- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Saturday, 30 May 2015 17:01
- Hits: 2449
กสิกรไทย จับมือหอการค้าฯ โอซาก้าหนุนเอสเอ็มอีญี่ปุ่นลงทุนในไทย
กสิกรไทยจับมือหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซาก้า หวังสร้างความแข็งแกร่งด้านการค้าการลงทุนให้เอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น เน้นกิจกรรมจับคู่ทางการค้าและสัมมนาในต่างแดน คาดมีเม็ดเงินลงทุนสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาทภายใน 1 ปี
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้ลงนามความร่วมมือกับหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซาก้า ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญภายใต้ความดูแลของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ให้การสนับสนุนการขยายธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งให้เอสเอ็มอี โดยโอซาก้า นับเป็นศูนย์กลางทางการค้าและอุตสาหกรรมชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะประกอบด้วยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการจัดสัมมนาเพื่อสร้างประสบการณ์ความรู้ความร่วมมือในการทำธุรกิจการค้าระหว่างกัน
ทั้งนี้ เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซาก้าในการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ “Made in Japan Business Matching” ที่ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคาร ฯ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจากไทย ญี่ปุ่น และพม่า เกิดการจับคู่ธุรกิจถึง 60 คู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่คันไซ ซึ่งประกอบด้วยโอซาก้า และใกล้เคียงมีศักยภาพในการทำธุรกิจกับประเทศไทยสูง
ดังนั้น ความร่วมมือหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซาก้าครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งหอการค้าฯ จะเป็นผู้ประสานงาน และแนะนำให้ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรม โดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินก่อนอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งยังมีการจัดสัมมนาร่วมกับธนาคารพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อคัดเลือกลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยคาดว่าภายใน 1 ปี จะมีบริษัทที่ร่วมโครงการ 100 บริษัท มีมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท
ธนาคารกสิกรไทย มีเป้าหมายการเป็นธนาคารแห่งเออีซีบวกสาม เพื่อตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งมาจากการเปิดเสรีการค้าในภูมิภาคอาเซียน ที่ประเทศไทยจะเป็นประเทศเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญของภูมิภาค ส่งผลให้ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น โดยที่ธนาคารกสิกรไทยมีจุดแข็งในเรื่องเครือข่าย และเป็นธนาคารที่ดูแลลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนญี่ปุ่นสามารถเจรจาธุรกิจกับไทย และประเทศในกลุ่มเออีซีผ่านเครือข่ายพันธมิตรของธนาคารได้อย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบายไทยบวกหนึ่ง (Thailand Plus one) ของรัฐบาลญี่ปุ่น
ที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการลงนามความร่วมมือกับธนาคารท้องถิ่นญี่ปุ่น 27 แห่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบรวมกิจการ 1 แห่ง และองค์กรอื่นๆ อีก 7 แห่ง อีกทั้งมีทีมงานที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ 30 คน และพนักงานของธนาคารพันธมิตร 24 คนที่มาศึกษางานในธนาคารกสิกรไทย นอกจากนี้ยังมีบริการ Japanese Friendly Branch, Call Center, ATM และเอกสารต่างๆ สำหรับลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นในปีที่ผ่านมา ธนาคารฯ ได้จับคู่ทางธุรกิจให้กับลูกค้าญี่ปุ่น 446 คู่ โดยมีธุรกรรมที่เกิดขึ้นจริง 215 คู่ ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นประมาณ 3,300 ราย และมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 14%
ด้าน มร.ซูโทมุ มิยากิ ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซาก้า เปิดเผยว่า ประเทศญี่ปุ่นได้เผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการขยายธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปยังต่างประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนในด้านการค้า การลงทุนและเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางธุรกิจ หอการค้าฯ โอซาก้าในฐานะองค์กรในการขับเคลื่อนธุรกิจได้ตอบสนองนโยบายภาครัฐและได้สร้างเครือข่ายธุรกิจ และเพื่อเป็นการสนับสนุนการขยายตัวของบริษัทญี่ปุ่นในไทย จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประจำการที่หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้ตอบโจทย์ในการให้การสนับสนุนด้านการเงินสำหรับเอสเอ็มอีในประเทศ อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรที่ให้การสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เอสเอ็มอีญี่ปุ่นได้ขยายกิจการไปต่างประเทศได้
จากข้อมูลของหอการค้าญี่ปุ่นพบว่า มีบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจัดตั้งและดำเนินธุรกิจในประเทศไทยแล้วมากกว่า 7,000 บริษัท แยกตามขนาดของธุรกิจพบว่าเกือบ 50% เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่มีขนาดกลางและเล็ก และในช่วงปี 2548-2553 ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นอันดับหนึ่งมาตลอด ทั้งนี้ ในภูมิภาคคันไซ ซึ่งคือโอซาก้าและจังหวัดใกล้เคียง มีปริมาณการค้ากับประเทศไทยสูงถึง 54,000 ล้านบาท โดยมียอดการส่งออกไปยังประเทศไทยราว 36,000 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของมูลค่ารวมที่ญี่ปุ่นส่งออกไปไทย และยอดการนำเข้าจากประเทศไทย 18,000 ล้านบาท คิดเป็น 37% ของมูลค่ารวมที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากไทย
หอการค้าและอุตสาหรรมโอซาก้าก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2421 เป็นองค์กรภายใต้ความดูแลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการในโอซาก้า มีสมาชิกประกอบด้วยบริษัทหลากหลายประเภท รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี บริษัทเอกชน องค์กรต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า ปัจจุบันมีสมาชิกว่า 30,000 บริษัท
KBank joins forces with OCCI in support of Japanese SMEs’ investment in Thailand
KASIKORNBANK has joined forces with the Osaka Chamber of Commerce and Industry (OCCI) to strengthen trade and investment among Thai and Japanese SMEs, through business matching activities and seminars abroad. This cooperation is hoped to generate a combined investment fund of more than 4.5 billion Baht within a year.
