- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 20 May 2015 22:10
- Hits: 2433
KBANK ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้มีผลพรุ่งนี้ หลังถูกธปท.ทวงถาม
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารฯ เตรียมจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงตั้งแต่วันพรุ่งนี้(21 พ.ค.) หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาเหลือที่ 1.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่สำหรับวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ MLR เหลือ 6.50% จากปัจจุบันที่ 6.63%, MOR เหลือ 7.37% จากปัจจุบันที่ 7.50% และ MRR เหลือ 7.87% จากปัจจุบันที่ 8.12%
นายบัณฑูร ระบุว่า ขอดูผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ ก่อนที่จะประเมินความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทั้งนี้ยอมรับว่าการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งนี้มีผลกระทบต่อรายได้ของธนาคาร
พร้อมมองว่า การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกสิกรในครั้งนี้เป็นการทำเพื่อให้ร่วมมือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเพื่อส่วนรวม หลังจากที่ธปท.ได้ซักถามมาหลายครั้ง แม้ธนาคารจะมองว่าหลังจาก กนง.มีมติปรับลดดอกเบี้ยลงจะยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ เนื่องจากยังมีหลายเครื่องมือที่จะยังสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
"หลังจากที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติทวงถามเรามาหลายครั้งแล้วว่าทำไมกนง.ลดดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารพาณิชย์ก็ยังไม่ให้ความร่วมมือในการลดดอกเบี้ยตามดอกเบี้ยนโยบายบ้าง ผมก็มองว่าแม้จะลดดอกเบี้ยนโยบายก็ยังไม่ใช่วิธีการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว มาตรการมหภาคทั้งการคลังและการเงินต่างก็ต้องใช้เวลาสักระยะกว่ามันจะได้ผลขึ้นมา ก็อยากให้ธปท.คิดถึงธนาคารพาณิชย์บ้าง อยากให้ร่วมกันช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันหาจุดสมดุล ไม่ก็ถอยกันคนก้าว ไม่ใช่มาจี้แล้วเกิดความขัดแย้งกันแบบนี้" นายบัณฑูร กล่าว
อย่างไรก็ดี การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารลงนั้น จะส่งผลให้รายได้ของธนาคารได้รับผลกระทบในเชิงลบ และจะส่งผลต่อราคาหุ้นของธนาคารที่จะมีการปรับตัวลงตาม เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการของธนาคาร
นายบัณฑูร กล่าวอีกว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันนั้นยังไม่แน่นอนว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีหรือไม่ หากไม่ยังไม่ได้ผลในทางที่ดีก็อาจจะปรับลดได้อีกทีละนิด
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ KBANK คาดว่า กำไรในไตรมาส 2/58 จะลดลงหลังธนาคารนำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเป็นรายแรก โดยธนาคารจะต้องบริหารจัดการลดต้นทุนลง ส่วนการพิจารณาลดดอกเบี้ยฝากจะต้องดูตลาด และสภาพคล่องต่อไป ทั้งนี้การลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารลงอาจจะมีผลกระทบต่อกำไรของธนาคารทั้งปีได้เช่นกัน
อินโฟเควสท์
บัณฑูร เผย KBANK นำร่องแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ย MLR-MOR-MRR ลง 0.13-0.25% มีผลพรุ่งนี้ - รับกระทบกำไรและราคาหุ้น
"บัณฑูร" เผย KBANK นำร่องแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ย MLR-MOR-MRR ลง 0.13-0.25% มีผลพรุ่งนี้ สนองนโยบาย ธปท. ส่วนดอกเบี้ยฝากรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ยอมรับกระทบกำไรและราคาหุ้น พร้อมหั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือ 6% จาก 8-9% หลังเศรษฐกิจไม่เติบโตอย่างที่คาด และเพิ่มกรอบ NPL จาก 2-2.4% เป็น 2.3-2.5% ส่งผลต้องตั้งสำรองเพิ่มในไตรมาส 2/58
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK กล่าวว่า ธนาคารฯ จะนำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท มีผลพรุ่งนี้ทันที (21 พ.ค.58) ส่วนเงินฝากขอดูสถานการณ์ก่อน
รายละเอียดมีดังนี้
MLR 6.50% หรือลดลง 0.13%(เดิม 6.63%)
MOR 7.37% หรือลดลง 0.13%(เดิม 7.50%)
MRR 7.87% หรือลดลง 0.25%(เดิม 8.12%)
นายบัณฑูร กล่าวว่า การที่ KBANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ที่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากเดิม 1.75% เป็น 1.5% เป็นการทำเพื่อให้ร่วมมือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเพื่อส่วนรวม หลังจากที่ผู้ว่าการ ธปท. ได้สอบถามมาหลายครั้ง แม้จะมองว่าหลังจาก กนง.ปรับลดดอกเบี้ยลงจะยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนักก็ตาม
"หลังจากที่ผู้ว่าฯแบงก์ชาติทวงถามเรามาหลายครั้งแล้วว่าทำไมกนง.ลดดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารพาณิชย์ก็ยังไม่ให้ความร่วมมือในการลดดอกเบี้ยตามดอกเบี้ยนโยบายบ้าง ซึ่งผมก็มองว่าแม้จะลดดอกเบี้ยนโยบายก็ยังไม่ใช่วิธีการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว มาตรการมหภาคทั้งการคลังและการเงินต่างก็ต้องใช้เวลาสักระยะ กว่ามันจะได้ผลขึ้นมา ก็อยากให้ ธปท.คิดถึงธนาคารพาณิชย์บ้าง อยากให้ร่วมกันช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันหาจุดสมดุล ไม่ก็ถอยกันคนก้าว ไม่ใช่มาจี้แล้วเกิดความขัดแย้งกันแบบนี้"
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงนั้น จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของธนาคารให้ปรับลดลง รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับราคาหุ้น แต่ถือเป็นเรื่องปกติ
ด้านนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ KBANK เปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2/58 ของ KBANK จะลดลง หลังธนาคารนำร่องลดดอกเบี้ยกู้ลงเป็นรายแรก โดยธนาคารจะพยายามบริหารจัดการลดต้นทุนให้ลดลงมากที่สุด ส่วนการพิจารณาลดดอกเบี้ยฝากจะต้องดูตลาด และ สภาพคล่องต่อไป
ขณะที่ ธนาคารได้ปรับเป้าสินเชื่อลงจาก 8-9% เป็น 6% โดยสินเชื่อรายใหญ่เหลือ 3-5% จากเดิม 4-6 % รายย่อยเหลือ 5-7% จากเดิม 8-9% และสินเชื่อเอสเอ็มอีเหลือ 6-8% จากเดิม 7.7% หลังเศรษฐกิจไม่เติบโตอย่างที่คาด
พร้อมกับปรับเพิ่มกรอบ NPL จาก 2-2.4% เป็น 2.3-2.5% โดยหลังจากไตรมาส 1/58 สัญญาณ NPL ขยับเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเอสเอ็มอี และรายย่อย ส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ในไตรมาส 2/58