WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Kbank ปรด ดาวฉายกสิกรไทย มั่นใจ หลังปรับไอที 17-19 ก.ค.บริการดีขึ้น

      กสิกรไทยแนะลูกค้าสำรองเงินสดไว้ใช้จ่ายช่วงธนาคารปิดปรับปรุงระบบไอทีเสาร์-อาทิตย์นี้ เผยลูกค้ายังใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ตามปกติ มั่นใจระบบใหม่ช่วยพัฒนาบริการรองรับลูกค้ายุคสังคมดิจิตอล15 ล้านบัญชี

      นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การปรับปรุงระบบไอทีหลักของธนาคารกสิกรไทยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการของธนาคารให้ดียิ่งขึ้น สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าบัญชีเงินฝากจำนวนประมาณ 15 ล้านบัญชี รวมทั้งการทำธุรกรรมผ่านธนาคารฯ ซึ่งมีปริมาณขยายตัวต่อเนื่อง และด้วยเทคโนโลยีของระบบที่ทันสมัยขึ้นจะช่วยสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมบริการใหม่ ๆ ได้ดีขึ้นด้วย

     ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะมีการปรับปรุงระบบไอทีหลักของธนาคารฯ ตั้งแต่ เวลา 22.00 น.ของวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2558 ถึงเวลา 22.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2558 ใช้เวลารวมไม่เกิน 48 ชม. โดยธนาคารฯ จะงดให้บริการและช่องทางต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว ยกเว้น บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยยังสามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ รวมทั้งร้านค้ารับบัตรเครดิตที่ใช้บริการเครื่อง EDC และ K-PowerP@y (mPOS) ของธนาคารกสิกรไทย ยังสามารถใช้เครื่องดังกล่าวรับชำระด้วยบัตรเครดิตของทุกธนาคารได้ตามปกติ

    เนื่องจากลูกค้าจะไม่สามารถใช้บริการ อาทิ ฝาก ถอน โอนเงินเข้าและออกจากบัญชีธนาคาร กสิกรไทยในช่วงเวลาดังกล่าวได้ ดังนั้น จึงขอความกรุณาลูกค้าจัดเตรียมเงินสดให้เพียงพอสำหรับใช้จ่ายส่วนตัวและธุรกิจในช่วงดังกล่าว รวมทั้งวางแผนทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคารไว้ล่วงหน้า โดยการปรับปรุงระบบครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบกับข้อมูลบัญชีของลูกค้า ลูกค้ายังสามารถใช้หมายเลขบัญชีเดิมได้ทุกกรณี และธนาคารฯ ยังคงคำนวณดอกเบี้ยต่อเนื่องให้กับลูกค้าทุกบัญชีตามปกติ

     หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center โทร. 0 2888 8888 และสำหรับลูกค้าธุรกิจสามารถสอบถามได้ที่ ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า (Relationship Manager) หรือ K-Biz Contact Centerโทร. 0 2888 8822

KBANK เผยจีดีพีปีนี้อาจโตแค่ 2.2% เหตุภาครัฐเบิกจ่ายล่าช้า จากเดิมคาดโต 2.8% - ส่งออกเสี่ยงติดลบมากกว่า 1.7%

     KBANK เผยจีดีพีปีนี้อาจโตแค่ 2.2% เหตุภาครัฐเบิกจ่ายล่าช้า จากเดิมคาดโต 2.8% ขณะที่ส่งออกมีโอกาสติดลบ 1.7% หากอียูคว่ำบาตรประมงไทย พร้อมปรับคาดการณ์ค่าเงินบาทปีนี้อ่อนค่าแตะ 34.50 บ./ดอลล์ จากเดิมคาด 34.25 บ./ดอลล์ ผลจากเฟดขึ้น ดบ.ในเดือน ก.ย. ส่วนดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดคงไว้ที่ 1.5% ถึงสิ้นปีนี้ เหตุเป็นระดับที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจ

    นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยปีนี้ อาจอยู่เพียงแค่ 2.2% ซึ่งเป็นกรอบล่างที่ธนาคารประเมินไว้ที่ 2.2-2.8% จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า โดยพบว่าในช่วง 8 เดือนมีการเบิกจ่ายเพียงแค่ 40% เท่านั้น

    "ปีนี้ ภาคการท่องเที่ยว และ การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะเป็นส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เป็นตามคาดการณ์ แต่ตอนนี้ใกล้ครบ 8 เดือน ภาครัฐยังเบิกจ่ายงบประมาณได้เพียงแค่ 40% จึงมีความเสี่ยงว่าจีดีพีจะเติบโตไม่ได้ตามที่คาดการณ์ โดยอาจโตได้แค่ 2.2% ซึ่งเป็นกรอบล่างที่ธนาคารมองไว้"

   นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านการส่งออก ที่อาจต่ำกว่าที่ประเมินไว้ว่าจะติดลบ 1.7% หากสหภาพยุโรปตัดสินใจคว่ำบาตรธุรกิจประมงของไทย

   สำหรับ ค่าเงินบาทสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 34.50 บาท อ่อนตัวลงจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.25 บาท หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเดือน ก.ย. ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยเชื่อว่า จะยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.5% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค นอกจากนี้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด อาจทำให้ค่าเงินมีความผันผวน ส่งผลให้คณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ยังไม่ตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

    "ดอกเบี้ยไทยมีความเหมาะสมแล้วในปัจจุบันจึงมองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องลดลงอีก เพราะมองว่านโยบายดอกเบี้ยไม่ใช่เครื่องมือในการช่วยเศรษฐกิจด้านเดียว โดยสิ่งที่มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า คือ การส่งออก แต่การกระตุ้นดอกเบี้ยส่งผลบวกในด้านตลาดเงินเท่านั้น"นายกอบสิทธิ์ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!