Mr.Banthoon Lamsam, KBank Chairman of the Board, said that an agreement of cooperation has been signed between KBank and the OCCI, a Japanese government organization providing assistance for expansion of SME businesses. The OCCI is located in Osaka, which is one of Japan’s trade and industry hubs. Under this cooperation, both parties will hold business matching activities and seminars to expand opportunities for interaction among companies.
Last February, a “Made in Japan Business Matching” was organized in Japan by KBank and the OCCI – the first business matching activity of KBank abroad. With the participation of businesses from Thailand, Japan and Myanmar, 60 business deals were concluded, suggesting that Osaka and other cities in the Kansai area have good potential in doing business with Thailand.
The agreement with the OCCI will pave the way for greater business opportunities for both countries, in that the OCCI will act as a coordinator inviting customers to join the above-stated activities. Customers’ financial profiles will be considered before their participation is approved. In addition, seminars will be held with local partner banks in order to select target customers. It is expected that, within a year, around 100 companies will participate in these activities, with trade value of not less than 4.5 billion Baht.
KBank aims to become a “AEC+3 Bank” to respond to increasing business opportunities opened up by trade liberalization in ASEAN, wherein Thailand will play an important economic role. On the platform of this agreement and KBank’s strong business network, plus efficient services offered to Japanese SMEs in Thailand, the Bank will be able to accommodate Japanese investors in their negotiations with counterparties in Thailand and other AEC countries via KBank’s partner network, in alignment with the “Thailand Plus One” policy of the Japanese government.
KBank has already entered into cooperation agreements with a number of Japanese counterparties including 27 local banks, one merger and acquisition expert, and seven other organizations. To meet Japanese customers’ needs, the Bank’s services are equipped with at least 30 Japanese-speaking staff members, and Japanese-friendly branches, call center and ATMs, along with important documents prepared in Japanese. Recently, at least 24 staff members of Japanese partner banks have been assigned to visit KBank for onsite business studying. Over the past year, at least 446 business matching deals have been completed under KBank’s arrangement, and 215 of these deals have performed successful transactions. Currently, the Bank’s Japanese corporate customers total 3,300 accounts, representing 14 percent of market share.
Mr.Tsutomu Miyagi, President of the OCCI, said Japan has embraced the major challenge of its SME business expansion in foreign countries, which is supported by the Japanese government with relevant assistance in trade, investment and technology. As a major business-driving mechanism, the OCCI has responded to the government’s policy by building necessary business networks, while its officials have been assigned to aid Japanese business expansion in Thailand at the Japanese Chamber of Commerce, Bangkok, wherein its membership is increasing. This has been made possible by KBank’s financial support for Japanese SMEs in Thailand, while a business network with Thailand’s neighboring countries has been created. The Bank’s staff members have also contributed in supporting Japanese companies for more than a decade, strengthening these businesses’ expansion overseas.
According to the Japanese Chamber of Commerce’s data, more than 7,000 Japanese firms are operating in Thailand, almost half of which are SME businesses. During 2005-2010, Japan was ranked the top foreign investor in Thailand. Trade between Thailand and Japan’s Osaka and nearby prefectures in Kansai reached 54 billion Baht, with exports to Thailand totaling 36 billion Baht, or 47 percent of total Japan’s exports to Thailand, and imports from Thailand registering 18 billion Baht, or 37 percent of total Japan’s imports from Thailand.
Established in 1878 and supervised by the Japanese government, the OCCI has a strong bond with business operators in Osaka. Its more than 30,000 members comprise various types of enterprises including large corporations, SMEs, private companies, and diverse organizations in Osaka.