นปีนี้ไม่เกินจากระดับปัจจุบันที่ 2.9%
TISCO มั่นใจรายได้-กำไร ครึ่งหลังปี 58 โตใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก คาด NPL สิ้นปีนี้จะไม่เกินจากระดับปัจจุบันที่ 2.9% ชี้แม้สินเชื่อชะลอตัวแต่มีรายได้จากเป็นนายหน้าขายประกัน-ธุรกิจจัดการกองทุนช่วยพยุง ประเมินตลาดรถยนต์จะฟื้นตัวในปี 60 หลังที่ผ่านมาเจอพิษโครงการรถคันแรกเล่นงาน
นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยง ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ธนาคารคาดว่ารายได้จะเติบโตใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่เติบโต 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับกำไรที่จะเติบโตได้ใกล้เคียงครึ่งปีแรกที่ 14% หรือที่ 2,196 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นเดียวกัน
สำหรับ การเติบโตของสินเชื่อรวมปีนี้ ธนาคารมองว่าจะติดลบไม่เกิน 10% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะติดลบไปแล้ว 5% เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้อย่างช้าๆ นอกจากนี้ธนาคารมีแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ในปีนี้ธนาคารจะควบคุมไม่ให้เกินที่ระดับ 2.9% ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันที่ 2.9%
อย่างไรก็ตาม รายได้และกำไรที่เติบโตได้ แม้สินเชื่อจะชะลอตัว เนื่องจากมีรายได้จากเป็นนายหน้าขายประกันผ่านธนาคาร และรายได้จากการบริหารธุรกิจจัดการกองทุน ที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงก็ตาม
“ปัจจุบันกองทุนฯยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังอัตราดอกเบี้ยปรับลดต่ำลง ส่งผลให้มีการโยกย้ายเงินฝากมายังการลงทุนในกองทุนฯมากขึ้น”นายชาตรี กล่าว
ส่วนภาพรวมตลาดรถยนต์นั้น ธนาคารประเมินว่าตลาดรถยนต์จะเริ่มกลับมาขยายตัวได้ในปี 60-61 หลังจากได้รับผลกระทบจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาล ส่งผลให้ปัจจุบันความต้องการสินเชื่อรถยนต์ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการเปลี่ยนรถยนต์จะต้องใช้ระยะเวลา 5-6 ปี ดังนั้นจึงมองว่าภาพรวมตลาดรถยนต์จะเริ่มฟื้นตัวในปีดังกล่าว
“ในช่วงปี 54-55 ยอดขายรถพุ่งทะลุไปถึง 1.3-1.4 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าช่วงปกติที่ 800,000 คัน ดังนั้นส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ถูกใช้ไปก่อนหน้าถึง 700,000 คัน ส่งผลให้ในช่วงปีนี้และปีหน้าสินเชื่อรถยนต์จึงยังชะลอตัวลง แต่ไม่ได้ผิดปกติอะไร เนื่องจากความต้องการได้ถูกใช้ไปแล้ว และคนที่จะต้องซื้อรถใหม่ก็ต้องใช้ระยะเวลาถึง 5-6 ปี”นายชาตรี กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย