- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 09 August 2015 07:56
- Hits: 3661
กสิกรไทยหนุนศักยภาพผู้ประกอบการไทยลุยตลาดอีคอมเมิร์ซ
ธนาคารกสิกรไทย เผยมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตก้าวกระโดดกว่า 20% มีผู้ประกอบการแข่งขันกว่า 500,000 ราย หนุนผู้ประกอบการไทยลุยตลาด ดึงพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศและในภูมิภาคจัดงานสัมมนา'รุกธุรกิจไร้พรมแดนบน Digital Platform กับ KBank'เปิดมุมมองต่อยอดการแข่งขัน และเพิ่มศักยภาพธุรกรรมการเงินของธุรกิจด้วยดิจิตอล แพลทฟอร์มที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี ปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียล มีเดีย เว็บไซต์ และออนไลน์ มาร์เก็ต เพลส อยู่ประมาณ 500,000 ราย และมีคนไทยซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 14.87 ล้านคน คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ.2558 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในส่วนของการซื้อขายตรงไปยังผู้บริโภคจะมีสูงถึง 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่ส่งต่อการเติบโตของอีคอมเมิร์ซเป็นผลมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต จำนวนการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงระบบชำระเงินออนไลน์ที่พัฒนาไปอย่างมาก
“ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะผู้นำดิจิตอลแบงกิ้ง เห็นความสำคัญของผู้ประกอบการไทย ซึ่งเป็นเหมือนฟันเฟืองในระบบอีคอมเมิร์ซที่ธนาคารมุ่งมั่นสนับสนุนให้เติบโตอย่างมั่นคง จึงได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในตลาดอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มต่างๆ และเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือที่ได้ริเริ่มไว้กับอาลีบาบาดอทคอมในปีที่ผ่านมาในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดอีคอมเมิรซ์ในจีน อีกทั้งยังมีการร่วมมือกับอะลีเพย์และคิงพาวเวอร์อินเตอร์เนชั่นนอล เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนมาสามารถเลือกซื้อสินค้าดิวตี้ฟรีล่วงหน้าได้ และในเดือนสิงหาคมนี้ ธนาคารจึงได้ร่วมกับพันธมิตรจัดงานสัมมนา'รุกธุรกิจไร้พรมแดนบน Digital Platform กับ KBank'ให้เห็นภาพระบบนิเวศทางอีคอมเมิร์ซ หรือ e-Commerce Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเห็นทุกมิติจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การทำการตลาด การขายและการจัดส่งสินค้า ตลอดจนการบริหารเงินทุนหมุนเวียนผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการดำเนินการธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้อย่างมั่นคงปลอดภัย ตอบรับกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับทั้งผู้ประกอบการและมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ”
งานสัมมนา 'รุกธุรกิจไร้พรมแดนบน Digital Platform กับ KBank'” เป็นการเสวนาจากผู้แทนจากอาลีบาบาดอทคอม ที่ให้รายละเอียดภาพรวมและแนวโน้มธุรกิจอีคอมเมิร์ซในระดับโลก และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จประกอบไปด้วย รากูเต็น ตลาดดอทคอม (Rakuten talad.com) , แกร็บแท็กซี่ (Grab Taxi), ไทย เอ้า ฉี ฟรุ๊ตส์ (Thai Ao Chi) และกลุ่มธุรกิจสนับสนุน ได้แก่ เรดดี้แพลนเน็ต (Ready Planet), ชิปยัวส์ดอทคอม (Ship Yours), ยูไนเต็ดไทยโลจิสติกส์ (United Thai Logistic), เฟซบุ๊ก (Facebook), และกูเกิล (Google) มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแสวงหาโอกาส และการขยายตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ประสบความสำเร็จ
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังเร่งพัฒนาช่องทางดิจิตอล ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์หลักของธนาคารฯ เพราะเป็นช่องทางที่มีศักยภาพสูงมากในการสร้างนวัตกรรมการให้บริการต่างๆ ในรูปแบบใหม่ และเพื่อรองรับการใช้งานที่จะทวีปริมาณมากขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต ธนาคารฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างระบบไอทีหลักให้ทันสมัยขึ้น
ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้คล่องตัวยิ่งขึ้นบน ดิจิตอลแพลตฟอร์ม ได้แก่ บริการ K-Mobile Banking Plus และ K-Cyber Banking ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งาน Internet and Mobile banking ของธนาคารกสิกรไทยมีมากกว่า 7.2 ล้านราย (ข้อมูล ณ เดือนมิ.ย. 2558) บริการ K-Power Pay ที่ช่วยให้การรับชำระบัตรเครดิตสะดวกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านบริการ K-Power Pay แล้วกว่า 21,000 ราย มีธุรกรรมหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงบริการ K-Payment Gateway ที่มีประมาณธุรกรรมเฉลี่ย 83,000 ล้านบาทต่อปี
“การเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจของไทย และการพัฒนาเครื่องมือบนดิจิตอลแพลตฟอร์มให้รองรับ และอำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะทำให้ทุกภาคส่วนพร้อมรับสถานการณ์ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล และจะช่วยผลักดันให้แนวโน้มธุรกิจดิจิตอลมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายปกรณ์ กล่าวสรุป
KBank enhances Thai companies’ potential in e-Commerce market
KASIKORNBANK reports a 20-percent surge in Thailand’s e-Commerce market wherein more than 500,000 players are present, and announces an initiative to provide support for Thai entrepreneurs by collaborating with national and regional partners in the “Borderless Business on Digital Platform with KBank” seminar, aimed at enhancing competitiveness and fortifying potential in digital financial transactions, covering upstream-to-downstream processes.
Mr. Pakorn Partanapat, KASIKORNBANK Senior Executive Vice President, said that over the past three years e-Commerce in Thailand has grown to about 500,000 businesses, expanding more than 20.0 percent annually through various channels, e.g., social media, websites and online marketplaces, while 14.87 million Thai consumers have bought products online. The value of the direct-to-consumer e-Commerce market is expected to reach 220 billion Baht in 2015. Technology advancement, internet access, rising smartphone use and sophisticated online payment systems are all believed to be conducive to e-Commerce growth.
“KASIKORNBANK, as the leading digital bank, regards Thai business operators as important drivers of the e-Commerce system, and KBank is determined to provide full support for their sustainable growth. KBank has been forming alliances with national and international partners, who have specialization and have been successful in the e-Commerce market via various platforms. The initiatives stem from the success of the collaboration between KBank and Alibaba.com that started last year, providing support for Thai businesses wishing to venture into the Chinese e-Commerce market. KBank also collaborates with Alipay and King Power International in facilitating online duty-free shopping for Chinese tourists, prior to picking up their orders. In August, KBank and partners are organizing the “Borderless Business on Digital Platform with KBank” seminar, aimed at demonstrating a fortified e-Commerce ecosystem and allowing participants to observe all activities in upstream to downstream processes — from marketing, sales and distribution to managing capital flows via online channels. The seminar will provide businesses knowledge to establish a secure e-Commerce venture so they can withstand more intense competition, and create exponential value growth for entrepreneurs and economic value for the country,” said Mr. Pakorn.
Speakers at the “Borderless Business on Digital Platform with KBank” seminar include representatives from Alibaba.com, who will offer an overview of e-Commerce and the global outlook on online trade, as well as major factors that are conducive to a successful e-Commerce business. Other speakers are from outstanding online traders including Rakuten TARAD.com, GrabTaxi, Thai Ao Chi Fruits, and service providers, e.g., ReadyPlanet, Shipyours, United Thai Logistics, Facebook and Google, who will share information about exploring business opportunities and lucrative e-Commerce business expansion.
Mr. Pakorn also said that KBank is immersed in developing the digital channel, a main part of the Bank’s strategies, since this is a high-potential platform that will lead to even more substantial innovations facilitating brand-new services. In order to accommodate rising numbers of customers in the future, KBank recently launched a new core banking system that is superlatively advanced.
KBank is equipped with advantageous tools for e-Commerce businesses on digital platform, naming K-Mobile Banking PLUS and K-Cyber Banking, with more than 7.2 million internet and mobile banking users (as of June 2015). Moreover, K-PowerPay enables effortless credit card payments; at present, about 21,000 shops have adopted K-PowerPay, generating about 3 billion Baht of transactions each year. Furthermore, K-Payment Gateway secures an average of 83 billion Baht annually.
Mr. Pakorn added that facilitating readiness for the Thai business sector and developing tools on digital platform to accommodate e-Commerce businesses will enhance all sectors to be prepared for any circumstance under the government’s digital economy policy, as well as promoting continuous growth for digital businesses.